เดินอยู่หน้าสวนสาธารณะ เธอรอวายุไปด้วย และคอยสอบถามคนที่เดินผ่านรอบไปด้วยว่าเห็นนายหญิงเนตรหรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อะไรสักอย่างเลย
ผ่านไปสิบกว่านาที รถยนต์คันหนึ่งได้ขับมาจอดที่ตรงหน้าของมณิกาอย่างไว
วายุลงมาจากรถ เขาที่สีหน้าแววตาเคร่งขรึมเดินมาที่ตรงหน้ามณิกาแล้วเค้นถาม:"เรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่?"
"คุณย่าเรียกฉันมาที่สวนสาธารณะ ท่านได้พูดคุยกับฉันไปเยอะแยะ เล่าเรื่องที่ตนเองเป็นโรคอัลไซเมอร์ให้ฉันฟัง ฉันเห็นท่านพูดจาอยู่ตลอด เลยอยากไปซื้อน้ำให้ท่านดื่ม ปรากฏพอฉันไปซื้อน้ำกลับมา ท่านก็ได้หายตัวไปแล้ว"
ในใจของมณิการ้อนรุ่มดั่งไฟ "ฉันอยู่ในสวนได้ถามคนไปมากมาย ต่างก็บอกหาคุณย่าไม่เจอ แค่เก็บมือถือของคุณย่าได้อย่างเดียว"
เธอเอาสมาร์ทโฟนเครื่องที่อยู่ในมือยื่นให้กับวายุ
วายุรับสมาร์ทโฟนมา มองหน้าตาที่ละอายใจ โทษตัวเองและวิตกกังวลของมณิกาแล้ว ผู้ชายยังคงสีหน้าเย็นชาอีกเช่นเคย "ไม่ต้องให้คุณตามหาคุณย่าแล้ว คุณไปเถอะ"
ผู้ชายกุมมือถือไว้ จากนั้นได้หันหลังขึ้นรถแล้วปิดประตูเสียงดัง"ปัง"
เห็นเขาขับรถยนต์จากไปโดยตรง มณิกายืนอึ้งอยู่กับที่ตั้งครึ่งค่อนวัน
ท่าทีที่เขามีต่อเธอเย็นชาเกินไป
เหอะ เห็นเธอไม่มีค่าให้หลอกใช้ ก็เย็นชาใส่เลย?
คนเรา ทำไมถึงได้เห็นแก่โลกความจริงขนาดนี้?
เธอมองรถยนต์ของวายุค่อยๆ จากไปไกล จนกระทั่งสูญหายไปจากสายตา
มณิการู้ว่าวายุจะต้องใช้อิทธิพลของตัวเองตามหานายหญิงเนตรแน่นอน แต่เธอก็ยังค่อนข้างเป็นห่วงอยู่ดี
เธอจึงคอยตามหานายหญิงเนตรอยู่ที่รอบๆ อีก ผู้คนมากมาย ตามหาคนคนหนึ่งเหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทรเลย
ระหว่างนั้น เธอได้โทรหาและส่งข้อความเสียงให้วายุอีก แต่วายุล้วนไม่รับสายเลย
มณิกาโทรเข้าเครื่องของนายหญิงเนตรก็ไม่มีคนรับสายเลย
เธอคาดเดาว่าพวกเขาคงจะตามหานายหญิงเนตรอยู่
วันนี้ทั้งวันมณิกาก็เลยได้เดินทุกที่ของละเวกนี้จนทั่วหมด คอยตามหานายหญิงเนตรเหมือนอย่างกับบ้าไปแล้ว จนกระทั่งยามดึก เธอที่เดินมาทั้งวันได้เหนื่อยจนทรุดลงไปที่เก้าอี้ยาวของข้างถนน
นั่งพักอยู่บนเก้าอี้ มณิกาได้โทรหาวายุอีก มือถือโทรติดตลอด แต่กลับไม่มีคนรับสายสักที
ในขณะที่จะวางสายทิ้ง ทางโน้นถึงได้รับสาย
"ทำไมคุณถึงไม่รับสายเลย?หาคุณย่าเจอหรือยัง?"เธอถามอย่างร้อนรนใจจนทนไม่ไหว
แต่แล้ว ในสายกลับมีเสียงของนภัทรดังขึ้น "คุณมณิกาครับ หานายหญิงเจอตั้งแต่เช้าแล้วครับ"
"ตอนเช้าก็หาเจอแล้ว แล้วทำไมถึงไม่บอกฉันเลย นายรู้หรือเปล่าว่าฉัน......"
ฟังคำพูดของนภัทรแล้ว มณิกาได้โกรธจัด เธอพูดเสียงสูงอยากจะด่าคำหยาบคาย
แต่แล้วเพิ่งพูดไปได้ครึ่งหนึ่งก็ถูกนภัทรพูดแทรกซะงั้น "บอสบอกว่า ต่อไปคุณอย่าโทรมาอีกครับ"
มณิกาที่กำลังพูดอยู่ได้ยินคำพูดของนภัทรแล้ว เสียงได้หยุดลงทันที อึ้งอยู่หลายวิถึงดึงสติกลับมา
ที่แท้ หานายหญิงเนตรเจอตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนวายุกลับเพราะเธอไม่มีค่าใดๆ ให้หลอกใช้ ถึงกับไม่ยอมรับสายเลย
ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง!
พริบตาเดียวความโกรธของเมื่อครู่ก็ได้ถูกน้ำเย็นรดใส่หัวหนึ่งกะลังมัง รดจน'หัวใจเย็นชา'ไปหมด ไม่มีความโกรธของเมื่อครู่อีก
สิ่งที่เหลืออยู่ มีแค่ความเหน็บแนมที่ไม่มีที่สิ้นสุด
"อืม แค่นี้นะ"
เธอวางสายทิ้ง แล้วมองขวดน้ำในมือที่ดื่มจนใกล้หมด ความรู้สึกอัปยศได้โผล่ขึ้นมาในใจ
มือกำขวดน้ำไว้แน่น ขวดพลาสติกได้ส่งเสียงแกร๊กออกมา แสบแก้วหูมาก แต่ก็เหมือนการเยาะเย้ยที่ไร้เยื่อใย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า