ช่วงนี้หรงฉ่างเซิ่งเริ่มสนิทกับคนของเฉวียนซื่อมากจริง ๆ และอันที่จริงก็มีแผนที่จะร่วมงานกับพวกเขาด้วย
เขาไม่รู้ว่าเฟิงถิงเซินรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร
แต่ว่า นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่พูดไม่ได้สักหน่อย
เมื่อเห็นว่าเฟิงถิงเซินมีใจเป็นฝ่ายเสนอขึ้นมา เขาก็ตอบกลับว่า “ใช่”
ต่อมา เฟิงถิงเซินกับหรงฉ่างเซิ่งก็คุยกันถึงเรื่องธุรกิจขึ้นมา
ส่วนคุณย่าเฟิงกับหรงฉือ แล้วยังมีเหอหมิงเสว่ พวกเขาคุยกันเรื่องอื่น
เฟิงถิงเซินคุยเรื่องงานกับหรงฉ่างเซิ่งไปด้วย ดูแลเรื่องอาหารของเฟิงจิ่งซินไปด้วย อย่างเช่นแกะกุ้ง และเช็ดมือให้เธอ
ตอนนี้เฟิงจิ่งซินติดหรงฉือหนักมาก จริง ๆ แล้วเธออยากให้หรงฉือดูแลเธอมากกว่า เธอจึงปัดมือเฟิงถิงเซินที่พับแขนเสื้อให้เธอ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “หนูอยากให้คุณแม่พับให้หนูค่ะ”
เฟิงถิงเซินได้ยิน ก็ยิ้มเล็กน้อย แล้วมองไปทางหรงฉือ
เมื่อเห็นเฟิงจิ่งซินยื่นมือมาตรงหน้าตัวเอง จึงทำได้เพียงช่วยเธอพับแขนเสื้ออีกข้างหนึ่งขึ้นเท่านั้น
ตอนนี้เฟิงจิ่งซินจึงจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
คนอื่น ๆ ดูฉากนี้ กลับรู้สึกว่ากลมกลืนกันดีอย่างไม่มีเหตุผล
แต่ว่า ระหว่างเฟิงถิงเซินกับหรงฉือยังไม่พูดอะไรกันเลยสักคำ
พอมื้ออาหารจบลง โดยรวมแล้ว บรรยากาศถือว่าดีเลยทีเดียว และสุดท้ายอาหารมื้อนี้ เฟิงถิงเซินก็เป็นคนจ่ายอยู่ดี
หรงฉ่างเซิ่ง “ประธานเฟิง ตกลงกันแล้วว่าผมจะเป็นคนเลี้ยง แล้วนี่ทำไมยัง...”
เฟิงถิงเซิน “ไม่เป็นไรหรอกครับ ครั้งหน้าประธานหรงเลี้ยงก็เหมือนกัน”
ครั้งหน้าเหรอ...
ถึงแม้หรงฉ่างเซิ่งจะรู้สึกว่าตอนที่ทานอาหารเมื่อสักครู่ เฟิงถิงเซินคุยกับเขาด้วยท่าทีที่ดีมากจริง ๆ แต่เขาไม่คิดว่าจะยังมีโอกาสที่พวกเขาจะได้นั่งทานอาหารด้วยกันแบบนี้อีก
เขาคิดว่าที่เฟิงถิงเซินพูดแบบนี้ น่าจะเป็นแค่มารยาทเท่านั้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว
อยากให้ลงวันละ 10 ตอนจะขอบคุณมากค่ะ...
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่เราเติมเงินได้เมื่อซื้อบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น เราไม่ได้มีเงินมากมายพอทำบัตเครดิตได้ ขอโทษนะคะ...