หลินซินเหยียนก้มมองกำไลที่ข้อมือ จากนั้นก็ยิ้มออกมา“ทำไม คุณชอบสะสมมันหรอ?หรือว่าชอบผู้หญิงที่ใส่เครื่องประดับแบบนี้?”
ไป๋ยิ่นหนิง“……”
“ไม่ใช่……”
“ถ้างั้นคุณจะถามอะไรกันแน่?”หลินซินเหยียนเอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิด
ถ้าเธอไม่บังเอิญเห็นรูปของยู่ซิ่วในห้องหนังสือของเขา เธอก็คงไม่ระแวงขนาดนี้
ยู่ซิ่วเป็นคนมอบกำไลหยกนี้ให้กับเธอ แล้ววันนี้เขากลับมาถามถึงที่มาของกำไลหยก มันทำให้เธอรู้สึกระแวงขึ้นมา
เธอกำหมัดแน่น ในใจได้แต่สงสัยว่ายู่ซิ่วกับเขาเป็นอะไรกัน?
ไม่มีใครเอารูปคนที่ไม่รู้จักมาวางไว้ในห้องหนังสือของตัวเองหรอกนะ?
แถมยังวางอยู่บนโต๊ะอีก เห็นได้ชัดเลยว่าต้องหยิบมาดูบ่อยๆ
ไป๋ยิ่นหนิงหัวเราะออกมาเบาๆ“คิดมากขนาดนั้นไม่เหนื่อยบ้างหรอ?”
เขารับรู้ได้ถึงความสงสัยของหลินซินเหยียนอย่างชัดเจน
“ผมไม่รู้จักหล่อน ผมแค่เคยเห็นรูปของหล่อนเท่านั้น”ไป๋ยิ่นหนิงพูดออกมาตามตรง เขาวางรูปลงบนโต๊ะ นี่เป็นเพียงการทดสอบหลินซินเหยียน
เขาไม่ได้เอาวางไว้บนโต๊ะอยู่ตลอด
เขาเหลือบมองไปที่กำไลหยกบนข้อมือของเธอ“ผมจะเก็บคุณไว้ เพราะกำไลหยกนี้มันเหมือนกับอันที่ผู้หญิงในรูปใส่อยู่ ผมคิดว่า---คุณน่าจะเป็นลูกสาวของหล่อน”
หลินซินเหยียน“……”
เธอเอาแต่เงียบ
ไป๋ยิ่นหนิงจึงไม่พูดต่อ
“คุณไปพักผ่อนเถอะ”
หลินซินเหยียนขมวดคิ้วขึ้น เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดมากเท่าไหร่“คุณไม่รู้จักหล่อนแต่กลับคิดว่าฉันเป็นลูกสาวของหล่อนก็เลยเก็บฉันไว้ที่นี่ นี่มันไม่ใช่เพราะเห็นแก่หล่อนหรอกเหรอ?ใครจะมาให้เกียรติผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนขนาดนี้ คุณคิดว่าฉันจะเชื่อที่คุณพูดหรอ?”
หลินซินเหยียนไม่ปิดบังความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับตัวตนของเขาอีกต่อไป“คุณกับหล่อนเป็นอะไรกัน?ญาติหรอ……”
ที่จริงเธออยากจะพูดออกไปว่าแม่กับลูกต่างหาก
นอกเสียจากว่าก่อนที่ยู่ซิ่วจะแต่งงานกับจงฉีเฟิงหล่อนมีลูกกับชายอื่นอยู่ก่อนแล้ว เธอคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย
แต่เธอก็คิดว่ายู่ซิ่วไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้น
เธอรู้สึกงงกับเรื่องนี้มาก
จึงอยากจะถามไป๋ยิ่นหนิงให้รู้เรื่องรู้ราว
“พวกเรามาทำข้อตกลงกันดีกว่า”จู่ๆไป๋ยิ่นหนิงก็เสนอขึ้น
หลินซินเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงถามออกไป“ข้อตกลงอะไร”
เธอไม่อยากตอบตกลงสุ่มสี่สุ่มห้ากับเขา
“ในเมื่อคุณอยากจะรู้ตัวตนของผม ผมก็จะบอกคุณ แต่คุณต้องตอบคำถามของผมมาตามตรง”ไป๋ยิ่นหนิงเอ่ยขึ้น
หลินซินเหยียนคิดอยู่พักหนึ่งแล้วตอบตกลงออกไป“ได้”
พอเทียบกับตัวเองแล้ว เธอรู้สึกว่าความลับของไป๋ยิ่นหนิงนั้นมีมากกว่าเธอเยอะ
“คุณผู้หญิงเริ่มก่อน ถามผมมาได้เลย”ตอนที่ไป๋ยิ่นหนิงยื่นข้อเสนอออกไป เขาได้เตรียมแผนเอาไว้แล้ว
หลินซินเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามขึ้น“พ่อกับแม่ของคุณชื่ออะไร เป็นคนที่ไหน?แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?”
ไป๋ยิ่นหนิงขมวดคิ้วขึ้น“นี่มันคำถามเดียวหรอ?”
“ใช่”หลินซินเหยียนตอบอย่างมั่นใจ“ฉันก็แค่ถามเกี่ยวกับครอบครัวคุณเอง?”
ไป๋ยิ่นหนิงหัวเราะออกมา เขาเถียงหลินซินเหยียนไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว เธอพูดจาฉะฉานมาก
สีหน้าของเขาดูเศร้าลง“ผมก็ไม่รู้ว่าแม่ผมคือใคร เพราะผมเป็นเด็กกำพร้า พ่อบุญธรรมของผมชื่อไป๋หงเฟยเป็นคนไป๋เฉิง และเป็นทายาทของไป๋ซื่อกรุ๊ป ต่อมาเขาได้เสียชีวิตลง ธุรกิจของไป๋ซื่อกรุ๊ปจึงถูกส่งต่อมาที่ผม และก่อนที่เขาจะจากไปเขาขอผมไว้ว่า……”
พอพูดถึงตรงนี้เขาก็หยุดแล้วมองไปที่หลินซินเหยียน“เขาขอให้ผมแต่งงานกับลูกสาวของคนที่ชื่อยู่ซิ่ว ผมคิดว่าคุณคือเธอ”
นี่เป็นเหตุผลที่เขาช่วยเธอและเก็บเธอไว้ที่นี่งั้นหรอ?
แล้วพ่อบุญธรรมของเขาที่ชื่อไป๋หงเฟยเป็นใครกัน?แล้วเป็นอะไรกับยู่ซิ่ว?
“ผมตอบไปหมดแล้ว ถึงตาผมถามคุณบ้าง”แม้ไป๋ยิ่นหนิงจะรู้สึกสับสนแต่เขาก็ถามออกไปอย่างแน่วแน่“คุณพร้อมรึยัง?”
สมองของหลินซินเหยียนคิดหนักขึ้นมาทันที เพราะไม่รู้ว่าเขาจะถามอะไร แต่สุดท้ายเธอก็ตอบออกไป
“พร้อมรึยัง?”ไป๋ยิ่นหนิงพูดเร่งเธอ
“พร้อมแล้ว”หลินซินเหยียนมองไปที่เขา
ไป๋ยิ่นหนิงเลิกคิ้วขึ้น“วันเสาร์ผมต้องไปงานเลี้ยง คุณไปออกงานเป็นคู่ผมหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม