อ าเภอสู้ยอัน จังหวัดเหยียนโจว
ดวงตะวันดุจตะขอเกี่ยว ห่านป่าบินกลับรังทางทิศใต้
คนผู้หนึ่งสวมชุดกว้าตัวยาวสีเขียวเหยียบแสงจันทร ์ท่องราตรี เดินไปบนสะพานหินโค้งแห่งหนึ่ง ข้างกายมีชายหนุ่มที่ฝี เท้าหนัก แน่นติดตามมาด้วย ก็คือเฉินผิงอันกับจ้าวซู่เซี่ยผู้เป็ นลูกศิษย์
จ้าวซู่เซี่ยกระทืบเท้าเบาๆ สะพานหินแห่งนี้นอกจากจะแข็งแรง มั่นคงแล้วก็ไม่มีความผิดปกติอย่างอื่นอีก เขาเอ่ยถามว่า “อาจารย์ สะพานนี้มีชื่อยิ่งใหญ่ขนาดนี้ มีความเป็ นมาหรือไม่?”
ที่แท้สะพานหินโค้งที่ทั้งสองคนเดินย่าอยู่ใต้ฝ่ าเท้าก็มีชื่อว่า สะพานหมื่นปี
ลาธารไหลริกๆ ออกมาจากภูเขา หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อว่าหลิ่งเจี่ยว (ตีนสันเขา) ปัญญาชนเรียกว่าหยวนโถว (ต้นกาเนิดน้า) ตั้งชื่อได้ สมกับความจริงอย่างยิ่ง
เฉินผิงอันแทะเมล็ดแตง ส่ายหน้ายิ้มเอ่ย “เคยตรวจสอบแล้ว แต่ น่าเสียดายที่ในอักขรานุกรมของอาเภอไม่มีบันทึกที่แน่ชัดอยู่ เกิน ครึ่งคงจะเป็ นปราชญ์ผู้ล่วงลับในท้องถิ่นที่ออกเงินสร ้างขึ้นมา ส่วน ทาไมถึงตั้งชื่อว่าสะพานหมื่นปี คนแก่ของที่นี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่มี
หลักฐานให้สืบเสาะ ตามตัวอักษรที่ระบุไว้บนป้ ายศิลาหน้าหลุมศพ ของหมู่บ้าน เป็ นตระกูลปัญญาชนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของแคว้น โบราณซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือสุดของแจกันสมบัติทวีปที่เป็ นผู้สร ้าง คาด ว่าน่าจะเมื่อเจ็ดแปดร ้อยปีก่อนก็ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่แล้ว ลาธารอู๋ซีสาย นี้คือหนึ่งในต้นกาเนิดของลาคลองซี่เหมย อันที่จริงลาคลองหลงซวี ของบ้านเกิดข้า ชื่อเรียกเก่าแก่ก็คืออู๋ซี เรื่องของบุพเพวาสนา มหัศจรรย์เกินกว่าจะเอื้อนเอ่ยจริงๆ”
อาเภอสัยอันตั้งอยู่ในจุดตัดของเหยียนโจวกับอวิ้นโจว ส่วนลา คลองขี่เหมยนั้นก็คือลาคลองใหญ่อันดับหนึ่งของอวิ้นโจวซึ่งมีต้น ก าเนิดมาจากจังหวัดเหยียนโจว เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยได้รับ การแต่งตั้งอย่างเป็ นทางการจากทางราชสานัก สองข้างฝั่งของล า คลองซี่เหมยนับแต่โบราณมาก็ไม่เคยมีศาลเถื่อนสักแห่ง
จ้าวซู่เซี่ยรวมเสียงให้เป็ นเส้นพูดคุยอย่างลับๆ ว่า “อาจารย์ ได้ ยินมาว่าเมื่อหลายปีก่อนทางราชส านักต้าหลีหาทางเข้าซากปรักวัง มังกรของสู่โบราณเจอในช่วงตอนหนึ่งของล าธารอู๋ซีหรือ?”
เฉินผิงอันพยักหน้า เดินลงจากสะพานโค้ง เดินเลียบเส้นทางที่ปู ด้วยแผ่นหินของล าธารอู๋ซีไปยังตอนล่างของล าธาร หันหน้ามอง ย้อนกลับไป ด้านใต้ของสะพานว่างเปล่าไร ้สิ่ง ใด “คือวังมังกรบนบก ที่ขนาดไม่ใหญ่นัก ระดับขั้นไม่สูง แต่ในประวัติศาสตร ์ไม่เคยมีผู้ฝึก ลมปราณเหยียบย่างเข้าไปด้านใน ดังนั้นสมบัติที่อยู่ในนั้นจึงไม่เคย ผ่านมือใครมาก่อน ตามการค านวณคร่าวๆ ของกรมคลัง สมบัติพวก
นั้นเทียบเท่ากับรายได้จากภาษีของจังหวัดใหญ่ๆ ที่ร่ารวยหลายแห่ง ของต้าหลีเลยทีเดียว จ านวนมากน่าดูชม ประเด็นส าคัญคือเป็ นวัง มังกรเก่าแห่งหนึ่ง หากทางฝั่งของราชสานักต้าหลีจัดการได้อย่าง เหมาะสม นอกจากสมบัติวิเศษแห่งฟ้ าดิน สมุนไพรพืชเซียนมากมาย และการขุดหาแร่ธาตุอย่างเป็ นระบบระเบียบซึ่งจะทาให้มีเงินเทพ เซียนก้อนใหญ่เป็ นรายได้อย่างต่อเนื่องแล้ว นอกจากนี้ลาพังแค่ผู้ฝึก ตนที่ฝึ กวิชาน้าและภูตเผ่าพันธุ์น้าทั้งหลายที่มาเปิดพื้นที่ประกอบ พิธีกรรมอยู่ที่นี่ค่าเช่าที่จะส่งมอบให้กับกรมคลังทุกปีก็มิอาจดูแคลน สามารถบรรยายว่าเป็ นอ่างเก็บสมบัติใบหนึ่งได้เลย”
ทุกวันนี้ลาคลองซี่เหมยมีเทพวารีองค์แรกในประวัติศาสตร ์แล้ว รองเจ้ากรมพิธีการต้าหลีและเจ้ากรมพิธีการแคว้นหวงถึงต่างก็ ร่วมกันเป็ นประธานในการจัดงานพิธีแต่งตั้งองค์เทพ
เกาเนี่ยงเทพวารีองค์แรกของลาคลองซี่เหมยเคยเป็ นเทพวารี ของลาคลองเถี่ยเชวี่ยนมาก่อน ศาลใหม่เอี่ยมแห่งหนึ่งถูกสร ้างขึ้นมา ไม่ถึงหนึ่งเดือนงานก่อสร ้างก็เสร็จเรียบร ้อยกรอบป้ ายเขียนด้วย ลายมือของไท่ซื่อผู้เฒ่าท่านหนึ่งของแคว้นหวงถิง กลอนคู่สิบกว่าบท ก็มาจากลายมือของผู้รอบรู ้ในวงการวรรณกรรมแคว้นหวงถิง
เดินเลียบลาธารอู๋ซีเส้นนี้ไปมีหมู่บ้านสามแห่งตั้งอยู่ริมน้า แต่ละ หมู่บ้านอยู่ห่างกันไม่ถึงสองสามลี้ ทุกๆ หมู่บ้านล้วนมีหนึ่งแซ่ บางครั้งหากมีการแต่งเขยเข้าบ้านก็จะไม่ได้ถูกรับเข้าท าเนียบล าดับ วงศ์สกุลของทางหมู่บ้าน
หมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ช่วงตอนล่างสุดของลาธาร มีคนอยู่ อาศัยสองร ้อยครัวเรือนหมู่บ้านนี้ชื่อว่าหมู่บ้านอู๋ซี ถือเป็ นหมู่บ้าน ใหญ่ที่หาได้ยากในอาเภอสู้ยอันแล้ว ในประวัติศาสตร ์เคยมีจวี่เหริน คนหนึ่ง แต่ว่าเป็ นตาแหน่งที่ได้รับจากราชวงศ์ก่อน ทุกวันนี้เป็ น ราชวงศ์ของต้าหลี อย่าว่าแต่นายท่านจิ้นซื่อที่เป็ นดาวเหวินชางลง มาจุติเลย คนที่สอบติดเป็ นจวี่เหรินก็มากพอจะสร ้างเกียรติยศให้กับ วงศ์ตระกูลได้มากแล้ว นายอ าเภอยังจะมาร่วมแสดงความยินดีถึง บ้านด้วย
ผลคือปี นี้หมู่บ้านที่อยู่ด้านบนสุดของลาธารอู๋ซีมีโรงเรียน ส่วนตัวแห่งหนึ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่ เปิดสอนเด็กนักเรียนประถม วันที่ เปิ ดโรงเรียนได้จุดประทัดเสียงดังสนั่นฟ้ า หมู่บ้านสองแห่งที่อยู่ ด้านล่างก็ยังได้ยิน นี่เห็นได้ชัดว่าต้องการจัดเวทีประลองกันแล้ว อาจารย์สอนหนังสือเป็ นคนต่างถิ่น แซ่เฉินนามจี้ ไม่รู ้ว่าโผล่มาจาก ไหน
เฉินจี้ เพ้ย ฟังจากชื่อนี้ก็รู ้แล้วว่าเป็ นคนบ้านนอก ต้องไม่ใช่ บัณฑิตที่มาจากตระกูลปัญญาชนผู้มีความรู ้แน่นอน
จ้าวซู่เซี่ยยิ้มถาม “อาจารย์เชี่ยวชาญการมองลมปราณ ตรวจสอบสภาพพื้นดิน ท่านช่วยบอกถึงฮวงจุ้ยของสามหมู่บ้านนี้ หน่อยได้ไหม?”
เฉินผิงอันแทะเมล็ดแตงเสร็จก็ปัดมือ อดไม่ไหวยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ใช่ ว่ามาตั้งแผงหลอกเงินคนเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ เสียหน่อย ไม่ถือว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!