คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 32

สรุปบท บทที่32 ผู้เชี่ยวชาญ: คู่แฝดคู่ป่วน

บทที่32 ผู้เชี่ยวชาญ – ตอนที่ต้องอ่านของ คู่แฝดคู่ป่วน

ตอนนี้ของ คู่แฝดคู่ป่วน โดย ไป๋หลัน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่32 ผู้เชี่ยวชาญ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ยามหม่า(05.00-06.59) จิวอิงตื่นแต่เช้ารีบล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนชุดใหม่แล้วรีบเดินไปยังเรือนท่านปู่ทันทีโดยที่ไม่ได้ทาหน้าดำด้วยซ้ำ บ่าวไพร่ที่เห็นก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าเป็นคุณหนูเย่วซินต่างก้มหน้าก้มตาทำงานกันต่อ

“ซินเอ๋อร์ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง” จิวอิงเอ่ยถามน้องสาวทันทีที่เข้ามาด้านในเรือนนอนของท่านปู่ นางเห็นท่านปู่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง

“ท่านปู่ดีขึ้นแล้วพิษก็ถูกขับออกมาหมดแล้วเจ้าสบายใจได้” เย่วซินเอ่ยบอกพี่สาว

“ดีจริง” จิวอิงถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อทราบว่าท่านปู่ปลอดภัย

“พวกเจ้าอยู่ด้วยกันเช่นนี้พี่ดูไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร ตอนที่อิงเอ๋อร์ทาหน้าดำก็ยังพอแยกออกได้บ้าง” เย่วฉีเอ่ยเมื่อมองน้องสาวทั้งสองคนยืนคุยกัน ตนเพิ่งเคยเห็นพวกนางพร้อมกันเช่นนี้เป็นครั้งแรก ยังเผลอจ้องเสียนาน ความงามของพวกนางไม่ธรรมดาจริงๆ ตนเข้าใจท่านปู่แล้วว่าทำไมถึงยอมให้อิงเอ๋อร์ทาหน้าดำ พวกนางจะเป็นจุดสนใจดึงดูดเหล่าบุรุษจนเกินไปนั่นเอง นี่ถ้าตนไม่ได้เป็นพี่ชายของนางก็คงหวั่นไหวไปแล้วเช่นกัน

“นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ข้าทาหน้าดำเจ้าค่ะ พวกท่านจะได้จำได้ง่ายขึ้นไม่ต้องเรียกถูกเรียกผิด” จิวอิงเอ่ยบอกพี่ชายบุญธรรมพี่ชอบจำผิดอยู่เรื่อย

“ก็จริงของเจ้า” เย่วฉีพยักหน้าเห็นด้วย

“พี่เย่วเทียน อาฉี พวกท่านไปนอนพักก่อนเถิดยังไม่ได้นอนกันเลยทั้งคืน ข้าและอิงอิงจะอยู่เฝ้าท่านปู่เอง” เย่วซินเอ่ยบอกพี่ชายทั้งสองคน

“เจ้าก็ยังไม่ได้นอนพักเลย” เย่วเทียนเอ่ยบอกน้องสาว

“ข้ายังไหวเจ้าค่ะไม่เหนื่อยอะไร แต่พวกท่านใช้กำลังต่อสู้กับคนร้ายต้องนอนพักบ้าง” เย่วซินเอ่ย

“พวกเจ้าอย่าลืมทำแผลของตัวเองด้วยล่ะ” เย่วฉีเอ่ยบอกน้องสาวทั้งสองอย่างห่วงใย และเดินออกไปพร้อมพี่ชายเพื่อพักผ่อนตามที่น้องสาวสั่ง

ช่วงสายของวันข่าวลือว่าจวนท่านหมอหมิงมีคนร้ายลักลอบเข้ามาทำร้ายคนในจวน จนทำให้ท่านหมอหมิงได้รับบาดเจ็บหนัก บ้างก็เล่าว่าท่านหมอถูกพิษอาการหนัก และหลานสาวก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน ข่าวลือกระจายไปอย่างรวดเร็วจนถึงหูผู้ปกครองแคว้นและไท่ซ่างหวงพี่น้องร่วมสาบานของหมิงฮุ่ยฉิน และข่าวลือยิ่งโหมกระพือเข้าไปอีกเมื่อองค์ชายหยางหลงและองค์ชายหยางปิงมาเยือนยังจวนตระกูลหมิงในช่วงบ่ายของวัน

หยางหลงและหยางปิงหลังจากเข้าไปเยี่ยมดูอาการคนเจ็บแล้วก็มานั่งพูดคุยกันอยู่ที่โถงใหญ่กับเหล่าสหาย

“ข้าคิดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ต้องเป็นคนเดียวกันกับที่ทำร้ายฮองเฮาเป็นแน่” เย่วเทียนเอ่ยเมื่ออยู่กันตามลำพังพวกเขาจะพูดกันธรรมดาเช่นสามัญชนทั่วไป

“เรื่องนี้ไม่ธรรมดาแล้วเราต้องสืบให้รู้ให้ได้ว่าเป็นผู้ใดและต้องการอะไร” หยางหลงเอ่ยพลางนึกว่าคนที่จะได้รับผลประโยชน์ถ้ามารดาของตนสิ้นใจคงไม่เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ก็ยังไม่อาจเอ่ยออกไปได้คงต้องหาหลักฐานให้ชัดเจน

“คงต้องให้คนของเราสืบอย่างจริงจังหน่อยแล้ว” เย่วเทียนเอ่ย เขาและสหายเปิดสำนักขายข่าวกันอย่างลับๆโดยมีคนคอยทำหน้าที่อยู่เบื้องหน้าแทน เรื่องนี้มีคนรู้เพียงไม่กี่คนล้วนแต่เป็นคนสนิททั้งนั้น

“ระหว่างนี้ข้าจะให้องครักษ์ฝีมือดีมาคอยคุ้มกันจวนอย่างแน่นหนาอีกที ท่านปู่ยังไม่หายดีกลัวว่าคนร้ายจะใช้โอกาสนี้กลับมาเล่นงานอีกได้” หยางปิงเอ่ยขึ้นบ้าง

“ขอบใจเจ้ามาก ข้าเป็นห่วงซินเอ๋อร์และอิงเอ๋อร์กลัวว่านางจะได้รับอันตราย” เย่วฉีเอ่ย

“ได้ข่าวว่านางได้รับบาดเจ็บหรือ?เป็นเย่วซินหรือจิวอิงกัน” หยางปิงเอ่ยถามสหาย

“ทั้งสองคนนั่นแหละแต่คนที่โดนคืออิงเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์เลยได้รับบาดแผลมาด้วยพวกนางมีสื่อสัมผัสถึงกันเวลาที่อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ” เย่วฉีเอ่ยบอกสหาย

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ? แล้วพวกนางเป็นอย่างไรบ้าง” หยางปิงเอ่ยถามอีกรอบ เขารู้ว่าพี่ชายอยากรู้แต่ทำเป็นปากแข็งไม่กล้าเอ่ยถาม เขาจึงสงเคราะห์ให้เสียหน่อย เพราะตั้งแต่มาก็ยังไม่พบหน้าพวกนางเลย เย่วฉีบอกว่าพวกนางพึ่งกลับเรือนไปพักผ่อนเมื่อช่วงเที่ยงนี้เอง

“ไม่เป็นอะไรมากหรอก”

ทั้งหมดอยู่พูดคุยกันและแยกย้ายกันในช่วงยามเซิน(15.00-16.59) พวกเขาต้องกลับไปรายงานอาการป่วยของท่านปู่ฮุ่ยฉินให้บิดาและเสด็จปู่รับรู้

ช่วงค่ำเย่วซินเข้ามาดูอาการท่านปู่และนำโจ๊กมาให้ท่านปู่ ตอนนี้ท่านปู่แข็งแรงขึ้น ฟื้นตัวได้รวดเร็วยิ่งนักจนนางแปลกใจ

“ปู่รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม เมื่อครู่ลองนั่งเดินลมปราณพบว่าเลือดบางส่วนมีพิษปะปนอยู่เล็กน้อยแต่ไม่ใช่พิษที่เป็นอันตรายมันทำให้ร่างกายแข็งแรง” ฮุ่ยฉินเอ่ยบอก

“เป็นไปได้หรือไม่ว่ายาถอนพิษของหลานถอนพิษออกไม่หมด หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะเลือดของหลานมีพิษเจือปนอยู่”

“อืม...ปู่ก็ไม่แน่ใจหรอกแต่ที่แน่ๆปู่ว่ายาถอนพิษของเจ้าดีเกินคาดเชียวล่ะ พิษที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างกายไม่แน่ว่ามันอาจจะช่วยให้ร่างกายต้านพิษได้ระดับหนึ่ง” ฮุ่ยฉินวิเคราะห์ตามที่น่าจะเป็นไปได้

“ดีขนาดนั้นเลยหรือเจ้าคะ”

“อื้ม...เชื่อหนูทดลองผู้นี้เถิดฮ่าๆ” ฮุ่ยฉินเอ่ยพร้อมกับหัวเราะชอบใจ พร้อมกับเอ่ยบอกหลานสาวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น “เรื่องคนร้ายที่บุกเข้ามาในจวนปู่คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับการรักษาฮองเฮาเป็นแน่”

“เช่นนั้นท่านปู่ก็ตกอยู่ในอันตรายหรือเจ้าคะ” เย่วซินเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ

“ใช่ปู่คนเดียวเสียที่ไหนเมื่อคืนนี้วุ่นกันทั้งจวน”

“มานั่งคุยกันก่อนเถิด พี่ไม่ทำอะไรเจ้าหรอกเพียงอยากมาดูว่าเจ้าเป็นอย่างไรบ้างก็เท่านั้น”

จิวอิงเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ด้านข้างพร้อมรินน้ำชาให้บุรุษตรงหน้าแล้วเอ่ยว่า “พี่หยางหลงก็เห็นแล้วว่าข้าสบายดีไม่ได้เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ”

“แต่พี่ก็ยังไม่วางใจในเมื่อยังหาตัวคนบงการไม่ได้ พี่จะให้องครักษ์เงาคอยคุ้มกันเจ้า "หยวนเค่อ” หยางหลงเอ่ยเรียกองครักษ์ข้างกายของตนทันที หยวนเค่อเป็นคนที่มีฝีมือมากคนหนึ่งที่เขาไว้ใจได้

“พะย่ะค่ะ” ร่างดำของบุรุษปรากฏขึ้น

“เจ้าคอยดูแลนางให้ดีอย่าให้นางได้รับอันตรายเด็ดขาด”

“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ” เอ่ยจบหยวนเค่อก็เร้นกายหายไปทันที

“พี่หยางหลงข้าเกรงใจเจ้าค่ะ” จิงอิงนั่งมองดูการกระทำของบุรุษตรงหน้าอย่างไม่ทันได้เอ่ยอะไร

“เขาเป็นคนของเจ้าแล้วเจ้าย่อมใช้เขาได้หยวนเค่อฝีมือเก่งกาจไม่ธรรมดา” หยางหลงเอ่ยพียงเท่านั้น

“เจ้าค่ะ” จิวอิงรู้ว่านางไม่สามารถเอ่ยขัดได้ จึงรับคำออกไปพร้อมดวงตาประกายขึ้น นางจะมีคนฝึกกระบี่ให้แล้ว จิวอิงคิดในใจ

หยางหลงยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นดวงตาประกายระยับนั่น พร้อมยกมือขึ้นเขี่ยปรอยผมที่กรอบหน้างามอย่างเบามือพร้อมเอ่ยว่า “ดียิ่งนักที่เจ้าทาหน้าดำต่อหน้าผู้อื่น”

จิวอิงก้มหน้าลงเล็กน้อยตอนนี้นางรู้ตัวเองว่าหน้าคงแดงไปหมดแล้ว พี่หยางหลงท่านช่างอ่อนโยนยิ่งนักคงทำแบบนี้กับสตรีบ่อยใช่หรือไม่ ไวเท่าความคิดก็ปากของนางจึงเอ่ยออกไป

“พี่หยางหลงดูท่าทางแล้วท่านคงเกี้ยวสตรีบ่อยกระมังถึงได้ดูเชี่ยวชาญขนาดนี้”

หยางหลงได้ยินเช่นนั้นแทนที่จะละมือออกจากกรอบหน้า กลับเลื่อนลงมาเชยคางมนเชิดขึ้นเล็กน้อยแล้วก้มลงประกบริมฝีปากอิ่มทันทีแล้วผละออกมา

“แบบนี้ต่างหากที่เรียกว่าเชี่ยวชาญแต่เป็นกับเจ้าคนเดียวเท่านั้น ริมฝีปากเจ้าพี่จองแล้วห้ามใครมาแตะต้องเด็ดขาด” ว่าแล้วก็จุมพิตอีกรอบอย่างรวดเร็วโดยที่ร่างบางกำลังตกใจและตกตะลึง เพียงครู่หยางหลงก็ละจากริมฝีปากอิ่มแล้วกระโดดหน้าต่างออกไปทันที

“คนบ้า!!” จิวอิงเอ่ยเพียงเท่านั้นก็รีบเอามือปิดแก้มที่เห่อร้อนพร้อมสลับกับกระพือเพื่อไล่ความร้อนออกใบหน้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน