สีหน้าของจงฉีเฟิงไม่ได้ดูเปลี่ยนไปจากเดิมเสียเท่าไหร่ เพียงแค่สายตาที่มองออกไปด้านนอกยิ่งดูก็ยิ่งหม่นมัวลงไปเรื่อยๆ
เขากับตระกูลของเหวินเสียนแต่งงานก็เพื่อดองญาติกัน ไม่ได้มีความรู้สึกรักใครกันแต่อย่างใด การแต่งงานหนึ่งปีที่ผ่านมาพวกเขาเคารพและเทิดทูนซึ่งกันและกัน และไม่เคยมีอะไรเกินเลยกันมาก่อน
แม้ในคืนที่เข้าห้องหอเป็นคืนแรก พวกเขาก็แยกกันนอน เพราะเธอบอกว่าเธอกลัว
จงฉีเฟิงทำไมจะไม่รู้ว่าในใจของเธอมีใครอยู่แล้ว ถึงไม่ยอมนอนห้องหอเดียวกับเขา
ตัวเขาเองก็ไม่ได้รักเธอหรอก แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหวินเสียนก็เป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง เธออ่อนโยนและเป็นมิตร มันจึงทำให้เขารู้สึกดีกับเธอเล็กน้อย
แต่ว่าความรู้สึกดีนี้ก็มีแค่เขาที่เก็บมันไว้ในใจลึกๆ
เพราะเขารู้ดีว่า ผู้หญิงคนนี้มีคนในใจอยู่แล้ว ถึงเธอจะดูอ่อนโยน แต่กลับมีนิสัยที่เข้มแข็งและซื่อสัตย์ และขีดเส้นชัดเจนเพื่อคนที่ตัวเองรักเสมอ
จุดนี้มันทำให้ใครๆ ก็ดีใจหรือเปล่านะ
พูดแล้วก็น่าขัน เขาทำเพื่อผู้หญิงคนนี้ ที่ผ่านมาเลยไม่เคยฝืนใจเธอ
จากไฟป่าคนนอกที่มองเข้ามาแล้วพวกเขาก็เป็นคู่ที่เหมาะสม ชายที่มากความสามารถกับหญิงที่หน้าตาสะสวย เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ทำให้ใครต่อใครต้องอิจฉา
แต่จะมีใครรู้ ว่า'ความรักฉันสามีภรรยา'นี่มันคือของปลอม
พูดถึงพฤติกรรมที่ภรรยานั้นทำทั้งหมด เขารู้แล้วอย่างหนึ่งคือ การที่เชื้อเชิญเขายังชัดเจนขนาดนี้ แสดงว่าคนในห้องที่รอเขาอยู่ตอนนี้ไม่ใช่เธออย่างแน่นอน...
แต่ยังไงเขาก็ยังกลับไปอยู่ดี
เขารู้อยู่ทนโท่แล้วว่า คนในห้องไม่ใช่ภรรยาของเขา แต่เขาก็ยังผลักประตูเข้าไปในห้อง
เฉิงยู่ซิ่วที่ได้ยินเสียง ก็หมกตัวอยู่ในผ้าห่ม ร่างกายของเธอก็สั่นไม่หยุด
จงฉีเฟิงที่ยืนอยู่ตรงประตูก็มองไปที่เตียง ร่างเล็กๆ นั่นกำลังสั่นเทา เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือว่าเสียใจดี
สามีภรรยาในยุคนี้ ผู้หญิงมักจะไวกว่าความรู้สึก ขี้สงสัย สนใจใคร่รู้เสียจนเกินงาม
แต่ภรรยาของเขานั้นไม่เหมือนคนอื่น ถึงขนาดพึงใจจะจัดผู้หญิงใส่พานมาให้เขา
เขาย่างขาเข้าไป แล้วปิดประตู
เฉิงยู่ซิ่วที่ซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่ม เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูแล้ว ก็ตัวสั่นหนักกว่าเดิม
หล่อนผ้าห่มที่ห่อตัวไว้แน่น กลัวว่าเขาจะเข้ามาก็ได้
จงฉีเฟิงยืนอยู่ตรงหัวเตียง จ้องมายังร่างผอมเพรียวที่คุดคู้อยู่ในผ้าห่ม เขาดูออกว่านี่ไม่ใช่เหวินเสียน แต่ก็จงใจเรียก " เหวินเสียน "
เฉิงยู่ซิ่วกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ในใจกำลังกรีดร้องว่าหล่อนไม่ใช่เหวินเสียน หล่อนไม่ใช่ภรรยาของเขา หล่อนคือเฉิงยู่ซิ่ว!
แต่หล่อนไม่สามารถทำแบบนั้นได้
หล่อนตกปากรับคำเหวินเสียนไปแล้ว ตอนนี้หล่อนรู้ตัวว่าตัวเองได้ทำผิดพลาดไปแล้ว เพิ่งจะรู้ว่าการตัดสินใจของตัวเองตอนนั้นมันบุ่มบ่ามเกินไป ถึงเราจะสามารถช่วยเหลือพี่ชายของตัวเองได้ รักษาตระกูลเฉิงไว้ได้ แต่ตัวหล่อนเองกับถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี
จงฉีเฟิงที่ยืนอยู่ข้างเตียงดูออก ว่าหญิงสาวที่อยู่ในผ้าห่มนั้นกำลังกลัว แต่เขาก็ไม่คิดจะจากไปแบบนี้หรอก
วันนี้ไม่ว่าผู้หญิงที่อยู่บนเตียงนี้จะสวยหรือขี้เหร่ จะฉลาดหรือโง่เง่า เขาก็จะมีอะไรกับหล่อนอยู่ดี
เขาปลดกระดุมเสื้อสูทของเขาออกทีละเม็ดๆ เชื่องช้าแต่เป็นจังหวะ เขาพูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำ " ในเมื่อคุณตอบตกลงไปแล้ว ทำไมต้องกลัว "
เฉิงยู่ซิ่วตกใจ เขาหมายความว่าอะไร
เหลือเขาจะรู้อยู่แล้วว่าคนที่อยู่ในผ้าห่มไม่ใช่ภรรยาของเขา
"คุณก็รับผลประโยชน์ของผู้หญิงคนนั้นมา คุณตอบรับคำขอของผู้หญิงคนนั้น ตอนนั้นไม่รู้สึกกลัวอะไร ทั้งหมดมันก็เป็นความยินยอมของตัวคุณเองไม่ใช่เหรอ "หล่อนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เขาไม่รู้สึกอย่างงั้นเหรอ
ไม่ช้า เฉิงยู่ซิ่วก็เปิดผ้าห่มออก " คุณ... "
หล่อนยังไม่ได้ถามคำถามออกไป ก็ถูกกดตัวลงจนล้มไปแหมะอยู่บนเตียงนุ่มนั้น ไม่ทันที่จะได้ตอบโต้ อีกฝ่ายก็ฉีกเสื้อผ้าหล่อนออกอย่างป่าเถื่อน
เฉิงยู่ซิ่วปัดป้อง " ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ ฉันไม่ใช่... "
นี่คือสิ่งที่ชายหนุ่มไม่อยากได้ยิน เขากดหัวหล่อนไว้ ไม่อยากจะมองหน้าหล่อน แม้แต่เสียงก็ไม่อยากได้ยินจึงเอาผ้าห่มคลุมหน้าหญิงสาวเอาไว้ " แบบนี้ ทั้งคุณและผมจะได้ไม่ดูอัปยศจนเกินไปไงล่ะ "
ตลอดทั้งคืน เฉิงยู่ซิ่วร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง
ตอนที่หล่อนอยู่กับไป๋หงเฟย ก็ไม่มีพฤติกรรมที่เกิดเลยแล้วกันเลยสักนิด ไป๋หงเฟยก็เคยแสดงออกว่า เขาอยากมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับหล่อน แต่ทุกครั้งหล่อนก็จูบปัดๆ ดเขาไป แล้วบอกว่าอยากเก็บสิ่งที่ดีที่สุดไว้ในคืนที่พวกเขาแต่งงานกัน
แต่ว่าวันนี้ หล่อนกับ ต้องเอาตัวเองมาเสนอให้ผู้ชายที่เคยเห็นแค่ในรูปถ่ายเท่านั้น หน้าตาที่แท้จริงเธอก็เห็นไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม