หลินซินเหยียนก้มหน้าลง ก็เห็น‘ไข่นกพิราบ’เม็ดนั้นบนมือของลูกสาว
ตอนนั้นเธอออกไปอย่างเร่งรีบ ของก็ลืมไว้บนเตียงนอน หลินลุ่ยซีเดินขึ้นไปหาเธอ กลับพบว่าไม่มีคนอยู่ แต่เห็นบางอย่างส่องแสงวิบวับอยู่บนเตียง
เด็กหญิงตัวเล็กนั้นชอบเพชรแวววาวนี้มาก เธอไม่รู้ราคาของมัน เพียงแค่คิดว่ามันสนุกดี
หลินซินเหยียนไม่รู้จะทำอย่างไร เธอหันกลับไปมองจงจิ่งห้าวเพื่อถามความเห็นของเขา นี่ไม่ใช่ของเล่นธรรมดา เธอตัดสินใจเองไม่ได้
อีกอย่าง ของนี้จะเอามาเป็นของเล่นได้อย่างไร?
จงจิ่งห้าวกลับไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร กลับกันต่อให้หลินซินเหยียนไม่ชอบ ขอแค่ลูกสาวชอบเขาก็ดีใจแล้ว
เขาลูบหัวลูกสาวเบาๆ “ชอบหรอ?”
เด็กหญิงตัวเล็กพยักหน้าจริงจัง “หนูชอบค่ะ แวววาวมาก หนูยังไม่เคยเห็นก้อนหินที่แวววาวขนาดนี้มาก่อน แด๊ดดี้ หม่ามี๊ พวกคุณไปเก็บมันมาจากไหนหรอคะ?”
เธอเองก็อยากไปเก็บมันสักเม็ด
สวยมากเลย
เด็กผู้หญิงน่ะนะ ต่างก็ชอบของที่ชมพูๆ สว่างๆแวววาว
หลินซินเหยียน “......”
ก้อนหิน?
เธอนั่งยองๆ มองดูลูกสาวและสอนเธออย่างอดทน “เสี่ยวลุ่ย อันนี้น่ะไม่ใช่ก้อนหินธรรมดา ไม่ได้เก็บมาและมันก็หายากมากด้วย ไม่สามารถเอาออกไปเล่นข้างนอกได้ หม่ามี๊จะเก็บให้หนูนะ รอลูกโตแล้ว หม่ามี๊ถึงจะคืนให้หนูดีมั้ยจ๊ะ? ”
หากนำสิ่งนี้ออกไปข้างนอก และปล่อยให้คนโลภเห็นมันเข้า มันจะไม่คุ้มกับการสูญเสียที่จะนำภัยพิบัติมาสู่เธอ
เด็กหญิงน้อยไม่เข้าใจเท่าไร เพียงแต่เข้าใจว่า หินก้อนนี้ดูเหมือนจะมีราคา
เธอก้มหน้ามองไข่นกพิราบ มันแวววาวจริงๆ
เธอชอบมันมาก
หลินซินเหยียนดูออก ว่าลูกสาวของเธออาลัยอาวรณ์ เธอถอนหายใจเล็กน้อย “หม่ามี๊ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้หนูนะจ๊ะ แต่ว่าของนี้ค่อนข้างจะมีราคา ถ้าหนูถือออกไปข้างนอก มีคนไม่ดีมาเห็นเข้า ก็จะมาแย่งของหนูไป ใช่มั้ย?”
เด็กหญิงดูเหมือนจะจิตนาการได้ว่ามีคนจะมาแย่งของของเธอ เลยกอดมันไว้ในอ้อมกอด
การกระทำนั้นทำให้หลินซินเหยียนทำหน้าไม่ถูก
ก่อนหน้านี้ทำไมเธอไม่รู้ ว่าเธอชอบของที่มันแวววาวขนาดนี้
“งั้นห้ามถือออกไปเล่นข้างนอก ตกลงไหม?” แน่นอนว่าตอนนี้คงกล่อมเธอไม่สำเร็จ รอจนเธอไม่ค่อยสนใจมันแล้ว ค่อยเก็บให้เธอละกัน
แต่เด็กหญิงกลับลังเล คำพูดที่ว่าจะโดนคนแย่งไปนั้น ทิ่มแทงเธอเล็กน้อย ถ้าหากโดนแย่งไปล่ะ งั้นเธอก็ไม่มีแล้ว
เธอยังคงลังเลเล็กน้อย แล้วยื่นไปตรงหน้าหลินซินเหยียน “หม่ามี๊ หม่ามี๊ช่วยหนูเก็บมันเถอะ รอให้หนูโตขึ้น หม่ามี๊ค่อยคืนให้หนู”
หลินซินเหยียนบีบหน้ารูปไข่กลมๆของเธอ “เชื่อฟังแบบนี้ เป็นเด็กดีจริงๆ”
เด็กหญิงยิ้มจนเห็นฟันขาวๆซี่เล็กๆของเธอ
“คุณชาย คุณผู้หญิงคะ ” ป้าหยูเดินเข้ามา “คุณท่านเรียกพวกคุณไปพบที่ห้องหนังสือค่ะ”
หลินซินเหยียนให้ลูกสาวของเธอไปเล่น แล้วหันกลับมามองจงจิ่งห้าว
เมื่อสบตากัน จงจิ่งห้าวจึงพูดเบาๆว่า “ฉันรู้แล้ว”
หลินซินเหยียนรู้สึกประหม่าเล็กน้อย จงฉีเฟิงเรียกพวกเขาแน่นอนว่าต้องมีเรื่องแน่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย
จงจิ่งห้าวลูบไหล่ของเธอ “มีผมอยู่”
ใจของเธอสงบลง
เดินไปถึงห้องหนังสือ จงจิ่งห้าวเงยหน้าขึ้นเคาะประตู ภายในห้องมีเสียงดังออกมาว่าเข้ามา เขาและหลินซินเหยียนจึงผลักประตูเข้าไป
ในห้องหนังสือนั้นมีเพียงจงฉีเฟิงแค่คนเดียว เขากำลังฝึกเขียนอักษร เมื่อเห็นพวกเขาเดินเข้ามา เขาก็วางพู่กันในมือลง แล้วเชิญให้พวกเขานั่ง
“เด็กสองคนนั้นก็ใกล้จะถึงวัยเข้าเรียนแล้ว พวกเธอตั้งใจไว้ว่าอย่างไร?” อันที่จริงจงฉีเฟิงอยากจะถาม ว่าทำไมไม่ให้เด็กสองคนนั้นไปเรียนอนุบาล คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมการเรียน แต่พอนึกขึ้นได้ว่าหลายปีมานี้หลินซินเหยียนดูแลเด็กสองคนนี้แค่คนเดียว คงจะมีหลายอย่างที่ไม่สะดวก ดังนั้นเขาจึงไม่ถามอะไรมาก
ผ่านปีนี้ไป พวกเขาก็จะครบ6ขวบแล้ว ครึ่งปีก็จะสามารถเข้าเรียนได้แล้ว เขาครุ่นคิดว่าสามารถเข้าเรียนอนุบาลได้แล้ว ให้พวกเขาได้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมการเรียน
“ผมได้วางแผนไว้แล้ว” จงจิ่งห้าวคิดไว้ตั้งนานแล้ว อีกอย่างได้จัดเตรียมไว้เมื่อปีก่อนเรียบร้อยแล้ว
หลินซินเหยียนมองเขา ทำไมไม่เคยได้ยินเขาเคยพูดถึงเลย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม