ซูชิงหว่านฮึดฮัดอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
นางก็รู้อยู่แล้วว่าพอมีลู่จิ่วหยวนอยู่ คนอื่น ๆ ก็จะถูกแย่งความโดดเด่นไปหมด
ช่วงครึ่งวันสุดท้าย
แปดตระกูลใหญ่เดินทางมาถึงพร้อมกัน
สิ่งแรกที่พวกเขาทำเมื่อมาถึง ก็คือแย่งชิงตำแหน่งแถวหน้าในวงในทันที
ระหว่างนั้น แปดตระกูลใหญ่ยังได้ประจันสายตากับอวี๋จาวและพวกอย่างดุเดือด
พวกบรรพจารย์สุยเปี้ยนที่มีนิสัยหงุดหงิดง่าย เกลียดที่ตัวเองไม่สามารถงอกตาเพิ่มได้สิบแปดดวง เพื่อที่จะจ้องกลับไปให้หมดทุกคน
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลัวว่าคนอื่นจะนินทา หรือว่ามีความกังวลบางอย่าง คนของแปดตระกูลใหญ่จึงไม่ได้เดินเข้ามาหาเรื่องด้วยตัวเอง ทำให้หวงจงและคนอื่น ๆ รู้สึกโล่งใจไปบ้าง
ไม่นานนักตระกูลหนานกง ตระกูลเป่ยหมิง ตระกูลซีเหมิน และตระกูลตงฟางก็มาถึงครบ เสียงอึกทึกคึกโครมดังยิ่งกว่าเดิม
“คนเกือบครบแล้ว คงใกล้จะเริ่มแล้วสินะ”
มีคนพูดกับสหายเบา ๆ แววตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
อวี๋จาวได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วย
แต่ไม่คาดคิดเลยว่าในวินาทีนั้นเอง ก็มีเสียงร้องที่ยาวนานและโหยหวนดังขึ้นจากท้องฟ้า
จากนั้นก็เห็นหงส์เพลิงสีดำตัวหนึ่งกางปีกบินมา
ทั้งตัวมันปกคลุมด้วยขนสีดำสนิท ไม่มีขนสีอื่นปะปนอยู่เลยแม้แต่เส้นเดียว สีดำเข้มดุจน้ำหมึกราวกับจะสามารถกลืนกินแสงสว่างได้ทั้งหมด
บนหลังหงส์เพลิงดำยังมีสตรีนางหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ ริมฝีปากแดงสดของนางยิ่งเด่นชัดสะดุดตาท่ามกลางความมืดมิด
“เอ๊ะ สตรีผู้นี้เป็นใครกัน ไม่คุ้นหน้าเสียเลย?”
“นางนั่งมาบนหลังหงส์เพลิงดำ เช่นนี้เกรงว่าจะเป็นคนของซิวหลัวอวี้?”
“มีความเป็นไปได้มาก! ได้ยินมาว่าไม่กี่ปีนี้ ซิวหลัวอวี้มีองค์หญิงผู้ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งที่เป็นที่โปรดปรานของเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์! บางทีอาจจะเป็นนาง!”
“.....”
ท่ามกลางเสียงซุบซิบของผู้คน สตรีผู้นั้นก้าวลงจากหลังหงส์เพลิงดำอย่างอ่อนช้อย ทุกคนรอบข้างต่างรีบถอยหนี ไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป
ท้ายที่สุดชื่อเสียงของซิวหลัวอวี้นั้นเลื่องลือไปทั่ว ฆ่าคนตามอำเภอใจ ไม่มีใครอยากถูกลากเข้าไปเป็นศัตรูโดยไม่จำเป็น
หงส์เพลิงดำเมื่อสตรีลงมาแล้ว ก็ส่งเสียงร้องยาวนานครั้งหนึ่ง ก่อนจะโบยบินหายลับไปในท้องฟ้า
อวี๋จาวกำลังจะเพ่งมองดูองค์หญิงผู้ศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นให้ชัดเจน แต่แล้วจู่ ๆ ม่านพลังโปร่งใสเบื้องหน้าก็พลันเกิดระลอกคลื่นขึ้นมา
ถัดจากนั้นไม่นาน เสียงระฆังอันศักดิ์สิทธิ์และขรึมขลังพลันดังขึ้น
ความคิดที่ยุ่งเหยิงในใจผู้คนถูกกวาดล้างไปหมด สายตาทั้งหมดหันไปจ้องยังอาคารด้านหน้าโดยพร้อมเพรียง
แทบจะพร้อมกับเสียงระฆังที่ค่อย ๆ เลือนหาย เงาร่างหนึ่งก็ก้าวออกมาอย่างเชื่องช้า
บรรยากาศในลานพลันร้อนแรงขึ้นทันที ราวกับเพียงประกายไฟเล็กน้อยก็สามารถจุดติดได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลับมาครั้งนี้ ข้อขอเดินวิถีไร้รัก