คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 10

สรุปบท บทที่10 ง้อพี่ชายคนสนิท: คู่แฝดคู่ป่วน

สรุปตอน บทที่10 ง้อพี่ชายคนสนิท – จากเรื่อง คู่แฝดคู่ป่วน โดย ไป๋หลัน

ตอน บทที่10 ง้อพี่ชายคนสนิท ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง คู่แฝดคู่ป่วน โดยนักเขียน ไป๋หลัน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“พี่อาฉีดื่มชาก่อนนอนเจ้าค่ะ” เย่วซินรินน้ำชาใส่จอกให้พี่ชายคนสนิทได้ดื่ม “น้ำชาสูตรพิเศษของข้าจะทำให้ท่านชุ่มชื่นคอนอนหลับสนิทโดยไม่มีเสียงใดรบกวนเลย”

“วันนี้เจ้ามาแปลกใส่อะไรลงไปในน้ำชาหรือไม่” เย่วฉีเอ่ยแซวน้องสาวเล่นเพราะวันนี้นางทำตัวน่ารักผิดปกติ

“โถ่..ข้าก็แค่อยากทำให้ท่านบ้างเพื่อตอบแทนที่ท่านเลี้ยงดูข้ามาตั้งหลายปี แต่ในเมื่อท่านไม่เห็นความหวังดีของข้าก็ไม่เป็นไร” เย่วซินทำสีหน้าเศร้าสลดลงเมื่อถูกพี่ชายคนสนิทไม่ไว้ใจ ทำท่าเดินหันหลังอย่างห่อเหี่ยวทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันสงสารจับใจ

“อาฉีไม่ดื่มก็เอามาให้ข้า” เย่วเทียนเอ่ยขึ้น ตลอดหลายวันที่ผ่านมานางดูแลตนเป็นอย่างดีทำให้สนิทสนมกันมากขึ้นและนางก็เป็นเด็กที่ฉลาดชอบอะไรหลายอย่างเหมือนกันกับตนอีกด้วยทำให้เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว

“แต่..ข้าตั้งใจทำมาให้พี่อาฉี” เย่วซินบ่ายเบี่ยงไม่ยอมยกจอกชาให้หนุ่มเย็นชา ถ้าเป็นปกติเธอจะรีบประเคนให้เขาเลยเพราะนานๆครั้งเขาจะมีทีท่าอ่อนลงเช่นนี้ แต่นี้มันไม่ปกติอย่างไรเล่าในชาจอกนี้มันมียาสูตรทดลองของเธออยู่ใครจะกล้าให้หนุ่มเย็นชาดื่มได้กัน

“เจ้าหวงข้าหรือ?” เย่วเทียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจสักเท่านักด้วยคิดว่าเด็กน้อยหวงน้ำชาสูตรพิเศษไม่ยอมให้เขาดื่มแต่จะให้น้องชายของเขาดื่มแต่เพียงผู้เดียว

“ไม่ใช่เจ้าค่ะ” เย่วซินอยากจะเอาหัวชนกำแพงเสียตอนนี้

“ไม่ใช่ก็เอามา..” เย่วเทียนเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งขรึม

“ซินเอ๋อร์ไม่ใช่พี่ไม่ไว้ใจเจ้านะแต่พี่ใหญ่เป็นพี่ชายของข้าเขาย่อมได้สิ่งที่ดีที่สุดจริงหรือไม่ชาจอกนี้ย่อมเป็นพี่ใหญ่ที่ได้ลิ้มลองก่อนผู้ใด” เย่วฉีเอ่ยเยินยอพี่ชายเพื่อหวังให้เขาดื่มน้ำชาของน้องสาว อย่างไรเสียเขาเลี้ยงดูนางมาย่อมเห็นความแตกต่างเขาไม่ไว้ใจนางจริงๆ

เย่วซินมองค้อนขวับไปตามเสียงที่เอ่ยยุยงนั่น ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจเธอหรอกหรือเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก คอยดูเถิดฮึ่ย..

เย่วซินยื่นจอกชาในมือให้หนุ่มหน้านิ่งด้วยใจร้อนรน “พี่เย่วเทียนจะดื่มจริงๆหรือเจ้าคะมันอาจจะรสชาติแย่ก็ได้ข้าว่าท่านอย่าดื่มเลยดีกว่า” เย่วซินยังเอ่ยบ่ายเบี่ยงเพื่อหวังให้เขาเปลี่ยนใจครั้นจะแกล้งทำมันหกก็ไม่ได้กลัวว่าเขาจะคิดว่าเธอตั้งใจไม่ให้เขาดื่ม โอ้ย..ไม่รู้ล่ะงานนี้โทษข้าไม่ได้นะพี่เย่วเทียน

เย่วเทียนหยิบจอกชาในมือเด็กน้อยแล้วยกขึ้นดื่มทันทีอย่างไม่ลังเล เพราะคิดว่าเด็กน้อยตั้งใจทำมาจะอร่อยหรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร

“พี่ใหญ่รู้สึกเช่นไรบ้างมีอะไรผิดปกติหรือไม่” เย่วฉีเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ว่าที่ตนคิดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือแค่หวาดระแวงไปเอง

“อร่อยดีไม่เห็นมีอะไรผิดแปลกเลย ข้าจะนอนแล้วอย่าเสียงดังรบกวน” เย่วเทียนเอ่ยบอกน้องชาย

“เห็นหรือไม่ว่าข้าหวังดีจริงๆข้าผิดหวังกับท่านยิ่งนักอาฉีที่ท่านไม่เชื่อใจข้า” เด็กน้อยเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อพี่ชายคนสนิท

“โอ๋ๆๆอย่าโกรธพี่เลยนะซินเอ๋อร์พี่ขอโทษ ไหนลองเอาชาสูตรพิเศษของเจ้ามาให้พี่ดื่มสิว่าจะอร่อยดังที่พี่ใหญ่บอกหรือไม่” เย่วฉีเอ่ยง้องอนน้องสาวเขาคงระแวงนางเกินไปจริงๆพี่ใหญ่ก็ดื่มแล้วไม่เห็นจะมีอาการผิดปกติอะไรเลย

เย่วซินยกยิ้มด้วยความดีใจแต่ก็ต้องเก็บอาการขอเล่นตัวอีกสักหน่อยเดี๋ยวเขาจะหาว่าเธอง่าย..”ท่านอย่าดื่มเลยข้าอาจจะใส่ไรลงไปดังที่ท่านว่าก็ได้” เด็กน้อยได้ทีเล่นงิ้วฉากใหญ่จนไม่รู้ว่าคนที่นอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียงได้ยินคำพูดทุกคำที่นางเอื้อนเอ่ย แต่จะโทษนางก็ไม่ได้เป็นตนที่ขอนางดื่มชาจอกนั้นเองถือว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว..

“ไม่เอาน่า..พี่จะดื่มให้หมดกาเลยเพื่อไถ่โทษดีหรือไม่”เย่วฉีเอ่ยเอาใจเด็กน้อยเพื่อขอไถ่โทษ

“ก็ได้ๆถ้าไม่รักไม่ยอมหรอกนะ..” เย่วซินเอ่ยพร้อมยกยิ้มออกมา

ทั้งสองเดินมานั่งที่โต๊ะเพื่อดื่มน้ำชาเย่วซินรินน้ำชาให้พี่ชายคนสนิทได้ดื่ม “รสชาติดีหรือไม่เจ้าค่ะ”

“อืม..รสชาติดีเยี่ยมเลย” เย่วฉียกจอกชาดื่มจอกแล้วจอกเล่าจนหมดและเริ่มรู้สึกว่าคอเริ่มแห้งหนักขึ้นกว่าเดิมจึงรินน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มอีกแต่ก็ยังไม่หาย

“ซินเอ๋อร์พี่รู้สึกว่าคอพี่มาแห้งมาก”

“พี่อาฉีจะโทษว่าชาของข้าไม่ดีหรือ”

“เปล่าๆพี่แค่.....”เย่วฉียังพูดไม่ทันจบประโยคเสียงของตนก็หายไปเสียดื้อๆ พลางมองหน้าน้องสาวหึ่ย..เสียทีนางจนได้ฝากไว้ก่อนเถิด พี่ใหญ่อีกคนทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวหลอกให้ตนตายใจ เย่วฉีพยามเค้นคำพูดออกมาแต่ก็ไร้วี่แวว..

“เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวไปดูอาฉีก่อนเขายังไม่ยอมคุยกับข้าเลยคงโกรธข้ามาก”

“ยายตัวแสบเจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเขาไม่มีเสียงแล้วจะพูดคุยกับเจ้าได้เช่นไร”

“เอ่อ..จริงด้วยเจ้าค่ะข้าลืม” เย่วซินเอ่ยพร้อมยกมือเกาแก้ม

เย่วซินเดินเข้ามาในห้องปรุงยาส่วนตัวของอาฉีเพื่อมาดูว่าพี่ชายคนสนิทเป็นอย่างไรบ้างเธอรู้ว่ายาพิษที่ปรุงมานั้นไม่อันตรายจึงอยากลองว่ามันจะได้ผลจริงหรือเปล่าก็เท่านั้นแต่ว่าพี่อาฉีกินมากไปหน่อยเท่านั้นเอง

“พี่อาฉีทำอะไรอยู่หรือให้ข้าช่วยดีหรือไม่” เย่วซินเอ่ยเอาใจเพี่อเป็นการไถ่โทษ

เย่วฉีสะบัดหน้างอนเด็กน้อยสองวันแล้วเสียงของเขายังไม่กลับมาเลยมันก็อึดอัดเหมือนกันที่พูดจาสื่อสารกับผู้ใดไม่ได้แต่เขาไม่ได้โกรธนางหรอกแค่แกล้งนางเท่านั้นเอง

“โถ่..อย่าโกรธข้าเลยนะข้ารักท่านเหมือนพี่ชายแท้ๆข้าไม่มีวันทำร้ายท่านหรอกข้ารักหรอกจึงหยอกเล่นขำๆนะๆ” เย่วซินเอื้อมมือคล้องคอกอดพี่ชายคนสนิทจากทางด้านหลังอย่างออดอ้อนพร้อมถูไถศีรษะไปมาเมื่อเห็นว่าเขายังไม่หายโกรธก็โน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มเด็กหนุ่มทั้งซ้ายและขวาหลายฟอดเพื่อเอาใจ

เย่วฉียกยิ้มอย่างพอใจที่เด็กน้อยพะเน้าพะนออย่างใกล้ชิดแต่ไหนๆนางก็ยอมทำตัวไถ่โทษแล้วต้องเอาให้คุ้มเสียหน่อย คิดได้ดังนั้นเย่วฉีจึงหันหน้ายื่นปากเป็นเชิงว่าให้เด็กน้อยจูบมัน

เย่วซินเห็นเช่นนั้นก็ทราบทันทีว่าพี่ชายคนสนิทต้องการสิ่งใดแม้ว่าตัวเองจะขัดเขินบ้างแต่ยามนี้เธอไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมทำตามที่เขาต้องการ

“จุ๊บ..” เย่วซินประกบปากจูบพี่ชายคนสนิทแล้วผละออกมาแต่เขายังไม่ยอมเลิกทำปากจู๋อีกคงยังไม่พอเย่วซินจึงทำอีกหลายๆครั้งเพื่อให้เขาพอใจ “จุ๊บๆๆๆ..”

หลังจากที่โดนเด็กน้อยจุมพิตที่ปากหลายครั้งจนพอใจเขาก็คว้าตัวเด็กน้อยมากอดเอาไว้ด้วยความรักใคร่และเอ็นดูในความน่ารักของนาง...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน