บทที่ 537 สืบค้นความลับของอวกาศ
ถึงพ่อค้าอวกาศจะแสดงวาทะแกมโกง แต่สติปัญญาของมนุษย์ก็ไม่ใช่เล่นๆ
หลังจากผ่านการต่อราคาสามวันสามคืนแล้ว ทั้งสองฝ่ายได้สิ่งที่ตัวเองต้องการไป
ต้องยอมรับเลยว่า เทคโนโลยีสาแหรกที่อารยธรรมพ่อค้าต่างดาวมีนี่เยอะมากจริงๆ
ระหว่างการเจรจาครั้งนี้ มนุษย์ได้รับเทคโนโลยีสำคัญของอารยธรรมระดับสี่หลายอย่าง
และสิ่งที่ทำให้ลู่เฉินตื่นเต้นมากที่สุดคือ ถึงอารยธรรมพ่อค้าต่างดาวจะไม่มีเทคนิครูหนอนฉบับสมบูรณ์ แต่พวกเขาก็มีทฤษฎีฉบับสมบูรณ์อยู่
ถึงทฤษฎีนี้จะมีหลายจุดที่ไม่แน่นอน แต่ขอเพียงมีแนวทางนี้อยู่ ก็สามารถทำให้มนุษย์ร่นเวลาวิจัยไปได้หลายสิบปีหรือแม้แต่หลายร้อยปีเลยทีเดียว
พอมีเทคโนโลยีรูหนอนเสร็จ มนุษย์ก็จะสามารถยึดครองพื้นที่ในทางช้างเผือกได้จริงๆซะที
แน่นอนว่า แผนการขั้นต้น ไม่มีการวิจัยสิบถึงยี่สิบปี พวกนักวิทยาศาสตร์วิจัยเทคโนโลยีรูหนอนออกมาได้แน่
การเจรจาครั้งนี้ถึงจะเสียเวลาไปเกือบยี่สิบวัน แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเคดี
เพียงแต่แร่ธาตุจำนวนมากที่มนุษย์เก็บไว้หายไปในการเจรจาครั้งนี้แล้วล่ะ
แต่หลังจากได้แผนที่ดาวมาแล้ว บรรดานักวิทยาศาสตร์ก็หาเจอแล้วว่า ระหว่างทางที่จะไปถึงเคปเลอร์ 55 มีดาวเล็กจำนวนมาก และบนดาวเล็กพวกนั้นสามารถขุดเจาะแร่ธาตุได้
เพียงแต่จะได้แร่ธาตุหายากหรือเปล่า คงต้องแล้วแต่สวรรค์แล้วล่ะ
ต่อมา เป้าหมายของมนุษย์คือเคปเลอร์ 55
การขับเคลื่อนเร่ร่อนในอวกาศนี่มันเดียวดายมาก โชคดีที่ระหว่างทางได้เจอดาวเล็กหลายดวงที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุจำนวนมาก ลู่เฉินให้คนจำนวนมากลงไปเก็บแร่ธาตุมา
แม้กระทั่ง เพื่อเพิ่มพูนการคงอยู่ของมนุษย์ ลู่เฉินไม่ได้ให้หุ่นยนต์เป็นกรรมกรแรงงาน แต่ให้ประชาชนไปเป็นกรรมกรแทน
แน่นอนว่า ด้วยเทคโนโลยีในตอนนี้ของมนุษย์ การเก็บแร่ธาตุอะไรพวกนี้ไม่มีอันตรายอะไรเลย
มีหลายคนมากที่ยอมเป็นกรรมกรฟรีเพื่อให้ได้ออกไปเดินเล่นนอกยานอวกาศซี-หวั้งบ้าง
สุดท้าย ผ่านการขับเคลื่อนยานอย่างเดียวดายมาหกปีเต็ม ยานอวกาศซี-หวั้งก็มาถึงเคปเลอร์ 55ในที่สุด
พอผ่านชั้นบรรยากาศเข้ามา บรรดานักวิทยาศาสตร์เริ่มวิเคราะห์เคปเลอร์ 55โดยละเอียด
ตำแหน่งดาวเคปเลอร์ 55อยู่ตรงกลางของระบบดาว เป็นดาวอาศัย
อุณหภูมิทั้งดาวอยู่ที่สิบถึงสี่สิบองศา ไม่มีหิมะ เหมาะเป็นดาวอาศัยให้มนุษย์มาก
ตอนนี้รอแค่ให้แน่ใจว่าบนดาวไม่มีอารยธรรมต่างดาวอื่นเท่านั้นเอง
แต่พวกนักวิทยาศาสตร์รู้สึกว่าน่าจะไม่มี
เพราะระบบดาวนี้อายุน้อยมาก พึ่งประกอบเป็นดาวได้แค่สองพันล้านปีเท่านั้นเอง เคปเลอร์ 55เองก็พึ่งประกอบเป็นดาวได้หนึ่งพันห้าร้อยล้านปี
แต่สภาพแวดล้อมสบายแบบนี้ น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอื่น เพียงแต่ยังไม่ได้รวมตัวเป็นอารยธรรมเท่านั้นเอง
หลังจากยานอวกาศซี-หวั้งเข้าสู่วงแหวนของเคปเลอร์ 55 และผ่านการสำรวจกว่าครึ่งเดือน ทั้งยิงส่งกระสวยอวกาศไปสำรวจนับร้อยครั้ง สุดท้ายได้ผลยืนยันแล้วว่าไม่มีอารยธรรมต่างดาวอื่นอาศัยอยู่
แต่มีสัตว์ป่าที่แข็งแกร่งมากมาย
เรียกได้ว่า มนุษย์คงต้องอยู่อาศัยรวมกับสัตว์ป่าเหล่านี้บนดาวดวงนี้แล้วล่ะ
พอแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อย ในที่สุดลู่เฉินสั่งการให้ยานอวกาศซี-หวั้งลงจอดที่พื้นดาว
ถึงจะมีเหตุการณ์ตอนพร็อกซิมาคนครึ่งม้าบีเข้ามา แต่เมื่อลงจอดที่ดาวใหม่ ลู่เฉินยังคงออกคำสั่งให้สร้างดาวดวงนี้เป็นประเทศของมนุษย์
มนุษย์ในตอนนี้ได้พัฒนาจำนวนประชากรไปถึงสี่แสนกว่า ชนเผ่าแคระสองล้านกว่า ส่วนชนเผ่าลู๋ข่ามีสามแสน
แต่สองกลุ่มหลังจนถึงตอนนี้ยังเป็นแค่ทาสของมนุษย์
ชนเผ่าลู๋ข่า เดิมพวกเขาเป็นอารยธรรมขั้นสุดระดับสาม เหมือนกับมนุษย์ในตอนนี้ ดังนั้นในระยะเวลาหนึ่ง ลู่เฉินไม่มีทางคืนอิสระให้กับชนเผ่าลู๋ข่าแน่
อนาคตอีกหลายสิบปี นักวิทยาศาสตร์ของชนเผ่าลู๋ข่า จะต้องทำงานเพื่อมนุษย์
เรียกว่าสร้างประเทศ แท้จริงแล้วคือการสร้างเมืองหลวง
ถึงทุกคนจะพกความขยันเต็มร้อยไปเข้าร่วมการสร้างเมือง
แต่เพราะมีประสบการณ์ครั้งพร็อกซิมาคนครึ่งม้าบี ทำให้ทุกคนกังวลในใจว่าจะมีเศษดาวนิวตรอนปรากฎขึ้นอีก และบีบให้มนุษย์ต้องออกไปเร่ร่อนในอวกาศอีกครั้ง
จนเมื่อสร้างประเทศไปได้สิบปี ก็ยังไม่มีการค้นพบดาวเคราะห์หรือเศษดาวนิวตรอนจะปะทะโลกใหม่ มนุษย์ถึงค่อยลืมเลือนเรื่องนี้ไป
และในปีนี้ ลู่เฉินได้ตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่
นั่นก็คือ จะเปิดคลังดีเอ็นเอของมนุษย์ เด็กหลอดแก้วนับพันนับหมื่นออกมาจากในห้องเย็น ทำการพัฒนาเด็กหลอดแก้วอย่างเป็นทางการ เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรมนุษย์
เด็กหลอดแก้วเหล่านี้จะแบ่งไปเลี้ยงดูตามอัตราส่วนเท่าๆกันที่แต่ละบ้าน
มนุษย์ในตอนนี้ เข้ายึดครองดาวดวงใหม่ เรียกได้ว่าแต่ละบ้านร่ำรวยกันมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์