วิลล่า
เห้อ
เสียงถอนหายใจ
ยู่ซิ่วสะอื้น แล้วก็ใช้มือเพื่อจะปกปิดความเจ็บของเธอ จากการร้องไห้เป็นช่วงๆ ได้กลายเป็นร้องไห้ต่อเนื่องอย่างเก็บเสียงของเธอ เธอหลับตาไว้แน่น ใช้ฟันกัดหมัดของตัวเอง เพราะพยายามที่จะห้ามไม่ให้ตัวเองร้องไห้
จงฉีเฟิงเป็นผู้ชาย มีจิตใจที่แกร่งกว่า ก็เลยทนได้ พยุงยู่ซิ่วลุกขึ้น “พวกเราไปเถอะ คุณสุขภาพไม่แข็งแรง”
เธอเงยหน้าไว้ พยายามทนให้น้ำตาไหล “ฉันอยากอยู่ที่นี่......”
ยังไม่ทันพูดจบ เธอก็รู้สึกได้ว่าตัวเองวู่วามเกินไปแล้ว ตามนิสัยของจงจิ่งห้าวจะให้เธออยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน
จงฉีเฟิงรู้ว่าเธอคิดอะไร “ต่อไปพวกเรามาเยี่ยมหลานทั้งสองคนบ่อยๆ ก็ได้”
ยู่ซิ่วไม่วางใจเลย อารมณ์แปรปรวนหนักมาก “ทำไมเขาถึงได้ทื่อขนาดนี้นะ เรื่องที่ตัวเองทำลงไปตัวเองยังไม่รู้หรอ?”
ปฏิกิริยาของจงจิ่งห้าวบ่งบอกว่าเด็กสองคนนั้นไม่ใช่ลูกของเขา
เมื่อกี้เธอดูออกว่า จงจิ่งห้าวรู้สึกอึดอัดกว่าพวกเขาทุกคน
“คุณลองพูดสิ จะให้ฉันวางใจได้ยังไง?” ยู่ซิ่วถอนหายใจ “เขาไม่ใช่คนที่สติไม่ดี ทำไมถึงไปทำเรื่องผิดๆ แบบนี้กันแน่?”
จงฉีเฟิงตบที่ไหล่ของเธอ “ผมว่าเขาน่าจะสืบเองแหละ คุณฟังที่ผมพูดนะ กลับไปก่อน พรุ่งนี้ถ้าคุณอยากเยี่ยมเด็กทั้งสองคน ผมค่อยพาคุณมา”
เพื่อให้ยู่ซิ่วยอมกลับบ้านไปกับตัวเอง จงฉีเฟิงพูดต่อว่า “ตอนที่จิ่งห้าวไม่อยู่ พวกเราก็รับพวกเขาไปนอนที่บ้านคืนหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้นิ ตอนนี้คุณกับผมมีหลานที่น่ารักทั้งสองคน ต้องดีใจสิ คุณจะร้องไห้ทำไม ไม่ดีต่อสุขภาพด้วย”
ยู่ซิ่วรู้ว่าตัวเองดีใจ เช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า “ก็ฉันรู้สึกว่าเด็กสองคนนั้นน่าสงสารเกินไปแล้ว หลินซินเหยียนเองก็ไม่ใช่ง่ายๆ เป็นแม่คนเดียวที่เลี้ยงลูกสองคน.......”
“ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” จงฉีเฟิงถอนหายใจ “คุณเป็นห่วงมากเกินไปแล้ว กลับบ้านก่อนเถอะ”
จงฉีเฟิงพยุงเธอไว้ ยู่ซิ่วรู้ว่าตัวเองไม่สามารถอยู่ที่นี้ได้ จงฉีเฟิงพูดก็ถูก สามารถมาเยี่ยมหรือรับไปอยู่ด้วยหลังจากที่จงจิ่งห้าวไม่อยู่
ลุงเฟิ๋งวิ่งไปข้างหน้าเพื่อเปิดประตู
ป้าหยูนั่งลงไปบนโซฟา มองจวงจื่อจิ่น “เธอๆ ม่ควรปิดบังไว้เลย ควรจะพูดออกมา จะไม่พอใจยังไง ก็ไม่ควรจะปกปิดลูกนานขนาดนี้”
ป้าหยูบ่น
จวงจื่อจิ่งตาตก ถ้าเธอรู้มีหรอที่เธอจะไม่บอก
เธอก็อยากให้เด็กมีพ่อ
แต่หลินซินเหยียนบอกว่าคืนนั้นเป็นคนในพื้นที่ ผ่านไปนานขนาดนี้แล้วใครก็ไม่เอ่ยถึง และยิ่งไม่ได้คิดไปบนตัวจงจิ่งห้าวเลย
แต่ว่าเธอไม่ได้อธิบายให้ป้าหยูฟัง นั้นเป็นความลับของลูกสาว
พูดออกมาไม่ดี
เข้าใจผิดก็เข้าใจผิดไปเถอะ
ป้าหยูดูออกว่าจวงจื่อจิ่นเองก็เสียใจ ก็เลยไม่ได้พูดต่อ
สายลมพัดอ่อนๆ แสงจันทร์คลุมเครือ
หลินซีเฉินนั่งอยู่ในรถอย่างเงียบๆ มองบรรยากาศจากหน้าต่างที่ผ่านไปอย่างเร็ว บางครั้งก็ดึงเสื้อให้น้องแล้วปลอบว่า “อีกไม่นานพวกเราก็จะได้เจอหม่ามี๊แล้ว”
จงจิ่งห้าวมองท่าทางของหลินซีเฉินจากกระจกมองหลัง กลืนน้ำลาย มีความร้อนไหลเข้าในช่องคอ
ไม่ว่าจะฉลาดยังไง ก็ยังเป็นแค่เด็กอายุ 5 ขวบเท่านั้น ดูแลน้องสาวเก่งขนาดนี้ เป็นเด็กดีขนาดนี้จนเขาปวดใจ
ยังจำได้เด็กคนนี้เพื่อจะแก้แค้นให้หลินซินเหยียน ไม่สนว่าตัวเองตกอยู่ในอันตราย จนถึงตอนนี้แผลบนหัวยังไม่สมานดีเลย
เด็กคนนี้........
มีคำพูดสามารถกล่าวถึงความรู้สึกของเขาในตอนนี้ได้
เขาที่เป็นผู้ใหญ่ เขาที่มั่นคงและใจเย็น ตอนนี้กลับยุ่งเหยิงไปหมด
ไม่นานรถก็ขับมาถึง LEO ประตูปิดสนิท ไม่มีแสงไฟเลยแม้แต่น้อย หลินซินเหยียนไม่อยู่ เขาก้มหน้ามองดูเวลา ห่างจากเวลาที่หลินซินเหยียนบอกมาจะมาร้าน ก็ผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้ว แต่เธอกลับไม่อยู่ในร้าน ไปไหนแล้ว?
เขาเอาโทรศัพท์ออกมาโทรไปที่เบอร์ของหลินซินเหยียน แต่เสียงตอบรับก็ยังเป็น “ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ขนาดนี้ รบกวนติดต่อใหม่อีกครั้งภายหลัง.....”
เขาขมวดคิ้ว ตั้งใจนึกย้อนคำพูดและท่าทางทั้งหมดของหลินซินเหยียนในตอนนั้น แตกต่างจากเธอในปกติมาก
วันนี้ตอนเที่ยงเธอแอบไปร้องไห้คนเดียว
ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ยิ่งคิด ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีก็ยิ่งรุนแรง
เขารีบเลื่อนหาเบอร์ของกวนจิ้ง ไม่นานเขาก็หยุดลง เปลี่ยนเป็นโทรไปหาเสิ่นเผยซวน วันนี้อยู่ๆ เสิ่นซิ่วฉิงก็ปรากฏตัว ตอนนี้ติดต่อหลินซินเหยียนไม่ได้อีก รู้สึกว่าระหว่างนี้จะมีอะไรเกี่ยวพันกัน
เสิ่นเผยซวนมีหน้าที่สืบหาเรื่องของเสิ่นซิ่วฉิง ยิ่งได้เปรียบถ้าจะสืบเรื่องที่หลินซินเหยียนขาดการติดต่อ ว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้รึเปล่า
ไม่นานก็มีคนรับสาย “ตอนนี้นายอยู่ไหน?”
เสิ่นเผยซวนอึ้งไปสักพัก น้ำเสียงของจงจิ่งห้าวทำให้เขาแปลกใจ เหมือนรีบมาก รู้สึกได้ผ่านโทรศัพท์เลย
ก็เลยรู้สึกไม่ชิน
เขาหันไปมองหมอชันสูตรศพี่กำลังตรวจสอบศพ แล้วบอกกับจงจิ่งห้าวว่า “ฉันอยู่ในห้องชันสูตร สืบเหตุการณ์เสียชีวิตของเสิ่นซิ่วฉิง”
จงจิ่งห้าวตัดสาย ตอนที่เตรียมจะไป ก็เห็นเด็กสองคนที่อยู่ข้างหลัง
เขาจะพาพวกเขาไปในพื้นที่แบบนั้นไม่ได้
“หม่ามี๊ผมล่ะ?” หลินซีเฉินกะพริบตา ประตูที่นี่ปิดสนิท ไม่มีแม้แต่เงาหม่ามี๊เลย
จงจิ่งห้าวไม่รู้จะอธิบายยังไง “ฉันส่งพวกเธอกลับบ้านก่อน แล้วไปหาหม่ามี๊พวกเธอกลับมา ดีไหม?”
หลินซีเฉินขมวดคิ้ว เหมือนกับจงจิ่งห้าวขมวดคิ้วเมื่อกี้ ถามขึ้นมาอีกครั้ง “หม่ามี๊ผมล่ะ?”
เธอโตขนาดนั้นแล้วมีทางที่จะเดินหลงได้แน่ หรือว่าจะเจอกับอันตราย?
พอคิดแบบนี้ หลินซีเฉินก็รู้สึกใจไม่ดี “หม่ามี๊ หายไปตัวใช่ไหม?คุณเองก็หาหม่ามี๊ไม่เจอ?”
เด็กคนนี้อ่อนไหวเกินไปแล้ว แทบจะปิดบังอะไรไม่ได้เลย
จงจิ่งห้าวมองเขาอย่างแน่วแน่ “หาเจอได้”
มือเล็กๆ ของหลินซีเฉินกำหมัดอย่างแน่น ขอบตาเริ่มแดงขึ้นมา “คุณอาจจะไม่ชอบหม่ามี๊ผม แต่เห็นแก่ที่หม่ามี๊คลอดพวกผม คุณต้องหาหม่ามี๊ให้เจอนะครับ และต้องรับรองความปลอดภัยของหม่ามี๊ด้วย คุณอาจจะไม่อยากยอมรับผมกับน้องสาว แต่ว่าบนตัวของพวกผมมีเลือดของคุณไหลอยู่ เห็นแก่ความสัมพันธ์นี้ ต้องหาหม่ามี๊ผมให้เจออย่างปลอดภัยด้วยนะครับ”
จงจิ่งห้าวหันข้าง ใช้มือหนึ่งประคองหน้าผากไว้ เงาของมือได้ปกปิดสีหน้าแทบหมด เสียงของเขาแหบมาก “ทำไมถึงรู้สึกว่าฉันไม่ชอบหม่ามี๊ของนาย แล้วไม่อยากยอมรับนาย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม