คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 9

สรุปบท บทที่9 เพื่อนใหม่: คู่แฝดคู่ป่วน

สรุปเนื้อหา บทที่9 เพื่อนใหม่ – คู่แฝดคู่ป่วน โดย ไป๋หลัน

บท บทที่9 เพื่อนใหม่ ของ คู่แฝดคู่ป่วน ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ไป๋หลัน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

# บนเรือนใหญ่

“ท่านแม่เจ้าขา..ลูกไม่ชอบนางเด็กท้ายจวนเลยเจ้าค่ะ” เด็กน้อยเอ่ยบอกมารดาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“หืม..เจ้าพบนางแล้วหรือ?” ซูเจียวเอ่ยถามบุตรสาวตัวน้อยที่นางทั้งรักและถะนุถนอมดังไข่ในหิน

“เจ้าค่ะ นางทำให้ลูกต้องถูกพี่ใหญ่ดุพี่ใหญ่ไม่เคยดุลูกเลยนะเจ้าค่ะ”เด็กน้อยเอ่ยพร้อมกับทำหน้าเศร้า

“เช่นนั้นหรือ มันช่างบังอาจยิ่งนักท่านปู่อุตส่าห์ยอมให้มันมาอาศัยอยู่ด้วยแต่มันยังไม่เจียมตัวเจ้าไม่ห่วงลูกรักประเดี๋ยวแม่จะจัดการให้เจ้าเอง” ซูเจียวเอ่ยปลอบบุตรสาวตอนนี้นางเป็นผู้ดูแลภายในจวนทั้งหมดคงต้องสั่งสอนให้พวกมันรู้สำนึกเสียบ้างแล้ว

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่ลูกรักท่านแม่ที่สุดเลยเจ้าค่ะ” เด็กน้อยยิ้มกว้างโผกอดมารดาอย่างรักใคร่ ท่านแม่ตามใจนางทุกอย่างอยากได้สิ่งใดท่านก็จะสรรหามาให้ไม่เคยขัด

เรือนท้ายจวนสองคนนายบ่าวหลังทานมื้อเย็นเสร็จเสี่ยวชิงก็เตรียมน้ำมาให้คุณชำระร่างกาย ตนเป็นคนไปตักน้ำมาให้คุณหนูเองเพราะนางยังเล็กนักยกของหนังยังไม่ไหว หลังอาบน้ำเสร็จก็หยิบตำราพื้นฐานสำหรับเด็กออกมาเล่มหนึ่ง เสียวชิงใช้ให้บ่าวคนสนิทไปหาซื้อเอาไว้ให้ตั้งแต่คุณหนูเริ่มโต

เสี่ยวชิงเตรียมพู่กันกระดาษราคาถูกและเริ่มสอนเด็กน้อยอ่านทีละคำและฝึกเขียนไปด้วย นางฝึกอยู่ราวๆหนึ่งชั่วยามก็ได้เวลาเด็กน้อยเข้านอน นางกับคุณหนูนอนบนเตียงเพราะเด็กน้อยไม่ยอมให้ลงไปนอนที่พื้นโดยอ้างว่านอนด้วยกันอบอุ่นดี

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นจิวอิงตื่นแต่เช้าเข้าครัวช่วยพี่เสี่ยวชิงทำอาหาร เด็กน้อยรู้สึกชื่นชอบการทำอาหารเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารนั้นมีน้อยจึงทำได้แต่อาหารซ้ำๆเหมือนเช่นวันก่อน

“พี่เสี่ยวชิงเราไม่มีอาหารอย่างอื่นแล้วหรือ”

“ประเดี๋ยวเรือนใหญ่คงนำมาให้เจ้าค่ะเพราะใกล้ถึงกำหนดแล้ว” เสี่ยวชิงเอ่ยตอบเรือนใหญ่จะส่งอาหารสดและอาหารแห้งมาให้เดือนละสองครั้ง

“ดีเลยเจ้าค่ะเราจะได้ทำอาหารแบบอื่นดูบ้างอิงเอ๋อร์ชอบทำอาหาร” จิวอิงเอ่ยบอกพี่สาวตรงหน้า ถึงแม้พี่เสี่ยวชิงจะบอกว่าตนเป็นแค่สาวใช้ของท่านแม่แต่สำหรับนางแล้วพี่เสี่ยวชิงเปรียบเสมือนพี่สาวที่แสนดีคนหนึ่งของตน

“กินอาหารเสร็จแล้วเรามาอ่านเขียนตำราต่อนะเจ้าคะ”

“ได้ๆอิงเอ๋อร์ก็ชอบอ่านตำราเช่นกัน” จิวอิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส

“มีอะไรที่คุณหนูไม่ชอบบ้างเจ้าคะ” เสี่ยวชิงเอ่ยเย้าเด็กน้อยที่หันมายิ้มจนตาหยี ดวงตากลมโตคู่นั้นช่างสวยงามยิ่งนักช่างเหมือน..บิดาของนาง

“อะไรนะ!ไม่มีอาหารส่งมาให้เดือนนี้หรือ?เพราะเหตุใดกัน” เสี่ยวชิงเอ่ยถามเสียงดังกับบ่าวคนสนิทที่เธอมักไหว้วานให้ออกไปซื้อข้าวของจำเป็นนอกจวน

“มันเป็นคำสั่งของฮูหยินเจียวชื่อข้าก็สุดจะหารู้ไม่ว่าเพราะเหตุใด” บ่าวคนสนิทเอ่ย ตนนั้นก็อดสงสารเรือนท้ายจวนไม่ได้ขนาดส่งมาให้ก็น้อยเสียจนแทบจะไม่กินพอใช้แล้วนี่ยังสั่งงดอีก..

ข้าจะไปถามฮูหยินเจียวซื่อ” เสี่ยวชิงเอ่ยด้วยความโมโห

“เดี๋ยวๆเจ้าใจเย็นลงก่อนไปแล้วเจ้าจะได้อะไร เจ้าก็รู้ว่า...” บ่าวคนนิทเอ่ยเตือนสติสหายนางรู้ว่าสหายโกรธจนลืมว่ายามนี้นางไม่มีสิทธิ์เรียกร้องสิ่งใด

เสี่ยวชิงที่ได้ยินดังนั้นก็หยุดชะงักพลางคิดให้ถี่ถ้วนจริงอย่างที่สหายกล่าว เรือนใหญ่จะทำอย่างไรก็ได้นางไม่มีสิทธิ์เรียกร้องสิ่งใดทั้งนั้น ถ้าฮูหยินซูท่านแม่ของคุณหนูเหม่ยอิงยังมีชีวิตอยู่เธอคิดว่านายท่านใหญ่คงจะไม่ใจร้ายใจดำถึงเพียงนี้ เหตุเพราะตอนที่คลอดคุณหนูเหม่ยอิงออกมาทำให้ท่านแม่ของนางเสียเลือดมากจนสิ้นใจตาย ตั้งแต่นั้นมานายท่านใหญ่ก็ไม่เคยดูดำดูดีคุณหนูเหม่ยอิงเลยเอาแต่โทษว่าเป็นเพราะคุณหนูที่ทำให้ฮูหยินของตนต้องตาย

“เช่นนั้นข้าไหว้วานเจ้าหน่อย..” เสี่ยวชิงเอ่ยกับสหาย นางพยักหน้ารับเป็นเชิงรู้กันจากนั้นเสี่ยวชิงก็หายเข้าไปในเรือนสักครู่ก็ออกมา “เจ้าช่วยซื้อข้าวสาร อาหารสด แห้งมาให้ข้าเหมือนเดิมนะแล้วเอามาวางไว้ที่เดิม” เสี่ยวชิงยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้สหายซึ่งเธอเคยไหว้วานนางอยู่เป็นประจำ

“จิวอิง..ชื่อช่างไพเราะยิ่งนัก” หยางหลงเอ่ยแล้วหยิบน้ำตาลปั้นออกมาสองไม้จากแหวนจัดเก็บ “พี่ซื้อมาฝาก” หยางหลงยื่นขนมส่งให้เด็กน้อย

“ขอบคุณเจ้าค่ะข้าไม่เคยเห็นขนมชนิดนี้มาก่อนเลย” จิวอิงยื่นมือรับขนมมาอย่างตื่นเต้นดีใจ

“ยังมีขนมอีกมากมายนักที่เจ้ายังไม่เคยลิ้มลองแล้วพี่จะซื้อมาฝากเจ้าอีก” อย่างหลงเอ่ยอย่างเอ็นดู

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” เด็กน้อยยิ้มตาหยีแล้วส่งน้ำตาลปั้นกลับคืนให้คนที่ซื้อมาฝาก “ทานด้วยกันนะเจ้าคะ”

“เอาเช่นนั้นหรือ?” หยางหลงเอ่ยถาม

จิวอิงพยักหน้ารับจะให้นางทานคนเดียวก็กระไรเดี๋ยวเขาจะหาว่าตะกละ หยางหลงคล้ายเข้าใจจึงรับน้ำตาลปั้นมาแล้วกินเป็นเพื่อนเด็กน้อย สองคนคุยกันอยู่เพียงครู่หยางหลงจึงขอตัวกลับเพราะหายออกมานานแล้วท่านลุงคงคุยธุระเสร็จพอดีจึงเอ่ยลาเด็กน้อยแล้วเขาจะหาโอกาสมาเยี่ยมนางใหม่

จิวอิงรู้สึกสนุกสนานเป็นอย่างมากที่ได้มีเพื่อนใหม่นอกจากพี่เสี่ยวชิงและแถมยังได้กินขนมอร่อยๆอีกด้วย หลังจากนั้นก็กลับไปนั่งคัดตำราและให้พี่เสี่ยวชิงสอนอ่านต่อ

แคว้นหนิง

ผ่านมาแล้วห้าวันสำหรับการดูแลคนป่วย แผลของพี่เย่วเทียนแห้งสนิทดีไม่มีอาการแทรกซ้อนมีไข้แค่สองวันแรกเพียงเท่านั้น เรื่องที่พี่เย่วเทียนบาดเจ็บไม่มีใครรู้นอกจากท่านปู่เพราะเธอต้องการให้ท่านปู่ศึกษาเรื่องการทำแผล เย็บแผลอยู่แล้วจึงถือโอกาสนี้อธิบายให้ท่านฟังอย่างละเอียด เมื่อท่านปู่เห็นแผลที่เย็บดูท่านตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพราะมันแห้งสนิทและดูท่าจะหายไวกว่าใส่ยาแบบปกติ

พวกเราทั้งสามคนช่วงนี้จะขลุกกันอยู่แต่ในเรือนเสียส่วนใหญ่ แต่ก็มีบ้างที่เธอและพี่เย่วเทียนจะออกไปอ่านตำรา และอาฉีเข้าห้องปรุงยาบางครั้งเธอก็เข้าห้องปรุงยาด้วยเช่นกันเหตุเพราะรู้สึกคันไม้คันมือด้วยความร้อนในวิชาที่กำลังศึกษาอยู่ อย่างเย็นวันนี้ที่เธอเข้ามาปรุงยากับอาฉีพี่ชายคนสนิทเขากำลังง่วนอยู่กับการปรุงยาตัวใหม่ ส่วนเธออยู่อีกมุมหนึ่งกำลังทดลองปรุงยาพิษชนิดหนึ่งที่ผู้ใดได้รับพิษเข้าไปมันจะทำให้พูดไม่ออกหรือเสียงหายไปนั่นเองเธอจะตั้งชื่อยาของเธอใหม่ว่ายาพิษเสียงล่องหน เมื่อปรุงอยู่สักพักก็ได้ยาที่ต้องการแต่..จะรู้ได้อย่างไรว่ายาของเธอจะได้ผลหรือไม่ คงต้องหาหนูมาทดลองยาเสียแล้วเย่วซินคิดในใจพลางเหล่ตามองหาหนูของตน..ฮึ ฮึ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน