บนภูเขาที่ห่างไกลออกไปจากตัวเมืองเป็นที่ตั้งของพรรคหนึ่งที่ผู้คนต่างหวาดเกรงด้วยชื่อเสียงที่บ่งบอกถึงความโหดร้ายอย่างพรรคอสรพิษ พรรคอสรพิษก่อกำเนิดมาหลายสิบปีขึ้นชื่อด้วยพิษผู้คนทั่วไปต่างไม่กล้าย่างกายเข้าใกล้ แต่ก็มีบางพวกที่ต้องการพิษของตนเพื่อทำการบางอย่างให้บรรลุเป้าหมาย เมื่อหลายปีก่อนมีคนของราชวงศ์ติดต่อขอซื้อพิษจากทางพรรคอสรพิษเพื่อก่อกบฏชิงบัลลังก์และก็เป็นผลสำเร็จจากนั้นเพื่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้น ฮ่องเต้พระองค์ใหม่จึงสู่ขอบุตรสาวของประมุขพรรคอสรพิษขึ้นเป็นฮองเฮาเคียงคู่บัลลังก์มังกร นับจากนั้นมาทั้งคู่ก็ปกครองแคว้นอย่างราบรื่นเรื่อยมา
“จัดการสองคนนั้นเรียบร้อยหรือไม่” ประมุขพรรอสรพิษเอ่ยถามคนของตน
“จัดการไปได้หนึ่งคน แต่อีกคนก็คิดว่าไม่รอดเพราะโดนพิษของเราไปแล้ว ตอนนั้นมีคนเข้าพบเข้าจึงต้องรีบหลบมาก่อนขอรับ”
“ใคร?”
“ข้าน้อยแอบติดตามไปคาดว่าเป็นคนของพรรคอินทรีย์ขอรับ”
“พวกมันคงรู้ตัวจึงตามมา ถ้างานนี้พลาดประมุขพรรคอินทรีย์รู้เข้าว่ายาพิษนั้นมาจากเราคงได้วุ่นวายเป็นแน่” ประมุขพรรคอสรพิษเอ่ย ตนไม่อยากยุ่งกับพรรคที่แข็งแกร่งอย่างพรรคอินทรีย์เท่าใดนัก ขึ้นชื่อด้วยความเก่งกาจฆ่าผู้คนที่คิดร้ายกับพรรคอย่างไม่ปราณีและยังมีพลังปราณที่แข็งแกร่งจนผู้คนให้ความเคารพยำเกรงมากมาย
“จะให้ข้าน้อยไปจัดการที่เหลือหรือไม่ขอรับ”
“ไม่ต้อง ๆ พิษของข้าร้ายกาจนักมันคงไม่รอด ขืนเจ้าไปมีหวังโดนจับได้เป็นแน่” ประมุขพรรคอสรพิษเอ่ยบอกคนของตน เพราะคนของพรรคอินทรีย์ใช่ใครจะเข้าไปยุ่มย่ามได้โดยง่าย
“บอกทางพรรคทมิฬคราวหน้าถ้าพลาดอีกข้าจะไม่ส่งสินค้าให้”
“ขอรับท่านประมุข แล้วของที่ทางราชวงศ์หนิงต้องการเราจะส่งมอบที่ไหนดีขอรับ” คนสนิทเอ่ยถามอีกครา
“เปลี่ยนหน้าคนส่งแล้วเลือกสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านหน่อยจะได้ไม่เป็นที่สงสัย”
“ขอรับท่านประมุข” เอ่ยจบก็เดินออกจากไปทันที
ราชวงค์แคว้นหนิงต้องการชิงบัลลังก์โดยการใช้ยาพิษของตน คราวแรกเพียงต้องการปลงพระชนม์ฮองเฮาเพื่อที่พระสนมจะได้ขึ้นเคียงข้างบัลลังก์แทนและผลักดันโอรสของตนขึ้นเป็นองค์รัชทายาท แต่กลับพลาดเพราะมีคนสามารถถอนพิษของเขาได้นับว่าเก่งกาจไม่น้อย ถ้าคนที่ไม่มีความสามารถที่เพียงพอจะไม่อาจถอนพิษของพรรคอสรพิษได้อย่างแน่นอน เขาคงต้องหาวิธีทำความรู้จักเสียหน่อยแล้ว ประมุขพรรคอสรพิษคิดในใจ
ทางด้านจวนหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากตลาดพอสมควร ยามอู่(11.0012.59)
“เจ้าบุรุษหน้าอ่อนนั่นมันกล้าหลอกข้า” เสียงคมเข้มเอ่ยพร้อมปล่อยไอสังหารออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
“ใจเย็น ๆ ก่อนขอรับท่านประมุขจะให้ข้าน้อยไปตามดูที่โรงเตี๊ยมหรือไม่ขอรับ” ซานจงเอ่ยบอกผู้เป็นนาย เพราะตอนนี้ดูเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมากแถมปล่อยไอสังหารออกมาถ้าตนเองไม่มีพลังปราณที่แข็งแกร่งพอ ๆ กับท่านประมุขแล้วละก็มีหวังได้ไปเยือนปรโลกเป็นแน่
“ดี เจ้าไปดูที่โรงเตี๊ยมนั่นถ้าเจอลากคอมันมาให้ข้า” จ้าวไท่เหว่ยเสียงเข้ม
“ขอรับท่านประมุข แล้วเราจะทำอย่างไรกับคนที่ถูกพิษดีขอรับถ้าไม่ได้รับการรักษาคงไม่รอดคืนนี้เป็นแน่” ซานจงเอ่ยถามต่อ
“ให้คนไปเชิญหมอของตระกูลหมิงมาที่จวนบอกว่ามีคนเจ็บหนักไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกคนสนิท
“ขอรับท่านประมุข” ซานจงเอ่ยพร้อมเดินออกไปเพื่อทำตามคำสั่งผู้เป็นนาย
“เจ้าหน้าอ่อนอย่าให้ข้าเจอเชียว บังอาจมาหลอกข้าปิ่นของเจ้ามันคงไม่สำคัญอย่างที่เจ้าแสดงออกมาสินะ ฮึ” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยพึมพำกับตัวเองอย่างคับแค้นใจ โดยหารู้ไม่ว่าเจ้าหน้าอ่อนตอนนี้นอนเป็นผักอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว
จวนตระกูลหมิงเรือนหลังเล็กที่มีสวนดอกโม่ลี่
“ท่านปู่ท่านอย่ากักบริเวณหลานเลยนะเจ้าคะ” เสียงเล็กหวานเอ่ยบอกอย่างแผ่วเบา ที่ตอนนี้กำลังนอนป่วยอยู่บนเตียงเพราะร่างกายกำลังฟื้นตัว
“ถ้าปู่ไม่มาดูเจ้าด้วยตนเองคงไม่รู้ว่าเจ้าแอบกรอกยาพิษให้ตัวเองอีก แล้วคราวนี้เป็นพิษอะไรกันถึงได้นอนไร้เรี่ยวแรงเช่นนี้ ดีนะที่อิงเอ๋อร์ไม่ได้ป่วยหนักเช่นเจ้านางแค่ดูอ่อนเพลียและอ่อนแรงเล็กน้อยปู่จึงให้ยาบำรุงนางไปเท่านั้น” ฮุ่ยฉินเอ่ยบ่นหลานสาว
“หลานก็ไม่ได้ป่วยหนักเสียหน่อยแค่อ่อนเพลียเล็กน้อยเองเจ้าค่ะ” เย่วซินเอ่ยแถแค่กๆเอ่ยเถียง
“ห้ามออกนอกจวนสิบวัน ห้ามเข้าห้องปรุงยาด้วย” ฮุ่ยฉินเอ่ยจริงตนอยากทำโทษให้นานกว่านี้แต่ติดที่ว่าอีกไม่กี่วันก็ถึงงานเลี้ยงต้อนรับคณะฑูตแล้ว
“โธ่...ท่านปู่” เย่วซินเอ่ยเสียงอ่อย
“หรือจะเอาสิบเดือน”
“สิบวันเจ้าค่ะ สิบวันพอแล้ว”
“ดีมาก พักผ่อนเยอะ ๆ ปู่ไปล่ะ” ฮุ่ยฉินเอ่ยแล้วเดินออกไปอย่างอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อยที่ได้เอาคืนหลานสาวบ้างไม่เช่นนั้นคงซุกซนไม่เลิกรา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน
รอนะคะ อัพต่อหน่อยค่า...