ปึง! ปึง! ปึง!
"นิ้ง! อยู่ในห้องนี้ไหม เปิดประตูให้เฮียหน่อย!" ต้นน้ำไล่ทุบประตูห้องนอนบนชั้นสองอย่างร้อนรนพลางตะโกนเรียกคนรักด้วยความหวังเล็กๆว่าเธออาจจะอยู่ในห้องไหนห้องหนึ่งและเปิดประตูมาเจอเขา เขารีบเดินไปห้องสุดท้ายซึ่งเป็นห้องที่ห้าเมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากใครเลยในห้องที่สี่
ปึง! ปึง! ปึง!
"นิ้งอยู่ในห้องนั้นไหม! เปิดประตูให้เฮียหน่อย นี่เฮียเองนะ เฮียมารับหนูกลับบ้านแล้วนะ" กำปั้นหนักๆกระหน่ำฟาดใส่บานประตูอย่างแรงจนมือแดงเถือก หัวใจแกร่งเต้นแรงระรัวจนแทบผิดจังหวะระหว่างรอเสียงตอบรับจากคนในห้อง หากคะนิ้งไม่ได้อยู่ที่นี่เขาก็จนปัญญาที่จะตามหาเธอ
แกร๊ก~
เสียงปลดล็อกประตูจากด้านในราวกับเสียงตอบรับจากสวรรค์ที่ฟังคำร้องขอของเขา ต้นน้ำรีบผลักประตูเข้าไปโดยไม่รอให้คนข้างในเป็นคนเปิดมัน
"ตะ..ต้นจริงๆด้วย!" คะนิ้งที่มีท่าทางหวาดกลัวในตอนแรกโผเข้ากอดชายคนรักเมื่อเห็นว่าคนที่ผลักประตูเข้ามาคือต้นน้ำจริงๆ สองแขนเรียวเล็กตวัดโอบรัดเอวสอบไว้แน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป
"ตะ..ต้นมาหาหนูจริงๆด้วย"
"ไม่ต้องกลัว เฮียมารับกลับบ้านแล้วนะ" ต้นน้ำไม่ลังเลที่จะยกแขนขึ้นมากอดตอบ ริมฝีปากหนากดจูบลงบนศีรษะทุยเล็กหนักๆหวังปลอบประโลมให้เด็กสาวหายจากอาการหวาดกลัว
"แด๊ดดี้มาได้ยังไงคะ หาหนูเจอได้ยังไง แล้วเสียงข้างล่างเมื่อกี้ที่หนูได้ยินคืออะไร เกิดอะไรขึ้นคะ เสียงกรีดร้องพวกนั้นมันน่ากลัวมากเลย" คะนิ้งรัวคำถามใส่โดยไม่คลายพันธนาการอ้อมแขนออก
"แค่พวกสัตว์มันร้องโหยหวนอย่าไปสนใจเลย กลับบ้านกับเฮียนะ"
"หนูไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่พ่อคงไม่ยอมให้หนูไปกับแด๊ดดี้หรอก"
"เรื่องนั้นเฮียจัดการเอง ไม่ต้องห่วงหรอก ต่อให้เป็นพ่อก็ไม่มีสิทธิ์พรากหนูไปจากเฮีย"
"หนูอยากกลับบ้าน ที่นี่ไม่ใช่บ้านของหนู"
"เฮียมารับแล้วนี่ไง" ต้นน้ำค่อยๆดันตัวเด็กสาวออกจากอ้อมกอด แต่เธอก็ยังกำเสื้อเชิ้ตของเขาไว้แน่น
"แล้วเมื่อกี้ไม่ได้ยินเสียงเฮียเหรอ ทำไมไม่เปิดประตู"
"หนูกลัวจะไม่ใช่ต้นจริงๆ เสียงข้างล่างก็น่ากลัวมากเลย หนูไม่กล้าออกไป"
"ไอ้พายคงจัดการไอ้เจอาร์แล้วมั้ง"
"พี่พารันก็มาด้วยเหรอคะ"
"มันเป็นคนหาที่อยู่ของหนู พัดชาก็มาด้วย มารับหนูกลับบ้านไง"
"..."
"กลับบ้านกันนะ" รอยยิ้มอบอุ่นของชายคนรักช่วยปลอบประโลมหัวใจที่บอบช้ำให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เธอเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนอน ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดประตูออกไป แต่ตอนนี้เธอกล้าจะเผชิญหน้ากับทุกอย่าง เพียงแค่มีต้นน้ำอยู่ข้างๆก็รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ความรู้สึกมันบอกว่าเขาจะปกป้องเธอ
เหมือนที่พารันเคยบอกไว้ว่าคงไม่มีใครรักเธอได้เท่าผู้ชายคนนี้อีกแล้ว
"ค่ะ เรากลับบ้านกันนะ"
"เด็กน้อย อยู่กับเฮียหนูไม่ต้องกลัวอะไร ไม่มีใครทำร้ายหนูได้ แม้แต่พ่อของหนู" ต้นน้ำโน้มใบหน้าลงไปจูบเบาๆบนริมฝีปากอวบอิ่ม สัมผัสเธออย่างนุ่มนวลกว่าทุกครั้งเพื่อให้เธอรับรู้ถึงความรักใคร่และหวงแหนที่เขามีให้
"งั้นแกก็ไสหัวออกไปจากบ้านฉัน! แล้วอย่าซมซานกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!"
"ขอบคุณที่พลาดทำให้หนูเกิดมาค่ะ เพราะมันทำให้หนูรู้ว่าคนบางคนไม่เหมาะจะเป็นพ่อคนเลยจริงๆ"
"คะนิ้ง!"
แปะๆๆ
"ว้าวววว เป็นฉากที่น่าประทับใจจริงๆ" พัดชาที่นั่งดูอยู่บนโซฟาปรบมือขัดจังหวะ ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นเดินไปหาต้นน้ำและคะนิ้ง
"ไม่ต้องกลัวว่าลูกลุงจะไปไม่รอดหรอก เพราะน้องคะนิ้งเป็นน้องสาวของพวกเรา พวกเราไม่ทิ้งขว้างน้องเหมือนที่พ่อแท้ๆของน้องทำหรอก"
"พวกแกอยากลองดีกับฉันใช่ไหม!"
"หึ ดูแล้วเหมือนหมาแก่ที่พยายามทำตัวเป็นเสือเพื่อขู่ศัตรูเลยนะ" พารันที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาเหยียดยิ้มเย้ยหยัน ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง เดินเข้าไปลูบผมคะนิ้งเบาๆ
"กลับบ้านเถอะตัวเล็ก ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก อย่าเสียเวลาอยู่ในที่แบบนี้นานเลย"
"ค่ะ เรากลับบ้านกันดีกว่า หนูก็อยากไปจากที่นี่แล้วเหมือนกัน" คะนิ้งคลี่ยิ้มบางๆ พร้อมทั้งกุมมือต้นน้ำแน่น ก่อนจะเดินออกมาโดยไม่เหลียวหลังกลับไป แม้จะได้ยินเสียงของผู้เป็นพ่อดังตามมาก็ตาม
"นังลูกไม่รักดี!"
"เอาเวลาที่ตะโกนด่าน้องผมพาลูกเลี้ยงของคุณไปหาหมอเถอะ หรือจะปล่อยให้มันตายๆไปก็ได้ คนอย่างมันอยู่ไปก็เปลืองอากาศหายใจ" พารันปรายตามองเจอาร์ที่นอนขดตัวอยู่บนพื้นเพียงนิด พร้อมกับยกแขนขึ้นมากอดคอพัดชาหลวมๆ แล้วเดินตามคะนิ้งและต้นน้ำออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กินเด็ก 20+