ขณะที่เธอพูด เธอก็ล้มลงกับพื้น ความเจ็บปวดในหัวของเธอรุนแรงขึ้นในขณะที่การมองเห็นของเธอเลือนลางจนเบลอไปหมด สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกได้คือแสงระยิบจากดวงอาทิตย์และเงาที่พุ่งเข้ามาหาเธอ
“โจอัน!”
นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เธอได้ยินก่อนที่จะหมดสติไป มันให้ความรู้สึกเหมือนกับตอนที่เขากระโดดลงไปเพื่อปกป้องศีรษะของเธอจากลูกบาสเก็ตบอลที่กำลังสวนมาเมื่อนานมาแล้ว ท่าทางกังวลที่เขามีตอนนี้ก็เหมือนกับตอนนั้น
จิตใจของแลร์รี่ว่างเปล่า โจอัน คุณจะทรมานผมด้วยเล่เหลี่ยมนี้ เพียงเพราะคุณไม่สามารถเอาชนะข้อโต้แย้งได้เหรอ? นั่นมันน่ารังเกียจจริงๆ นะ ขณะที่เขาพุ่งเข้ามาและดึงเธอเข้าสู่อ้อมอกของเขา เขาก็กอดเธอแน่นราวกับว่าเขากำลังจะบดขยี้เธอ
“เป็นอะไรไป โจอัน? ตื่นสิ! อย่าหลับนะ!” แลร์รี่เห็นว่าริมฝีปากของเธอซีดและหน้าผากก็เต็มไปด้วยเหงื่อ ปอยผมเปียกๆ ของเธอติดอยู่บนใบหน้าจนดูยุ่งเหยิง ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน คุณก็มักจะต้องมีเรื่องอยู่เรื่อยเลย
แลร์รี่อุ้มเธอขึ้นมา แล้ววางเธออย่างระมัดระวังบนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า หลังจากนั้นเขาก็เหยียบคันเร่ง เร่งความเร็วไปทางโรงพยาบาล เขาใช้มือซ้ายจับพวงมาลัย และจับมือเธอไว้แน่นด้วยมือขวาของเขา
เมื่อนึกย้อนกลับไป เขายังจับมือเธออยู่ในห้องโถงสีขาวสว่าง ตอนที่เขาสาบานว่าจะแก่ไปพร้อมกับเธอและจะไม่ทอดทิ้งเธอ แต่ตั้งแต่เกิดความเข้าใจผิดก็มักจะทะเลาะกันเมื่อเจอหน้า เขายอมรับว่าความเครียดจากการทำงาน และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับดัสตินที่คลุมเครือทำให้เขาหงุดหงิดมากขึ้น แต่หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้แล้ว เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่เคยให้โอกาสเธอได้อธิบายเลย
“โจอัน ได้โปรดอย่าเป็นไรไปนะ พอคุณตื่นขึ้น ผมจะอดทนฟังทุกสิ่งที่คุณพูด ผมสัญญาว่าจะไม่โกรธหรือทะเลาะกับคุณ แล้วผมก็จะไม่ตำหนิคุณอีกต่อไป งั้น เรามาตกลงกันนะ โจอัน”
จู่ๆ คิ้วที่ขมวดของโจอันก็คลายลง ราวกับว่าเธอได้ยินคำพูดของแลร์รี่ ในขณะนั้น เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในอุโมงค์ว่างเปล่าที่ทอดยาวเกินกว่าที่ตาของเธอจะมองเห็นได้ ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนเธอก็ไม่สามารถไปถึงจุดสิ้นสุดได้ ในความฝัน เธอถูกล้อมรอบด้วยหมอกหนาทึบ แม้ว่าเธอจะพยายามเอามือปัดป่าย แต่มันก็ยังหนาขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่เธอจะรู้ เธอก็มองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้าด้วยซ้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม