“โรงพยาบาลเหรินอ้าย” เสิ่นเผยซวนตอบ
ซูจ้านเพิ่งเดินถึงประตูใหญ่หมาดๆ เขาหันกลับมา แผ่นป้ายไฟนีออนแผนกผู้ป่วยนอกสี่คำที่แสดงอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลเหรินอ้าย นี่โรงพยาบาลเดียวกันกับท่านย่าเหรอ?
เขาขยับปากพูด “อยู่ตรงไหนเนี่ย?”
“ก็ห้องผ่าตัดไง” เสิ่นเผยซวนเริ่มมึนงงเล็กน้อย “นายเป็นอะไรหรือเปล่า?”
ซูจ้านไม่ตอบ ได้แต่พูดออกมาว่าจะฉันจะมาหาแก จากนั้นก็ตัดสายโทรศัพท์ทิ้งทันที
ซูจ้านกลับมาที่โรงพยาบาล จากนั้นดูตามแผนผัง และก็หาตำแหน่งของห้องผ่าตัดจนเจอ เสิ่นเผยซวนกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวยาวตรงทางเดิน และมีบรรดาบอดี้การ์ดยืนประกบอยู่ด้านข้างอีกหลายคน “ตอนนี้เป็นไงบ้างแล้ว?”
เสิ่นเผยซวนเห็นซูจ้านเดินเข้ามาหา จากนั้นก็ขยับตัวเปลี่ยนตำแหน่ง “นั่งคุยกัน”
ซูจ้านก้นเพิ่งจะแตะกับเก้าอี้
“หมอบอกว่าอีกนิดก็จะช่วยไว้ไม่ทันแล้ว ห่างจากหัวใจแค่สองเซนติเมตรเอง ตอนนี้ยังอยู่ในห้องผ่าตัดอยู่เลย” เสิ่นเผยซวนเอ่ยออกมา
ซูจ้านก่นดาทันที “ทำไมไม่ตายห่าไปสักทีไอ้คนชั้นต่ำ!”
เสิ่นเผยซวนจ้องมองเขา “ตายไปแล้วจริงๆ จิ่งห้าวเป็นฆาตกรฆ่าคน ฉันว่าพี่สะใภ้คนเดียวที่เข้าใจแจ่มแจ้งดี”
“ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้” ซูจ้านยังคงอยู่กับความรู้สึกที่ต้องการฆ่าเหอรุ่ยเจ๋อให้ตายไป
มีเงินมีอำนาจ มีเงินก็มีทุกอย่างมากองอยู่ตรงหน้าเหรอ?
ก็เป็นเพราะว่ามีเงิน อะไรก็มีอย่างเพียบพร้อมแล้ว
มีเงินก็ต้องมีอำนาจตามธรรมชาติ
อีกอย่างด้วยฐานะของทางบ้านน้าของจงจิ่งห้าว เรื่องนี้สามารถถูกลบออกไปได้เลย
เสิ่นเผยซวนรู้สึกว่าซูจ้านในเวลานี้ช่างตื่นตัวเกินไป ไม่ว่าจะพูดอะไรกับเขาก็ไม่มีประโยชน์ทั้งสิ้น เลยไม่กล้าปริปากพูดอะไรต่อ เพื่อให้เขาได้สงบจิตสงบใจลงก่อน เสิ่นเผยซวนประเมินความคับแค้นใจของซูจ้านต่ำเกินไป
ทางเดินในเวลานี้เงียบสงบมาก บรรยากาศอันเงียบงันแบบนี้จนมีความรู้สึกลึกลับเกิดขึ้นอยู่บ้าง
“นี่ด้านในนานขนาดนี้แล้ว ทำไมยังไม่เสร็จสักที?” ซูจ้านเริ่มแสดงอาการหมดความอดทนขึ้นมาบ้างแล้ว
เหลือบมองเขาอยู่แวบเดียว “หรือไม่ นายก็กลับไปก่อนไหม?”
เมื่อเห็นท่าทางของเขาแบบนี้ แม้ว่าเหอรุ่ยเจ๋อจะผ่าตัดและปลอดภัยดีแล้ว ก็คงต้องโดนซูจ้านทำร้ายแน่ๆ!
“ไม่กลับ” ซูจ้านตัดสินใจแล้ว
เสิ่นเผยซวนขมวดคิ้วนิ่วหน้า ทำไมคนคนนี้ถึงได้ไม่ยอมฟังอะไรค้านหัวชนฝาลูกเดียวเลย?
“เสิ่นเผยซวน ไอ้เด็กนั่นมันตบหน้าย่าฉัน นายพูดมาหน่อยสิว่าฉันจะอดกลั้นอารมณ์ไว้ได้ไหม?”
ซูจ้านจ้องเขาตาเขม็ง
แต่เห็นได้ชัดว่าในใจของเขานั้นแค้นเคืองมาก
เหอรุ่ยเจ๋อมันสารเลวจริงๆ ที่กล้าลงมือกับคนแก่ได้
“จิตใจของหมอจิตแพทย์ไม่ปกติ ช่างน่าหวาดกลัวกับคนธรรมดาทั่วไปมาก” เสิ่นเผยซวนเอ่ยขึ้น
เวลานั้นเองไฟหน้าห้องผ่าตัดที่กำลังแสดงว่ากำลังผ่าตัดอยู่กับดับลง ไม่นานนักประตูห้องผ่าตัดก็เลื่อนออก หมอและเหอรุ่ยเจ๋อที่โดนเข็นอยู่ทางด้านหลังก็ออกมา
คุณหมอถอดหน้ากากออก “การผ่าตัดประสบผลสำเร็จดีมาก แต่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่สักระยะยาวหน่อย เพราะว่าภายในมีอาการบาดเจ็บ ย่อมแสดงให้เห็นว่า มีผลกระทบกับอายุขัยด้วย...”
“ไอ้สัตว์นี้ไม่น่าจะรอดเลย!” หมอยังพูดไม่ทันจบ ซูจ้านก็ตัดบททันที
คุณหมอที่ถูกพูดตัดบทแสดงอาการไม่ค่อยยินดีเล็กน้อย
จนถึงขึ้นขมวดคิ้วแน่น “ถึงขั้นไม่อยากจะช่วย แล้วทำไมถึงส่งตัวคนเข้ามาล่ะ?”
หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว คุณหมอก็ย่อมดีใจมาก แต่พอโดนคำพูดของซูจ้านตอกกลับมาประโยคหนึ่ง เหมือนว่าคุณหมอโดนน้ำเย็นสาดเข้าหน้าอย่างจัง
บรรยากาศที่ตึงเครียดอยู่ข้างหน้า เสิ่นเผยซวนออกหน้าเพื่อทำให้บรรยากาศกลับเป็นปกติ เขายื่นเอกสารของตนเองให้กับคุณหมอดู "ผมมาจากเมืองB กำลังตามสืบผู้ต้องหามาถึงที่นี่ ตอนที่คนคนนั้นเขาวิ่งหลบหนีการจับกุมอยู่ ผมยิงจนโดนเขา เขาคือผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ ดังนั้นที่เพื่อนร่วมงานผมโมโหเป็นฟืนเป็นไฟมา เลยพูดไม่ค่อยเข้าหู คุณอย่าได้ถือสาเลยนะ"
ยามเมื่อคุณหมอได้ยินว่าเป็นผู้ต้องหามา แถมยังเป็นผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์อีก ความรู้สึกอิ่มเอมใจของตนเองจากการผ่าตัดเมื่อครู่พลันมลายหายไปพริบตา
อีกทั้งยังโมโหเดือดดาลมาก “ค้ามนุษย์ก็สมควรตายไปซะ”
เสิ่นเผยซวนยัดข้อหา ‘ค้ามนุษย์’ ให้กับเหอรุ่ยเจ๋อที่ใครๆ ทั้งรังเกียจทั้งนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม