"กฎก็คือกฎ จะทำลายกฎเดิมที่มีอยู่เพราะคุณคนเดียวไม่ได้"
"แหะๆๆ พูดมีเหตุผลค่ะ หรือว่าเอางี้มั้ย ฉันให้ผู้จัดการออกใบแจ้งหนี้ เดี๋ยวคุณให้ฉันเบิกเงินนะ"
มณิการู้ว่าวายุเป็นคนที่มีหลักการมากๆ ส่วนกฎเหล็กของคลับดิมไลท์ก็คือไม่ติดค้างหนี้ ไม่ลดราคา ไม่มีโปรโมชั่น!
บางทีความหมายที่วายุอยากสื่ออาจจะคือคลับดิมไลท์ลดราคาให้ไม่ได้ แต่เอาใบแจ้งหนี้ไปหาเขา เขาน่าจะให้เบิกอยู่
"ค่าใช้จ่ายของคุณเอง ผมมีเหตุผลอะไรให้คุณเบิก"
มณิกา:"......"
ฟังท่าทีที่แข็งกระด้างของวายุจากในสายแล้ว เธอได้อึ้งค้างก่อน จากนั้นได้โมโหปรี๊ดแตก "วายุ เป็นคนอย่าหักหน้าและไม่รักษาน้ำใจเกินไป ก็แค่เงินนิดหน่อยไม่ใช่เหรอ?คุณมีเงินเยอะแยะขนาดนั้น คิดตังค์ฉันน้อยหน่อย ขนหน้าแข้งไม่ร่วงสักหน่อย?รู้มั้ยว่าเงินมันหายาก ฉันที่ดิ้นรนขวนขวายอยู่ในชนชั้นระดับล่างจะมีเงินเยอะแยะขนาดนั้นได้ยังไง?รังแกคนมากเกินไปแล้ว!"
"รู้ว่าตัวเองจน แต่ยังจะสั่งเหล้าที่แพงที่สุดอีก นี่เรียกว่าไม่ดูกำลังความสามารถของตัวเอง"
"แม่ง......ก็ฉันนึกว่าคุณจะลดราคาให้ฉันไม่ใช่เหรอ?"
"ไม่รู้จักคนอื่นดีพอ แต่ยังคาดเดาเกินกว่าเหตุ นี่เรียกว่าคิดว่าตัวเองถูกอยู่ตลอดเวลา"
"ฉัน......"
มณิกาถูกวายุตอกกลับจนพูดอะไรไม่ออก โมโหจนไฟลุกไหม้ในใจ เธอกัดฟันพูด:"ฉันถามคุณแค่คำเดียว จะลดราคาให้ฉันหรือเปล่า?"
"ผมไม่อยากทวนซ้ำคำพูดของผมรอบสอง"
"คุณวายุ คุณจำไว้ให้ดีนะ เป็นผู้ชายเหี้ยจริงๆ ไม่ใช่คนดีอะไรเลย ยังพี่บุญธรรมอีก ไปให้พ้นเลย ไอ้กากเอ้ย นอกจากหลอกใช้คนแล้ว ไม่มีน้ำใจสักนิดเลยจริงๆ รู้ว่าฉันไม่มีค่าให้คุณหลอกใช้แล้วก็แตกคอกันไปข้างเลย"
"ถุย เรื่องของวันนี้ฉันจะจำใส่หัวเอาไว้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณไม่ใช่พี่ชายฉันอีก ฉันก็ไม่มีพี่ชายอย่างคุณ ไม่ ฉันจน ไม่คู่ควรกับผู้ดีอย่างคุณ ลาก่อน!"
มณิการู้สึกไฟโกรธเผาไหม้อยู่ในใจ ไม่ให้โอกาสวายุได้หักล้างก็วางสายทิ้งโดยตรง
ยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยความโมโห อารมณ์โกรธเกรี้ยวไม่สามารถสงบลงสักที
เธอแหงนหน้ามองฟ้า ดวงดาววิบวับเต็มท้องฟ้า พระจันทร์สว่าง สายลมยามดึกเย็นเล็กน้อย ได้ปัดเป่าคงามเมาของเธอไปบางส่วน
ในหัวของมณิกามีคำพูดสองคำนั้นของวายุวนเวียนอยู่:รู้ว่าตัวเองจน ยังสั่งเหล้าที่แพงที่สุดอีก นี่เรียกว่าไม่ดูกำลังความสามารถของตนเอง ไม่รู้จักคนอื่นดีพอ แต่ยังคาดเดาเกินกว่าเหตุ นี่เรียกว่าคิดว่าตัวเองถูกอยู่ตลอดเวลา!
ใช่ คำพูดของวายุไม่มีปัญหาอะไรเลย
ก็เธอคิดว่าตัวเองถูกอยู่ตลอดเนี่ยแหละ ด้วยความสัมพันธ์ที่นึกว่าช่วงนี้อยู่กับวายุทั้งวันทั้งคืนและอยู่ห้องเดียวกัน ไร้เดียงสาจนคิดว่าวายุจะลดราคาให้เธอจริงๆ เหรอ?
ปรากฏกลับหน้าแหกซะงั้น
มณิการู้ดี ท่าทีที่วายุมีต่อเธอเปลี่ยนไปไวขนาดนี้ เป็นเพราะว่าเธอกำลังจะไปจาก เมืองจันทรา
นับแต่นี้ไปไม่สามารถให้เขาได้ใช้งานอีก ไม่มีทางเป็นหมากรุกของเขาอีก ไม่มีค่าใดๆ ให้หลอกใช้อีก
วายุก็ย่อมไม่สิ้นเปลืองกำลังจิตใจกำลังใดๆ และทรัพยากรที่บนตัวเธออยู่แล้ว
เดิมทีพวกนักธุรกิจก็เป็นคนที่เจ้าเล่ห์อยู่แล้ว
เธอไร้เดียงสาเกินไป
"เหอะๆ "
หลังจากคิดทุกอย่างได้ มณิกาส่ายหัวพร้อมหัวเราะเยาะตัวเอง ถอนหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง จากนั้นได้หันหลังเดินเข้าไปในคลับดิมไลท์
มณิกายืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์แล้วดูบิล:1023991.22หยวน!
แพงจังเลย!
มิน่าล่ะวายุไอ้ชาติชั่วคนนั้นถึงได้รวยขนาดนี้ ที่แท้ล้วนต้มตุ๋นคนขนาดนี้นี่เอง
เธอกำบัตรเครดิตไว้แน่น แล้วยื่นออกไปอย่างมือสั่น
พนักงานหน้าเคาน์เตอร์รับบัตรเครดิตของเธอมา แต่กลับดึงมาไม่ได้ จึงได้ออกแรงไปฉุดดึงบัตรเครดิตมา แต่มณิกากลับกระชากแน่นขึ้นกว่าเดิม
มองสาวสวยของหน้าเคาน์เตอร์แล้ว เธอได้พูดอย่างกล้ำกลืน:"คนสวย ยังไงเมื่อก่อนเราสองคนก็เคยทำงานอยู่ด้วยกัน ลดราคาให้ฉันหน่อยได้มั้ย?"
เมื่อก่อนเธอก็ทำงานอยู่ที่คลับดิมไลท์นี่เอง ถึงแม้ตอนนี้หน้าได้'เปลี่ยน'ไป แต่ก็ยังเป็นมณิกาที่พวกเขารู้จักอยู่
คนในคลับต่างก็เคยซุบซิบนินทามณิกาอยู่ไม่มากก็น้อย ก็พอรู้จักเธอดีอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า