ณ ดินแดนอันแสนกว้างใหญ่มีหลากหลายสิ่งมีชีวิตพืชพันธ์ุนานา ทั้งสัตว์ป่ามากมายล้วนดำรงชีวิตไปตามครรลอง แต่สิ่งหนึ่งที่ยากแท้จะหยั่งถึงคือจิตใจมนุษย์ ดีบ้าง ชั่วบ้าง ปะปน
กระท่อมขนาดกลางตั้งอยู่ติดชายป่าด้านหน้าคือทุ่งนาต้นข้าวเขียวขจีที่กำลังตั้งท้องเตรียมออกรวง หญิงสาววัยประมาณยี่สิบปีต้นๆนั้งลงบนแคร่ไม้ไผ่ทอดสายตามองไปเบื้องหน้าด้วยสายตายากจะคาดเดา ข้างกายมีสาวใช้วัยละอ่อนนั่งอยู่
" คุณหนูเจ้าคะ ไม่คิดจะกลับจวนจริงๆหรือเจ้าคะ นายท่านคงไม่คิดจะทอดทิ้งคุณหนูจริงๆหรอกเจ้าค่ะ " เสี่ยวชิงสาวใช้ข้างกายผู้ภักดีเอ่ยถาม
" เสี่ยวชิงข้ากลับไม่ได้หรอก ข้าแต่งงานออกจากจวนมาแล้ว และตอนข้าแต่งออกมาท่านพ่อก็คัดค้านเพราะสามีข้าเป็นเพียงชาวนาไร้หัวนอนปลายเท้าทำให้ท่านต้องอับอายชาวบ้าน " ซูเหม่ยอิง กล่าวกับสาวใช้ คำว่าแต่งออกจากจวนนั้นแท้จริงแล้ว ตนเองและสามีเพียงจัดพิธีเล็กๆกราบไว้เทวดาฟ้าดินและมีเพียงผืนป่าด้านหน้าที่เป็นสักขีพยานเพียงเท่านั้น
" แต่คุณชายถังเข้าเมืองไปนานแล้วนะเจ้าคะยังไม่กลับเรือนมาเลย " เสี่ยวชิงเอ่ย ด้วยความเป็นห่วงเจ้านาย แต่ไม่ทันได้คิดว่าคำพูดเหล่านั้นจะสะเทือนใจคนฟังมากน้อยเพียงใด
ซูเหม่ยอิงเหม่อมองออกไปยังปลายทางที่สามีเคยใช้เดินทางกลับบ้าน ด้วยใจอยากให้คนที่เฝ้ารอกลับมาเสียที สามีบอกว่ามีธุระสำคัญต้องเข้าเมืองไปสะสางปัญหาเกี่ยวกับญาตพี่น้องของเขาและเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อยเขาจะรีบมารับตนกลับไปอยู่ด้วยกัน นี่ก็ล่วงเลยมาเกือบเจ็ดเดือนแล้วยังไร้วี่แววที่สามีจะกลับมา
ขณะนี้อายุครรภ์ของตนแปดเดือนกว่าเข้าไปแล้ว ใช่!ตนกำลังตั้งครรภ์โดยที่สามียังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเจ้าก้อนแป้งอยู่ในนี้ เพราะตอนสามีจากไปเพิ่งตั้งครรภ์อ่อนๆยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีเจ้าก้อนแป้งอยู่ในท้อง แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้บอกเขาหรือไม่ ซูเหม่ยอิงได้แต่เก็บซ่อนน้ำตาไว้ในใจไม่ให้ไหลออกมา
" ว่าแต่ท้องของคุณหนูทำไมถึงใหญ่นักละเจ้าคะ หรือว่าเจ้าก้อนแป้งจะกินเก่งจนตัวอ้วนพลี " เสี่ยวชิงเอ่ยเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนมีสีหน้าหม่นลง
" คงเป็นเช่นนั้น แถมยังดิ้นเก่งอีกด้วยนะ " ซูเหม่ยอิงเอ่ยพร้อมกับยิ้มออกมาเมื่อเอ่ยถึงลูกน้อยในครรภ์ของตนเอง
* *
กลางดึกปลายยามจื่อ(23.00-24.59) ซูเหม่ยอิงนอนกระสับกระส่าย ใบหน้าบิดเบี้ยว เหงื่อใหลซึมเต็มกรอบหน้า ยามนี้ท้องของตนมันปวดหน่วงเป็นอย่างมาก ปวดจนแทบจะทานทนไม่ไหว
" สะ.. เสี่ยว..ชิง " ซูเหม่ยอิงกัดฟันเรียกสาวใช้ข้างกาย
เสี่ยวชิงที่กำลังนอนหลับเมื่อได้ยินเสียงเรียกจึงรีบลืมตาตื่นขึ้นมา "คุณหนูเป็นอะไรหรือเจ้าคะ "
" ข้าปวดท้อง ปวดมาก.."
" ห๊า!!.." เสี่ยวชิงร้องเสียงดัง " คุณหนูจะคลอดแล้วหรือเจ้าคะ " เสี่ยวชิงเอ่ยถามเสียงดัง ทั้งตกใจ ทั้งตื่นเต้น ด้วยไม่คาดคิดว่าเจ้านายจะคลอดไวเช่นนี้ ทั้งที่กำหนดยังเหลืออีกตั้งหนึ่งเดือน
" คุณหนูอดทนไว้ก่อนนะเจ้าคะ บ่าวจะให้จิ่นจ้งไปตามท่านหมอมาเดี๋ยวนี้ " เสี่ยวชิงเอ่ยจบก็รีบวิ่งไปหาจิ่นจ้งที่นอนอยู่บนแคร่ไม้ด้านข้างเรือน
จิ่นจ้งคือบ่าวชายวัยยี่สิบของคุณชายถังที่ทิ้งเอาไว้คอยช่วยเหลืองานต่างๆ จิ่นจ้งมีนิสัยเงียบขรึมแต่ขยัน ทำงานหนักได้ไม่ปริปากบ่นสักคำ ซ้ำยังร่างกายแข็งแรงกำยำมากอีกด้วย เสี่ยวชิงเมื่อบอกกล่าวจิ่นจ้งเสร็จเรียบร้อย ก็รีบวิ่งไปดูนายของตนทันที
ไม่ถึงสองเค่อจิ่นจ้งกลับมาพร้อมท่านหมอหญิงวัยกลางคน เสี่ยวชิงยังอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมท่านหมอถึงได้มาถึงเร็วนักทั้งที่ตัวเมืองนั้นอยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้ แต่เวลานี้จะมัวมาสงสัยอะไรไม่ได้เธอต้องเข้าไปช่วยท่านหมอและคอยช่วยเป็นกำลังใจให้เจ้านายของตัวเอง
" เบ่งเจ้าค่ะ..เบ่งเเรงๆเลยเจ้าค่ะ " เสียงหมอหญิงเอ่ยบอกให้เบ่งดังลอดออกมาจากกระท่อม
" อื๊อ ...."
" ดีเจ้าค่ะ..ใกล้แล้วเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าค่ะ "
" อ้าย..กรี้ดดด " เสียงเบ่งสุดท้ายดังลั่น " แว้ๆ..อุแว้ " เสียงเด็กร้องออกมาดังลั่น
" เป็นคุณหนูเจ้าค่ะ " เสียงหมอตำแยเอ่ยพร้อมกับยิ้ม ท่านหมอจัดการล้างตัวเด็กพร้อมกับห่อผ้าแล้วส่งให้ผู้เป็นแม่อุ้ม โดยมีเสี่ยวชิงคอยมองอยู่ไม่ละสายตา
คุณหนูน้อยช่างงดงามตั้งแต่วัยเยาว์เลยหรือนี่
ู " เคร้งๆๆ " เสียงโลหะกระทบกันดังลอดเข้ามาภายในกระท่อม เสี่ยวชิงรีบวิ่งออกมาดูทันที ภาพที่เห็นทำให้เธอเข่าแทบทรุดส่งเสียงร้องออกมา "ว้ายย.."
" เสี่ยวชิงรีบพานายหญิงหนีไปเร็ว หนีไปให้ไกลที่สุดข้าจะคอยสกัดมันไว้ให้ " จิ่งจ้งเอ่ยเสียงดังเรียกสติสาวใช้ของนายหญิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน
รอนะคะ อัพต่อหน่อยค่า...