คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว นิยาย บท 436

“เสี่ยวฉือเข้าใจเครื่องยนต์และชิพอย่างนั้นเหรอ? จะเป็นไปได้อย่างไร?”

วิทยานิพนธ์ที่หรงฉือตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ได้สร้างความฮือฮาอย่างมาก จนถึงตอนนี้หลินลี่ไห่ก็ยังไม่เชื่อว่านั่นจะเป็นผลงานที่หรงฉือเขียนขึ้นเองจริง ๆ

ตอนนี้ซุนเยว่ชิวกลับบอกเขาว่า หรงฉือเก่งในด้านเครื่องยนต์และชิพอย่างนั้นเหรอ?

จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?

ซุนเยว่ชิงหลุบสายตาลงต่ำ

จะเป็นไปได้หรือไม่นั้น เข้าไปดูบนอินเทอร์เน็ตก็รู้แล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน หลังดูเนื้อหาส่วนที่หรงฉือพูดในงานแถลงข่าวจบ หัวใจของซุนเยว่ชิงก็ค่อย ๆ หนักอึ้งขึ้น

ส่วนหลินลี่ไห่ยังคงไม่อยากจะเชื่อ

เวลานี้ ซุนลี่เหยาพูดอย่างเดือดดาลผ่านสายโทรศัพท์ว่า “เธอจงใจชัด ๆ ก่อนหน้านี้เธอขัดขวางโปรเจกต์การขนส่งของบริษัทคุณลุงก็แล้วไป ตอนนี้เธอยังจะมาป่วนบริษัทของพี่สาวอีก!”

เรื่องนี้ หลินลี่ไห่กับซุนเยว่ชิงก็มองออกเช่นกัน

ไม่ว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในงานแถลงข่าวจะเป็นผลงานของหรงฉืออย่างที่ทุกคนเห็นจริง ๆ หรือไม่ แต่อย่างหนึ่งที่แน่นอนคือ งานแถลงข่าวของเจี๋ยเซี่ยวครั้งนี้จะส่งผลกระทบรุนแรงถึงขั้นทำลายล้างต่อซวิ่นตู้แน่นอน!

แต่ทว่า พวกเขายังไม่ทันได้พูดอะไร ซุนลี่เหยาก็พูดด้วยความกังวลอย่างมากอีกว่า “ตอนนี้จะทำอย่างไรดี? ตอนนี้ทุกคนต่างพูดกันว่า ในอนาคตตลาดรถยนต์ไร้คนขับคงถูกเจี๋ยเซี่ยวยึดครองไปเกือบหมด ส่วนบริษัทของพี่สาวตอนนี้แทบจะไม่มีความสามารถในการแข่งขันเลยด้วยซ้ำ...”

แม้เจี๋ยเซี่ยวตอนนี้จะดูเก่งมากก็ตาม แต่ว่า...

ซุนเยว่ชิงคลายมือที่กำไว้แน่น น้ำเสียงยังคงแฝงไปด้วยความเย็นชาอยู่หลายส่วน ก่อนจะพูดขึ้นว่า “แวดวงเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็วทุกวัน วันนี้บริษัทของคุณอาจมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หรือไม่ก็บริษัทฉันมีความสามารถในการแข่งขันที่มากกว่า ตอนนี้รถยนต์ไร้คนขับยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปทั่วโลก พวกเรายังมีเวลา สถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เมื่อรถยนต์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ใครมีความสามารถในการแข่งขันทางตลาดที่มากกว่ากัน ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป”

คำพูดของซุนเยว่ชิงฟังดูมีเหตุผลผลจริง ๆ

อย่างไรก็ตาม ตลอดหลายปีที่บริษัทเทคโนโลยีของครอบครัวหลินลี่ไห่ก่อตั้งขึ้น ยังไม่เคยสร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่พอจะแข่งขันได้เลย เขารู้ดีว่าการจะทำให้ผลิตภัณฑ์มีความได้เปรียบทางเทคโนโลยีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

ถึงอย่างไร หากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ง่ายดายแบบนั้น เช่นนั้นไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ คงไม่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีหรอก

เมื่อพูดถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการคว้าโอกาส

ยิ่งไปกว่านั้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของเจี๋ยเซี่ยวในครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว แต่ครอบคลุมหลายด้าน แถมเทคโนโลยีที่พวกเขาพัฒนายังอยู่ในระดับโลกอีกด้วย

บริษัทอื่นอาจจะต้องใช้เวลาสองปี หรือมากกว่าสิบปีไปจนถึงยี่สิบปี จึงจะเทียบชั้นหรือไล่ตามเจี๋ยเซี่ยวทัน

แต่พอพวกเขาคิดว่าตัวเองไล่ตามทัน ก็ไม่มีที่สำหรับพวกเขาในตลาดอีกต่อไปแล้ว