เซวียหรูอี้หัวเราะหยันเอ่ยว่า “ข้ากับแม่ทัพผู้สวมตรวนของศาล เทพอภิบาลเมืองประจ าอ าเภอเป็ นสหายรักกัน เจ้ากลัวหรือไม่?”
นักพรตแอบกลืนน้าลาย ลุกขึ้นยืน กุมหมัดคารวะไกลๆ ไปยัง ศาลเทพอภิบาลเมืองประจ าอ าเภอ เขย่าหมัดแรงๆ เอ่ยเสียงทุ้มหนัก ว่า “ผินเต้าตั้งใจฝึกตน บนร่างมีปราณแห่งความเที่ยงตรง ไม่ข้อง เกี่ยวกับเรื่องชั่วร ้าย ไม่เคยกลัวที่จะเดินทางยามค่าคืน แล้วนับประสา อะไรกับที่แม่ทัพผู้สวมตรวนก็มีหน้าที่ลงทัณฑ์คนเลวกาจัดสิ่งชั่วร ้าย อยู่แล้ว ยึดหลักความเป็ นธรรมปฏิบัติตามกฎระเบียบเป็ นที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ทัพผู้สวมตรวนประจาอาเภอของพวกเราที่ยิ่ง เป็ นขุนนางดีที่มีชื่อเสียงพอๆ กับท่านเจ็ด ท่านแปด! หากผินเต้ามี สิทธิ์มีเสียงอยู่ในศาลเทพอภิบาลเมืองประจาเมืองหลวงก็คงเสนอแนะ ใต้เท้าทั้งสามท่านให้ได้เลื่อนขั้นมารับหน้าที่สาคัญไปนานแล้ว”
เซวียหรูอี้นวดคลึงหว่างคิ้ว เจ้าประจบสอพลอเช่นนี้ พวกเขาก็ ไม่มีทางได้ยินอยู่ดีนี่นา
สถานที่แห่งนี้ไม่เหมือนกับที่อื่นๆ นายท่านเทพอภิบาลเมือง ประจ าอ าเภอไม่คิดจะมาควบคุม
“เฉินเจี้ยนเสียน เจ้าไม่มีสตรีที่ชอบบ้างเลยหรือ?”
หาไม่แล้วจะอยู่ไม่ติดบ้านแบบนี้ได้หรือ
“มีสิ ท าไมจะไม่มีล่ะ” “มีจริงๆ หรือนี่?”
เซวียหรูอี้รู ้ว่าอีกฝ่ ายคือผู้ฝึกลมปราณที่จริงแท้แน่นอน แม้ว่า ขอบเขตจะไม่มีค่าพอให้พูดถึง ขอบเขตสอง? อย่างมากสุดก็คงเป็ น แค่ผู้ฝึกลมปราณขอบเขตสามกระมัง? แต่ถึงอย่างไรก็เป็ นคนที่เท้า
ข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนภูเขาแล้ว
นางเอ่ยสัพยอกว่า “แม่นางบ้านใดกัน อายุเท่าไร อายุเท่ากับเจ้า หรือเป็ นเด็กสาว? อีกฝ่ ายคงถูกผีบดบังจิตใจสินะถึงได้มาชอบเจ้า? คนเราเมื่อถึงวัยกลางคนก็ไม่ต้องคิดจะทาเรื่องใดแล้ว เจ้าเองก็อายุ ตั้งปูนนี้แล้ว คนอายุสี่สิบกว่ากลับไม่ประสบความสาเร็จสักอย่าง อาศัยหนังสือรับรองการออกบวชส่วนตัวของลัทธิเต๋าเตร็ดเตร่ไปทั่ว หาโอกาสพานางมาให้ข้าพบหน้าบ้างสิ หึ ข้าจะต้องแยกพวกเจ้า ออกจากกันให้จงได้ หลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าไปทาร ้ายคนเขา”
อันที่จริงนักพรตที่ตั้งแผงดูดวงอยู่ทุกวันผู้นี้หาเงินได้มาไม่น้อย เทียบกับครอบครัวตระกูลเล็กๆ ทั่วไปในเมืองหลวงแล้วก็มีแต่จะ เหนือกว่า
เพียงแต่ว่าในฐานะผู้ฝึกลมปราณคนหนึ่งกลับไม่มากพอ ถูกลม พัดแดดส่องอยู่ทุกวันเช่นนี้ เวลาผ่านไปหลายปีเพิ่งจะสะสมเงินเกล็ด หิมะได้แค่เหรียญเดียว?
เฉินผิงอันหัวเราะ “เจ้าแยกพวกเราจากกันไม่ได้หรอก”
เซวียหรูอี้หันมาเอ่ยสัพยอก “สตรีที่ชอบเจ้าคงหน้าตาไม่ค่อยดี กระมัง?”
บุรุษวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนขั้นบันไดเพียงยิ้มรับ แต่ใช ้สองแขน กอดอก เงยหน้ามองดวงจันทร์ด้วยสีหน้าอ่อนโยน
เซวียหรูอี้เบ้ปาก
โอ้ย เห็นแล้วเสียวฟัน
บางทีบุรุษที่อยู่ข้างหลังอาจจะไม่มีอนาคต บางทีสตรีที่เขาคิดถึง ค านึงหาอาจจะหน้าตาธรรมดาจริงๆ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็รักกัน จริงๆ
ปากของบุรุษ ผีที่หลอกคน คาลวงหวานหู
แต่สายตามิอาจหลอกกันได้
นักพรตหยิบน้าเต้าบรรจุสุราลีชาดใบหนึ่งออกมา เป็ นของ เก่าแก่แล้ว ผิวภายนอกเกลี้ยงแวววาว
เซวียหรูอี้ได้กลิ่นหอมของสุราก็อดไม่ไหวถามว่า “สุราจากบ้าน ใด ท าไมหอมขนาดนี้?”
นักพรตยิ้มกล่าว “สุราที่บ้านข้าหมักเอง ต้องอร่อยแน่อยู่แล้ว เป็ นที่ยอมรับว่าเป็ นของดีราคาถูก ก็เลยต้องดื่มประหยัดหน่อย”
เซวียหรูอี้ลุกขึ้นยืนอยู่บนชิงช ้า
จาได้ว่าตอนที่นักพรตวัยกลางคนเพิ่งจะย้ายมาอยู่ที่นี่ ชิงช ้านี้ ไกวเองได้โดยที่ไม่ต้องมีคนแกว่ง แล้วยังมีเสียงหัวเราะคิกคักดุจ กระดิ่งเงินดังลอยมา
ทาเอานักพรตที่เดินผ่านตกใจจนรีบหยิบยันต์ปีกหนึ่งออกมา จากชายแขนเสื้อ หยิบตะบันไฟออกมาจุดไฟบนยันต์แล้วก็ชูขึ้นสูง มือสั่นระริก เดินท่าเหยียบพายุย่างดารา วุ่นวายอยู่พักหนึ่ง ด้านหนึ่ง สะบัดเอามังกรเพลิงตัวหนึ่งออกมา ด้านหนึ่งก็วิ่งวนอุตลุดไปด้วย ปากยังท่องคาถาที่ไม่รู ้ว่าสืบทอดมาจากลัทธิเต๋สายไหน ปิดประตูลง ดังปังด้วยความว่องไวสุดขีด แล้วก็แปะยันต์กระดาษเหลืองที่ไม่มี ราคาค่างวดลงบนประตู หน้าต่างและผนังจนเต็มไปหมด
นักพรตมองแผ่นหลังของคนที่ยืนอยู่บนชิงช ้าแล้วถอนหายใจ ยกน้าเต้าบรรจุสุราในมือขึ้นดื่มเหล้าเงียบๆ
ภาพฉากที่คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน เป็ นชิงช ้าในกาแพง เส้นทางนอกก าแพงเหมือนกัน
เซวียหรูอี้พูดล้อเล่นว่า “ใช่แล้ว สรุปว่าเจ้ามาราลึกความหลังกับ ใครกันแน่? มาอยู่เมืองหลวงนานขนาดนี้แล้วยังไม่ได้เจอหน้ากันอีก หรือ? เจอหน้าได้ยากขนาดนี้คงไม่ใช่ฮ่องเต้หรอกกระมัง?”
ดูเหมือนนักพรตจะไม่ยินดีพูดถึงเรื่องนี้จึงเปลี่ยนเรื่องคุย “ผ่าน ไปอีกแค่ไม่กี่วันก็จะเป็ นวันวสันตวิษุวัต (เป็ นวันที่เวลาในกลางวันและ
กลางคืนเท่ากัน ตรงกับวันที่ ๒๐ หรือ ๒๑ เดือนมีนาคม) แล้ว แม่ นางเซวียต้องระวังไว้ให้มาก”
เมื่อถึงวันวสันตวิษุวัต ช่วงเวลานี้หยินและหยางจะมีอย่างละครึ่ง พอดี กลางวันกลางคืนเท่าเทียมและอากาศร ้อนหนาวก็เท่ากัน หยิน หยางมีเส้นแบ่งบางๆ กระตุ้นให้เกิดสายฟ้ าฟาดผ่า
สาหรับผีบนโลกแล้ว นับตั้งแต่หลังช่วงแมลงตื่นจากการจาศีล จนถึงก่อนวันชิงหมิงถือว่าเป็ นช่วงเวลาที่ค่อนข้างทุกข์ทรมาน ช่วงหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังช่วงวสันตวิษุวัตที่ปราณหยางจะ ค่อยๆ โชติช่วงจนโจมตีหยินได้ และสายฟ้ าก็จะบังเกิด
เห็นได้ชัดว่าเซวียหรูอี้ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แม้นางจะเป็ นผี แต่กลับ เป็ นวัตถุหยินที่ฝึ กตนประสบความส าเร็จจนแทบจะใกล้เคียงกับ วิญญาณวีรบุรุษแล้ว แน่นอนว่าไม่หวาดเกรงการผลัดเปลี่ยนของ ช่วงอากาศและสายฟ้ าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติพวกนี้
นักพรตวัยกลางคนก็พูดถึงไปอย่างนั้นเอง เขาถูมือเอ่ยว่า “วันวสันตวิษุวัต ข้าจะแสดงฝีมือท าอาหารฤดูใบไม้ผลิให้พวกเจ้าสัก โต๊ะ วันวสันตวิษุวัตกินผักฤดูใบผลิอย่างหน่อไม้ ปี้เฮา ต้นอ่อนผัก ชุน….ผินเต้าขึ้นเหนือล่องใต้ เดินทางผ่านสถานที่ต่างๆ มามากมาย หลังวันวสันตวิษุวัต บริเวณใกล้เคียงของแคว้นไฉ่อีมีแม่น้าเถาฮวา ในแม่น้ามีปลากุ้ย ปลาจี้ไม่ว่าจะเอามานึ่งน้าใสหรือตุ๋นน้าแดงก็ล้วน อร่อย ขยับลงใต้ไปอีก สถานที่ที่อยู่ติดกับทะเลในช่วงเวลานี้หากสั่ง ผักกุ้ยช่ายผัดหอยทรายเหลืองสักจาน จุ๊ๆ”
เซวียหรูอี้เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้ารู ้จักแต่กินเท่านั้นหรือ?”
นักพรตยิ้มบางๆ “มนุษย์เราเรื่องกินเป็ นเรื่องใหญ่”
เซวียหรูอี้สะอึกอึ้ง กระโดดลงมาจากชิงช ้า สอดนิ้วทั้งสิบเข้า ด้วยกัน ยึดแขนบิดขี้เกียจ
นักพรตเงยหน้ามองฟ้ า เอ่ยเสียงเบาว่า “หลังวันวสันตวิษุวัตมีฝน ตกก็คือปีที่ผลเก็บเกี่ยวดีงาม แต่ในอาณาเขตของเมืองหลวงปีนี้เกรง ว่าคงเป็ นอากาศที่ฟ้ าใสไร ้ฝนแล้ว”
ถอนสายตากลับมา นักพรตยิ้มเอ่ยว่า “ผินเต้าลองนับนิ้ว ค านวณดู วันชิงหมิง บางทีอาจจะมีฟ้ าร ้อง อีกทั้งความเคลื่อนไหวยัง ค่อนข้างรุนแรง ถึงเวลานั้นแม่นางเซวียก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก”
เซวียหรูอี้เอ่ยเย้ยหยัน “ที่แท้นอกจากจะดูดวง นักพรตเฉินยังดู อากาศได้ด้วย? คนจริงไม่เปิดเผยตัวตนสินะ”
นักพรตกล่าว “ความรู ้หลากหลาย ยากง่ายตื้นลึก ก็ล้วนเป็ นแค่ การ “สั่งสมความคิดไว้ก่อนจะเข้าใจโดยพลัน” เท่านั้น จะว่ายากก็ไม่ ยาก จะว่าไม่ยากก็ยาก”
เซวียหรูอี้สะบัดข้อมือ คิดว่าจะกลับแล้ว
นักพรตชี้ไปยังห้องบุปผาด้านข้างห้องโถงหลักที่อยู่ด้านหลัง “แม่นางเซวีย หลายวันนี้ผินเต้าอาจต้องขอยืมใช ้สถานที่แห่งนี้สัก หน่อย เลยจะบอกกับแม่นางเซวียเอาไว้ก่อน”
เซวียหรูอี้พยักหน้า ถามอย่างสงสัย “จะทาอะไร? เตรียมจะจัด งานเลี้ยงเชิญสหายมา? กังวลว่าข้าจะวิ่งมาก่อกวนหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!