มณิกาเดินออกมาจากลานจอดรถชั้นใต้ดินอย่างหมดอาลัยตายอยาก จู่ๆ มือถือที่อยู่ในกระเป๋าดังขึ้น
ตอนที่เธอล้วงมือถือออกมา ในหัวมีวายุโผล่ขึ้นมาอย่างห้ามใจไม่ได้ ความคิดที่ว่า'ใช่เขาโทรมาหรือเปล่า'ได้แว๊บผ่านสมองของเธอ ต่อมาเธอถึงนึกขึ้นได้ว่าเธอได้บล็อกเขาไปแล้ว
มองหน้าจอมือถือ ได้โชว์เบอร์ของเหนือเมฆ
เธอแอบโล่งอกไปที จากนั้นได้รับสาย "เหนือเมฆ?"
"คุณทำอะไรอยู่ จะออกมาทานมื้อดึกมั้ย?"เหนือเมฆที่อยู่ในสายคอยสอบถามเธอ
เพราะรู้ว่ามณิกาจะกลับ เมืองจันทรา
แล้ว เขาเลยอยากนัดเธอออกมาและอยู่เป็นเพื่อนเธอนานๆ หน่อย
"ได้สิคะ ฉันยังไม่ได้ทานข้าวพอดีเลยแต่วันนี้คุณต้องเลี้ยงนะ ฉันไม่มีตังค์" พอมณิกานึกถึงเมื่อวานได้ใช้เงินไปเยอะขนาดนั้น ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
"เลี้ยงข้าวคุณไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่คราวหน้าถ้าผมเมาเหล้า อย่าเอาผมไปทิ้งที่โรงแรมราคาถูกขนาดนั้นได้มั้ย?ผมไม่ใช่ว่าไม่ให้คุณเบิกสักหน่อย"
ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าตอนที่เหนือเมฆตื่นขึ้นมา พอลืมตาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่โรงแรมราคาถูกแล้วจิตใจพังทลายแค่ไหน
"ฮ่าๆๆ ก็ฉันไม่มีตังค์นี่คะ เงินหายากค่ะ เงินหายาก ฮ่าๆๆ "
มณิกายิ้มแย้มแจ่มใส รู้สึกแค่ว่าอยู่กับเหนือเมฆแล้วผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ
ทั้งสองได้นัดเจอกันในแผงขายอาหารที่คราวก่อนมณิกาได้เลี้ยงเขา
หลังจากเจอหน้ากัน พวกเขาได้หาที่นั่งๆ ลง มณิกาได้สั่งอาหารไปหลายอย่าง จากนั้นได้สั่งเบียร์มาแพ็คหนึ่งแล้วนั่งพูดคุยหัวเราะกับเหนือเมฆ
"ตอนเช้าคุณโทรหาผมบอกว่ามีธุระไม่เข้าบริษัท เรื่องอะไรที่ให้คุณยุ่งทั้งวันเลย?"
เหนือเมฆนั่งอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามของมณิกา สายตามองดูเธออยู่เป็นพักๆ แววตาเปล่งประกาย
พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ รอยยิ้มของมณิกาได้ชะงักเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด ต่อมาเธอได้ยิ้มพร้อมยักคิ้วเล็กน้อย "ไม่มีอะไรค่ะ ก็แค่เมื่อวานยุ่งมาทั้งวัน เลยรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยเท่านั้นเอง"
เรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอและวายุ มณิกาไม่อยากไปพูดถึงมัน
"อ้อใช่ เมื่อวานที่คลับดิมไลท์ได้เช็คบิลไปเท่าไหร่?"
เหนือเมฆส่ายหัวอย่างค่อนข้างเก้อเขิน เขายักไหล่และยิ้มอย่างร้ายๆ "เมื่อวานอารมณ์ดี เลยดื่มเยอะไปหน่อยและเผลอหลับไป"
ได้ยินคำพูดของเขา มณิกาไม่ได้พูดต่อ เหมือนไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง
"วายุลดให้คุณกี่เปอร์เซ็นต์?หรือว่าไม่ได้คิดตังค์?"
เท่าที่เหนือเมฆรู้จักวายุ เขาก็ถือว่าแคร์มณิกามากอยู่
ครั้งนั้นมณิกาถูกลักพาตัวไปต่างประเทศ วายุเป็นคนไปช่วยมณิกาตัดหน้าเขาก่อน คราวก่อนอยู่หมู่บ้านบุริมพิสัยเกิดน้ำป่าไหลหลาก มณิกาถูกน้ำป่าซัดไป ก็วายุที่ไปช่วยมณิกาตัดหน้าเขาก่อนเหมือนกัน
สัญญาณต่างๆ เหนือเมฆล้วนเห็นอยู่ในสายตา
แต่มณิกากลับรู้สึกว่าเหนือเมฆเนี่ย 'ประเด็นไหนไม่ควรยกขึ้นมาพูด ก็ดันยกขึ้นมาพูดซะงั้น'
"เขา......"
มณิกาอยากบอกว่าวายุเก็บเงินเธอเต็มๆ แต่ตามนิสัยของเหนือเมฆแล้ว ถ้าหากรู้ว่าค่าใช้จ่ายของเมื่อคืนได้ถูกเก็บเต็ม เขาจะต้องโอนเงินมาให้เธอแน่นอน
ตั้งแต่มาถึง เมืองจันทรา
เหนือเมฆได้ดูแลเธอมาเยอะมาก มณิกาซาบซึ้งอยู่ในใจ เธอไม่อยากติดค้างเหนือเมฆอีก จึงได้พูดโกหกไปว่า:"ยังโอเคอยู่ ไม่ได้คิดตังค์ค่ะ ใช่ ไม่ได้คิดตังค์ เหอะๆ ......"
ไม่ได้คิดตังค์ให้น้อยน่ะสิ!
เธอยิ้มอย่างขมขื่น เทเบียร์มาแก้วหนึ่ง จากนั้นได้ยกแก้วขึ้นมาชนกับเหนือเมฆ "มา ชนแก้วกันหน่อย อีกไม่กี่วันฉันก็จะไปแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้รวมตัวกันอีก คุณว่าถูกมั้ยคะ"
"อืม วันนี้ไม่เมาไม่กลับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า