สายตามองไปที่เขาแทบจะพร้อมกัน
“เมื่อกี้บอดี้การ์ดพึ่งจะโทรมา พวกเขาเกิดเรื่องขึ้นแล้ว……ตอนนี้กำลังส่งไปที่โรงพยาบาล……”
เห็นเพียงแค่เงาดำผ่านไป มีลมพัดมาทำให้ผมเผ้ายุ่งเหยิง จงจิ่งห้าวได้หายไปต่อหน้าต่อตา
เสิ่นเผยซวนหลังจากตอบสนอง ก็หันหลังวิ่งออกไป
“พวกเราก็ไปกัน” จงฉีเฟิงก็รีบตามไป
จงจิ่งห้าวขับรถ เสิ่นเผยซวนนั่งข้างคนขับ มือของเขากำเข็มขัดนิรภัยแน่น กลางวันฟ้าสว่าง เป็นช่วงเร่งด่วนของการขับรถยนต์ เขากล้าขับในเมืองความเร็วหนึ่งร้อย
เขาคิดในใจ พวกเขาอาจจะไปไม่ถึงโรงพยาบาล ตัวเองก็ตายบนถนนก่อน?
“คุณขับรถเร็วขนาดนี้ อันตรายเกินไป…...”
เอี๊ยด---
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็เบรกรถอย่างกะทันหัน หน้าต่างรถที่กั้นอยู่ เขาราวกับว่าจะได้กลิ่นยางรถยนต์ไหม้
ใจของเสิ่นเผยซวนเต้นตุบๆ ไม่กล้าที่จะมองไปข้างหน้า รถอยู่ระหว่างกลางรถอีกสองคันเคลื่อนไปมา จนเกือบจะชนกับคันอื่นตั้งหลายครั้ง วิญญาณแทบจะออกจากร่าง
เวลาแค่ไม่กี่สิบนาทีบนถนนสายนี้ เสิ่นเผยซวนรู้สึกว่าตัวเองผ่านครึ่งชีวิตมาตั้งนานแล้ว ตื่นเต้นเกินไป ตื่นเต้นกว่าเกมส์ที่มันอันตรายเสียอีก
รถหยุดลงที่ประตูของโรงพยาบาล จงจิ่งห้าวเดินลงจากรถ มีรปภ.เดินเข้ามา “รถจอดตรงนี้ไม่ได้นะครับ”
เสิ่นเผยซวนเอากุญแจรถให้รปภ. แล้วรีบเดินตามไป
ตอนที่หลินซินเหยียนถูกช่วยชีวิตออกมานั้นเธอสลบไป เฉิงยู่ซิ่วอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน
เด็กสองคนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มีเพียงแค่หลินลุ่ยซีที่ตกใจกลัว ทั่วทั้งร่างสั่นเทา ซุกอยู่ที่อ้อมอกป้าหยู
เห็นคนที่เดินมาตรงระเบียงทางเดิน หลินลุ่ยซีที่ข่มความกลัวมาตลอด ร้องไห้เสียงดังออกมา จากที่ที่เงียบสนิทก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นมา
จงจิ่งห้าวอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด กดหัวเล็กๆของเธอเข้าไปในอกของเขา ปลอบเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เสี่ยวลุ่ยไม่ต้องกลัว พ่ออยู่นี่” ตอนที่พูดปลอบอยู่นั้นสายตาของเขาก็มองไปที่บอดี้การ์ด เสียงของเขาเฉียบคม “เธอล่ะอยู่ที่ไหน?”
“อยู่ที่ห้องพัก หมอกำลังตรวจอยู่ครับ ไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่……”
มือกุมหัวใจ ในที่สุดก็ล้มลงกับพื้น เขาโอบรับตัวหลินซีเฉินที่เงียบสงบเหมือนผู้ใหญ่ไว้ แล้วดึงเข้ามาในอ้อมกอด
โชคดีมาก ที่พวกเขาไม่ได้เป็นอะไร
เสียงของเขาทุ้มต่ำ “ป่ะ พวกเราไปหาหม่ามี๊”
หลินซีเฉินไม่ขยับ รอบดวงตาแดงก่ำ “คุณย่ายังอยู่ข้างใน ผมจะรอเธอ”
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว เฉิงยู่ซิ่วก็อยู่?
เขามองไปที่บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างกำแพงราวกับถามคำถาม เกิดอะไรขึ้น?
หนึ่งในบอดี้การ์ดก้มหัวลง “วันนี้คุณนายกับคุณผู้หญิงพาเด็กสองคนออกไป พวกเราขับรถไปสามคัน พวกเธอนั่งที่รถคันกลาง โดนที่มีพวกเราสี่คนประกบหน้าหลัง ตอนที่ผ่านถนนเฟยเซี๋ยนั้น เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ฝั่งตรงข้ามจำนวนคนเยอะมาก และดูเหมือนจะวางแผนมาอย่างดีสกัดพวกเราไว้ พวกมันฉวยโอกาสจะพาคุณนายออกไป พวกเราเข้าช่วยไว้ทันเวลา แต่ไม่ทันสังเกตเห็นว่าคุณผู้หญิงก็ถูกพวกมันบังคับเหมือนกัน เพื่อความปลอดภัยของคุณผู้หญิง คุณนายยินยอมที่จะไปกับพวกมัน แต่ว่าพวกมันกลับไม่ได้ปล่อยคุณผู้หญิง……พวกมันขับรถออกจากตรงนั้นไป ผมกับอะเจี๋ยขับตามไป รถของพวกมันเกิดอุบัติเหตุ ตอนที่พวกเรารีบเข้าไปช่วยคนไว้นั้น คุณผู้หญิงสลบไป ส่วนคุณนาย…… ”
บอดี้การ์ดคนนั้นยิ่งก้มหน้าลงไปอีก ตอนที่เข้าไปช่วยเฉิงยู่ซิ่วออกมาจากรถนั้น เกือบทั้งร่างของเธอมีแต่เลือด ทั้งแผ่นหลังเต็มไปด้วยเลือดและเนื้อคลุมเครือ สภาพของเธอหายใจรวยริน……
จงจิ่งห้าวหลี่ตามองไปที่เขา ใบหน้าของเขาเปลี่ยนจากผ่อนคลายกลายเป็นแข็งดั่งเหล็ก แล้วก็เกิดความตึงเครียดผิดปกติขึ้น เหมือนเป็นอารมณ์โกรธที่รุนแรงมาก กดดันจนเขาหายใจไม่ออก ประกายไฟแผ่ออกมาจากดวงตาของเขา พุ่งเข้าใส่บอดี้การ์ดคนนั้น “พูด!”
การ์ดคนนั้นตัวสั่น ร่างกายสั่นสะท้านโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
ขณะนั้นเอง ไฟด้านบนประตูห้องผ่าตัดที่เดิมทีเป็นไฟสีเขียวก็เปลี่ยนเป็นไฟสีแดง ประตูบานเลื่อนถูกเปิดออก แพทย์ที่สวมเสื้อสีฟ้าเดินออกมา เขาสวมหน้ากากอนามัย โค้งคำนับสมาชิกครอบครัวที่อยู่ตรงหน้า “เสียใจด้วยจริงๆ พวกเราทำเต็มที่แล้ว ตอนที่ผู้ป่วยถูกส่งมาที่โรงพยาบาลเธอก็ไม่หายใจแล้ว พวกเราช่วยกันปั๊มหัวใจขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถปั๊มกลับมาได้ ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บหนักมาก---เสียใจด้วยครับ ”
จงฉีเฟิงที่พึ่งจะมาถึงประตูห้องผ่าตัด พอฟังที่หมอพูดจบ ร่างกายก็สั่นสะท้าน เฉิงยู่เวินที่อยู่ข้างๆพยุงเขาไว้ เขาถึงไม่ล้มลงไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม