เขากลัวจะถูกจับได้
จวงจื่อจิ่นลังเลขึ้นมา ถ้าเกิดว่าเป็นก่อนหน้านี้เธอคงไม่มีทางลังเล แล้วตอบรับไปเลย
ตอนนี้เธอตกลงกับหลินซินเหยียนว่าจะไม่กดดัน และจะไม่เร่งเร้าเธอกับเหอรุ่ยเจ๋อให้คบกันด้วย เธอไม่กล้ายอมรับง่ายๆ
“เรื่องนี้ ฉันต้องโทรไปถามเหยียนเหยียนก่อน” จวงจื่อจิ่นพูดพลางเดินไปหยิบโทรศัพท์ เหอรุ่ยเจ๋อกดโทรศัพท์เอาไว้ “แค่ไปกินข้าวเอง ไม่ต้องถามหรอก ฉันขับรถมาแล้วด้วย”
จวงจื่อจิ่นยังไม่ยอม เพราะกลัวว่าหลินซินเหยียนจะไม่พอใจ
หลินซินเหยียนดูแลบ้านทั้งหมด มันไม่ง่ายเลย เธอไม่อยากให้ลูกสาวไม่พอใจ
“ไปกันเถอะ ฉันไม่ใช่เสือร้ายสักหน่อย รู้จักกันมานานแล้ว ยังไม่เชื่อฉันอีกเหรอ?” เหอรุ่ยเจ๋อยืนขึ้นมา
จวงจื่อจิ่นดูเวลา ตอนนี้ยังไม่ถึง10โมงเลย และก็ยังไม่ถึงเวลากินข้าวด้วย “ไปกินข้าวเที่ยงตอนนี้ มันยังเช้าไปหรือเปล่า?”
“ร้านอาหารที่ฉันจองเอาไว้มันไกลมาก เดี๋ยวถึง ก็เที่ยงพอดี ไม่เร็วไปหรอก” เหอรุ่ยเจ๋อรีบพูดโน้มน้าวจวงจื่อจิ่น
เหอรุ่ยเจ๋อพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอก็ปฏิเสธไม่ลงเท่าไหร่ เลยต้องตอบตกลง “คุณนังรอบนโซฟาก่อนเถอะ ฉันจะไปดูแลเด็กสองคนนั้นก่อน”
เธอปลดผ้ากันเปื้อนบนตัวก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง
หลินซีเฉินนั่งอยู่บริเวณหน้าต่าง พลางกอดน้องสาว เขากำลังสอนน้องใช้แท็บเล็ตอยู่
หลินซินเหยียนเอาแท็บเล็ตกับโทรศัพท์มาให้เขา เขาก็สามารถโทรหาครูได้ แล้วก็สามารถเล่นเกมได้ด้วย
จวงจื่อจิ่นกอดหลินลุ่ยซีขึ้นมา ก่อนจะเปลี่ยนชุดจากชุดอยู่บ้านบนตัวเธอสักหน่อย
หลินซีเฉินพิงหมอนนุ่มๆ พลางมีแท็บเล็ตวางอยู่บนขา แล้วใช้นิ้วเล่นอยู่บนหน้าจอ จากนั้นจึงถาม “ยาย คุณเปลี่ยนชุดให้น้อย จะออกไปข้างนอกเหรอ?”
“อือ คุณลุงบอกว่าอยากจะพาพวกเราออกไปกินข้าวข้างนอก” เมื่อพูดคำว่าลุงออกมา จวงจื่อจิ่นก็นึกถึงลูกชายของตัวเอง
หลินซีเฉินนั่งตกใจ พลางกะพริบตาปริบ แล้วมองจวงจื่อจิ่น “ยาย เมื่อครู่คุณพูดว่าอะไรเหรอ?”
จวงจื่อจิ่นพูดอีกครั้งด้วยความอดทน
หลินซีเฉินวางของลง ก่อนจะวิ่งไปที่ประตูทันที พลางแง้มประตูดูเบาๆ ก็เห็นว่าเป็นเหอรุ่ยเจ๋อ เขานั่งอยู่บนโซฟา แล้วบนหัวก็มีผ้าพันแผลอยู่ด้วย
เขาคิดย้อนสักพัก วันนั้นเขาเห็นคลิปจากจงจิ่งห้าว ตอนที่เขากำลังไล่ตามหม่ามี๊
เขาไม่เคยเจอ ท่าทีที่หม่ามี๊กลัว และไร้หนทางขนาดนั้น
หลินซีเฉินกำหมัดเล็กๆ แน่น “คนแสร้งทำเป็นดี ร้ายกว่าหนามตำใจคนนั้นเสียอีก”
ท่าทีที่ดูเป็นคนดี แต่เบื้องหลังกลับทำร้ายหม่ามี๊ของเขา
“คุณกำลังพูดอะไรเหรอ?” จวงจื่อจิ่นหันไปมองหลินซีเฉินที่กำลังพูดคนเดียวอยู่ตรงประตู “คุณอยากเปลี่ยนชุดหน่อยไหม?”
“ไม่เปลี่ยน” หลินซีเฉินพูดเสียงแข็ง ไปกินข้าวงั้นเหรอ?
หึ!
เขาไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น
ใครจะไปรู้ว่าคนคนนี้ จะไม่จับพวกเขาไป เพื่อขู่หม่ามี๊?
เมื่อคิดไป หลินซีเฉินก็ตัวเย็น ขนลุกขึ้นมาทั้งตัว
“ฉันอยากเข้าห้องน้ำ” เมื่อพูดจบ หลินซีเฉินก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เขาปิดประตูและล็อกด้วย
ทำอย่างไรดี?
ทำอย่างไรถึงห้ามไม่ให้จวงจื่อจิ่นไปกับเหอรุ่ยเจ๋อได้นะ ทำอย่างไรถึงจะใบ้ให้เขารู้ได้นะ?
หลินซีเฉินนั่ลงบนฝาชักโครก ด้วยท่าทีอมทุกข์ จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีเบอร์โทรศัพท์ของจงจิ่งห้าว เลยโทรไป……
ที่ว่านเยว่
ในห้องทำงานของจงจิ่งห้าว มีชายคนหนึ่งเข้ามา
ชายคนนี้เป็นเพื่อนของจงจิ่งห้าว
ครั้งก่อนที่ไปที่คลับKS ก็เป็นเขาที่จัดขึ้นมา แล้วก็นัดจงจิ่งห้าวไปด้วย
สุดท้ายจงจิ่งห้าวก็ได้เจอหลินซินเหยียนที่เกือบจะถูกทำร้ายเลยไม่ได้ไป
คนคนนี้จำขึ้นใจ
ซูจ้านแค่เดินเข้ามาก็พูดเสียดสี “นี่ ฉันเป็นคนที่โดนทอดทิ้งในตอนนั้น แล้วก็ยังมาใช้กันอีก หายากจริงๆ เลย”
เมื่อได้รับโทรศัพท์ เขาคิดว่าตัวเองฟังผิดไปแล้ว
จงจิ่งห้าวไม่อยากจะพูดอะไรกับเขา “ของกับคนอยู่ที่ไหน”
เรื่องการฟ้องร้อง ทนายจะต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
หลักฐาน ก็ต้องให้ดูว่ามันใช้ได้มากน้อยแค่ไหน
ซูจ้านเบ้ปาก “มากเกินไปแล้วนะ ทนายที่นี่มีคนดีๆ มากมาย แต่ถูกคุณพามาทำงานให้กับบริษัทของคุณหมดเลย นี่มันอยากให้เจ้านายอย่างฉัน มาฟ้องร้องแทนคุณอีกงั้นเหรอ?”
เห้อ...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม