หลินซินเหยียนหยุดแล้วก็หันกลับมา
หลี่จิ้งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง “ ไม่มีหนทางให้กลับไปได้แล้วจริงๆ เหรอ? ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของคุณกับเสี่ยวจี้ก็ดีจะตาย จะไม่นึกถึงความรู้สึกเก่าๆ แล้วก็ไม่คุยกันอีกแล้วงั้นเหรอ”?
หลินซินเหยียนเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้
“ฉันไปก่อนนะคะ” เธอหันหลังไปอีกครั้ง
เรื่องนี้พวกนี้ให้เวลาเป็นตัวจัดการดีกว่า ถ้าเกิดว่าเวลาสามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเจือจางลงได้ เธอหวังว่าทุกสิ่งที่ไม่แฮปปี้จะจางหายไปตามกระแสของเวลา
หลี่จิ้งรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก สามีกับลูกชายของเธอก็ต่างแคร์เธอคนนี้ แต่ว่าเธอกลับเย็นชาขนาดนี้ ต่อให้นับว่าผิด แต่ว่าเหวินชิงก็ไปมอบตัวแล้ว ไม่สามารถทำให้เธอใจอ่อนได้สักนิดเลยเหรอ?
“ทุกครั้งที่เสี่ยวจี้โทรหาฉัน ก็จะถามเกี่ยวกับเรื่องของคุณ ฉันไม่แน่ใจสถานการณ์ของคุณในตอนนี้ ก็เลยโกหกไป ว่าคุณสบายดี บอกให้เขาไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณโดยตลอด เพราะว่าเขาแคร์คุณที่เป็นญาติของเขามาก ฉันไปเยี่ยมเหวินชิง เขาก็จะถามว่าคุณกลับมารึยัง ดีกับจงจิ่งห้าวรึยัง ทุกคนต่างก็เป็นห่วงคุณ แต่ว่าคุณ กลับไม่มีร่องรอยความรักความห่วงใยเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันล่ะผิดหวังจริงๆ ”
ท้ายสุดหลินซินเหยียนก็ยังคงไม่ตอบอะไร ได้แต่ก้าวเดินออกไป
เธอได้ยินคำพูดของหลี่จิ้งทั้งหมด หัวใจของเธอก็ไม่ได้ทำมาจากก้อนหิน เธอเองก็เป็นคนที่มีความรู้สึก มีความคิดเหมือนกัน จะไม่สะเทือนใจได้ยังไงกัน
แต่ว่า เธอไม่รู้ว่าจะเข้ากับคนเหล่านี้ได้อย่างไร มีบางอย่างในใจเธอที่ไม่สามารถปล่อยมือได้
ตอนนี้เธอถ้าจะให้เธอให้คำตอบอย่างชัดเจน เธอไม่สามารถทำได้ ต่อให้พูดออกไป ก็เป็นแค่การฝืนใจ ไม่ใช่การให้อภัยจากใจจริงหรือว่าการยอมรับอะไรพวกนั้น
คนขับรออยู่นอกร้านกาแฟ กลัวว่าหลินซินเหยียนจะหาตัวเองไม่เจอก็เลยไม่กล้าไปไกล
พอเห็นหลินซินเหยียนออกมาจากร้านกาแฟ เขาก็เดินเข้ามาในทันที พอเห็นว่าสีหน้าของหลินซินเหยียนไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ก็ถามว่า “วันนี้เรากลับกันเลยดีไหมครับ? ”
“ไปชั้นล่างก่อน”
ถึงแม้ว่าจะถูกหลี่จิ้งรบกวนอารมณ์ แต่ว่าเรื่องที่ต้องทำเธอเองก็ไม่ได้ลืม
คนขับตอบรับแล้วก็เดินออกมาพร้อมกับเธอ
คบกับฉินยามาตั้งนาน เธอใส่เสื้อผ้าไซซ์อะไร ชอบสไตล์เสื้อผ้าแบบไหนหลินซินเหยียนก็ย่อมรู้ดี เธอซื้อเสื้อผ้าหลายชุดจากสองสามร้าน ที่เหมาะสำหรับการใส่ในหน้าร้อน
คนขับถือถุงตามหลินซินเหยียน เธอยังอยากซื้อชุดชั้นในให้ฉินยา คนขับรถตามไปคงจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เธอก็เลยให้เขารออยู่ด้านนอก
เธอไปที่ร้านชุดชั้นในคนเดียว พอคิดว่าฉินยายังไม่มีชุดนอนก็เข้าไปที่ร้านชุดนอน ด้านข้างมีแขกคนอื่นก็กำลังดูชุดนอนอยู่เหมือนกัน
“ฉุนฉุน ลูกว่าชุดนี้เป็นยังไงบ้าง? ” ผู้หญิงคนนั้นหยิบชุดนอนที่เซ็กซี่ให้โจวฉุนฉุนดู
โจวฉุนฉุนหน้าแดงขึ้นมาทันที “แม่ อันนี้มันโป๊เกินไป จะใส่ยังไง”
พอได้ยินเสียงนี้หลินซินเหยียนก็มองไป ตอนที่เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น ก็แน่ใจตัวตนของเธอ ตอนนั้นได้ยินว่าเสียงคุ้น ถึงได้มองไป แล้วก็เป็นเจ้าสาวของไป๋ยิ่นหนิง โจวฉุนฉุนจริงๆ ด้วย
เธออยู่ที่เมืองBได้ยังไงกัน?
หรือว่าเธอคือคนเมืองBเหรอ?
เหมือนกับว่าก็ไม่เคยได้ยินว่าไป๋ยิ่นหนิงบอกว่าเธอเป็นคนไป๋เฉิงนะ พอคิดไปคิดมาก็ใช่ ไป๋เฉิงเล็กขนาดนั้น ตระกูลไป๋เป็นผู้นำในสถานที่นั้น ตามที่ไป๋ยิ่นหนิงบอกว่าตระกูลโจวสามารถช่วยเรื่องธุรกิจของเขาได้ แสดงว่าตระกูลโจวก็ต้องมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่ ไม่ยังงั้นไป๋ยิ่นหนิงก็คงไม่เลือกตระกูลโจวมาเป็นญาติหรอก
“โป๊อะไรกัน? ผู้ชายชอบแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ” คุณผู้หญิงลากลูกสาวตัวเองไปสอบถาม “บอกแม่มาตามตรงเลยนะ พวกลูกนอนด้วยกันรึยัง? ”
จิตใจของลูกสาวเธอยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ เธอกลัวว่าไป๋ยิ่นหนิงจะแต่งงานกับลูกสาวของเธอเพียงแค่เพราะว่าภูมิหลังทางครอบครัว
ไป๋ยิ่นหนิงก็แค่ไม่สามารถเดินได้ แต่ว่าเขายังมีความสามารถด้านอื่นๆ ทั้งหมด คนที่สุขภาพแข็งแรงคนอื่นยังดูไม่โดดเด่นเท่าเขาเลย
เธอรู้ดีว่า ถ้าเกิดว่าลูกสาวของเธอไม่ได้มีภูมิหลังทางครอบครัวที่ดีขนาดนั้น ไป๋ยิ่นหนิงก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องแต่งงานกับลูกสาวเธอเลย
โจวฉุนฉุนหน้าแดงขึ้นมากกว่าเดิม “แม่พูดอะไรเนี่ย พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ก็ต้องนอนด้วยกันอยู่แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม