กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 1014

เฉินผิงอันนั่งกลับลงไปอีกครั้ง ฟังลู่เฉินคุยเล่นอยู่กับเจิ้งต้าเฟิง

“หากพี่ใหญ่เจิ้งอยู่ในลัทธิขงจื๊อ ตบะก็ไม่เป็ นรองเจ้าลัทธิต่งและ หันสองคนเลย”

“คาพูดนี้เจ้าไปโหวกเหวกที่หน้าประตูศาลบุ๋นของแผ่นดินกลาง ดูสิ แบบนั้นถึงจะดูว่ามีความจริงใจ เจ้ากล้าหรือไม่?”

“ลัทธิขงจื๊อมีกฎระเบียบมากมาย พี่ใหญ่ต้าเฟิ ง ยินดีไปรับ ตาแหน่งที่เหนือกว่าอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งในใต้หล้ามืดสลัวหรือไม่? ผินเต้ายินดีช่วยแนะน าให้เจ้าอย่างสุดก าลัง ไม่ว่าจะในหรือนอกป๋ า ยอวี้จิงก็เลือกได้ตามสบายเลย”

“อู๋โจวผู้นั้นเป็ นสตรีที่นิสัยดุร ้ายเกินไป อายุมากไปสักหน่อย ไม่ แน่เสมอไปว่าข้าจะก าราบนางได้อยู่ เจาเกอก็มีคนรักนานแล้ว หาก จ าไม่ผิดดูเหมือนว่าจะจัดงานมงคลไปแล้วด้วย ภูเขาเหลี่ยงจิงกับ สานักต้าเฉาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ ์กัน จะให้ข้าเป็ นมือที่สามไป แทรกแซงพวกเขาก็ไม่เหมาะเลยจริงๆ หลีกเลี่ยงไม่ให้สวีเจวี่ยนต้อง เจ็บปวดกับความรัก นับแต่นี้ไปห่อเหี่ยวแล้วลุกไม่ขึ้นอีก หรือจะเป็ น ราชวงศ์อวี๋ฝูของพี่หญิงจูเสวียน?! หรือจะเป็ นราชวงศ์ชิงเสินของ น้องป๋ ายโอ่วดีล่ะ?”

คุยกันไปคุยกันมา ทั้งสองฝ่ ายก็มานั่งอยู่บนม้านั่งตัวเดียวกัน เริ่มเอนหัวเข้าหากันแล้วซุบซิบกันเสียงเบา คิดดูแล้วปี นั้น ความสัมพันธ ์ของทั้งสองฝ่ายน่าจะไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

เฉินผิงอันกาลังจะลุกขึ้นยืน ลู่เฉินก็รีบหยิบกระปุกดีบุกใบหนึ่งที่ แกะสลักตัวอักษรไว้เต็มแน่น ลงนามไว้หลากหลายลานตา เปลี่ยนใบ ชาให้กับทั้งเจ้าขุนเขาและเจิ้งต้าเฟิง จากนั้นเทน้าร ้อนลงไป เอ่ยว่า “ลองชิมชาเมฆาของภูเขาควางหลูดู ผินเต้าต้องสิ้นเปลืองกาลัง มากมายกว่าจะขโมยมาได้น้อยนิดแค่นี้ ต้องจ่ายราคาไปไม่น้อย ทุก วันนี้ที่หน้าประตูภูเขายังตั้งป้ ายศิลาไว้ให้ผินเต้าโดยเฉพาะ ทุกคน ต่างก็เป็ นผู้ฝึกตน ไยต้องอารมณ์ร ้อนฉุนเฉียวกันถึงขนาดนี้ แค่ชา ไม่กี่จินเท่านั้นเอง เฉินผิงอัน ต่อจากนี้เจ้าคิดจะทาอย่างไรต่อ หาก ประจวบเหมาะพอดีพวกเราก็สามารถเดินทางไปด้วยกันระยะทางหนึ่ง ได้ มีเพื่อนร่วมทางไปด้วยก็จะได้ไม่น่าเบื่อเกินไป”

เฉินผิงอันเปลี่ยนเรื่องพูดด้วยการถามว่า “จางเฟิงไห่ของนครอวี้ ซู่ออกมาจากถ้าแยนเสียตาหนักเจิ้นเยว่แล้วใช่ไหม?”

ลู่เฉินพยักหน้า “เขาจะเข้าร่วมการโต้วาทีของสามลัทธิ ป๋ ายอวี้ จึงมีเมตตาต่อเขามากเป็ นพิเศษ แต่เจ้าเด็กนี่เจ้าอารมณ์ แล้วยังเป็ น คนดื้อดึง ได้ออกจากทาเนียบเต้ากวานของป๋ ายอวี้จิงแล้ว ถึงขั้นที่ว่า แม้แต่ทาเนียบเต๋ของนครอวี่ซู่ก็ไม่ต้องการเหมือนกัน ศิษย์พี่เจ้านคร สองคนที่แต่ไหนแต่ไรมาเห็นเขาเหมือนลูกชายแท้ๆ มาโดยตลอด ทั้ง มีความสุขทั้งโมโห ไม่เจอร่องรอยของศิษย์น้องอย่างจางเฟิงไห่ก็รู้จัก

แต่จะบีบมะพลับนิ่ม ดีแต่จะมาระบายอารมณ์ใส่ผินเต้า ไปอาละวาดที่ นครหนันหัวมารอบหนึ่ง คิดว่าผินเต้ากินหญ้าจริงๆ หรือไร เอ็ดตะโร เป็ นสตรีปากตลาดใครบ้างทาไม่เป็ น ผินเต้าตั้งแผงอยู่ที่อาเภอไหว หวงมาตั้งสิบปีเชียวนะ!”

เพราะลู่เฉินพูดถึงเรื่องการด่าทอ เฉินผิงอันจึงถามว่า “เฉิง เฉวียน?”

ปีนั้นตอนที่อยู่บนหัวกาแพงเมือง ผู้ฝึกกระบี่เฒ่าสองคนอย่างเฉิง เฉวียนและจ้าวเก้ออี๋ต่างก็นับถือเถ้าแก่รองอย่างมาก ไม่เกี่ยวข้องกับ เวทกระบี่สูงต่าเลยแม้แต่น้อย ในฐานะอิ่นกวานหนุ่มที่มาจากต่างถิ่น แต่กลับสามารถบดขยี้พวกเขาในเรื่องที่พวกเขาเชี่ยวชาญมากที่สุด ได้พอดี

ลู่เฉินยิ้มกล่าว “เขากับน่าหลันเซาเหว่ย ทุกวันนี้ได้เอาหินพัก มังกรที่อยู่ตรงกลางน้าของต าหนักสุ้ยฉูเป็ นพื้นที่ประกอบพิธีกรรม มี ชีวิตที่ดีมาก ตาหนักสุ้ยฉูขึ้นชื่อเรื่องผลักไสคนนอกและเข้าข้างคน กันเองอย่างมาก ในอนาคตเมื่อออกไปหาประสบการณ์ภายนอกก็ สามารถเดินกร่างในสิบสี่มณฑลได้เลย ส่วนพวกต่งถ่านดากับเจ้า อ้วนเยี่ยน เจ้าก็ยิ่งไม่ต้องเป็ นห่วง ถอยไปพูดหนึ่งก้าว ขอแค่มีสิง กวานหาวซู่คอยควบคุมดูแล ก็มีแต่พวกเขาที่จะรังแกคนอื่น”

เฉินผิงอันพยักหน้า

ลู่เฉินพลันเอ่ยเสียงเบา “เงินเหรียญทองแดงแก่นทองสามร้อย เหรียญที่เจ้าติดค้างอวี๋เสวียน ผินเต้าพอจะมีเก็บสะสมไว้อยู่บ้าง ชีวิต นี้มิอาจทนเห็นสหายเป็ นหนี้แล้วไม่ใช ้คืนได้มากที่สุด แค่คิดถึงเรื่องนี้ ก็รู ้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวมากแล้ว จึงได้ช่วยจ่ายสารองให้ภูเขาลั่วพั่วไป ก่อนแล้ว ด้วยมิตรภาพของพวกเราสองคน เงินทองเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ จ าเป็ นต้องพูดถึงอีกเลย!”

เฉินผิงอันหัวเราะหยัน

ลู่เฉินเอ่ยอย่างขุ่นเคือง “ก็ได้ บอกกับเจ้าตามตรงก็ได้ อันที่จริง ผินเต้าต้องพูดกับเทพเซียนผู้เฒ่าอวี๋อยู่นาน ใช้คารมคมคายไปไม่ น้อยถึงช่วยสะสางหนี้ก้อนนี้ให้กับภูเขาลั่วพั่วได้”

เฉินผิงอันยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “นอกจากเจ้าลัทธิลู่จะชอบยุ่งเรื่องคน อื่นแล้ว ความสามารถในการฉกฉวยคุณความชอบก็ไม่น้อย เหมือนกันนะ”

ลู่เฉินถามอย่างสงสัย “ซิ่วไฉเฒ่าบอกเรื่องนี้กับเจ้าแล้วหรือ?”

เฉินผิงอันขมวดคิ้ว “หมายความว่าอย่างไร?”

ลู่เฉินมีสีหน้ากระอักกระอ่วน ได้แต่บอกต้นสายปลายเหตุให้อีก ฝ่ ายฟังแต่โดยดี “ผินเต้าออกมาจากป๋ ายอวี้จิง ก่อนจะมาที่ไพศาล เคยไปเยือนทางช้างเผือกนอกฟ้ ามาก่อนรอบหนึ่งจริงๆ พูดคุยกับ อวี๋เสวียนอย่างถูกคอ เทพเชียนผู้เฒ่าเป็ นฝ่ ายพูดถึงเรื่องเงินเหรียญ ทองแดงแก่นทองสามร ้อยเหรียญขึ้นมาก่อน บอกว่าซิ่วไฉเฒ่าได้นั่ง

ลงถูกมรรคากับเขาไปรอบหนึ่ง ทาให้เขาได้ผลประโยชน์บนมหา มรรคาอย่างมหาศาล เขาหน้าบาง เมื่อเทียบกับเงินเหรียญทองแดง แก่นทองแล้วก็นับเป็ นอะไรไม่ได้เลย จึงให้ถือว่าหายกัน “เงินทอง เล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่จาเป็ นต้องพูดถึงอีก” เป็ นผินเต้าที่ช่วยนาความมา บอกแทนเทพเขียนผู้เฒ่าอวี๋เท่านั้น เขายังบอกอีกว่าคราวหน้าที่เจ้า ขุนเขาเฉินไปเป็ นแขกที่ทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางต่อให้เขาอวี๋เส วียนไม่อยู่ในส านักก็สามารถไปขอยืมเงินเหรียญทองแดงแก่นทอง จากยอดเขาเถียนจินอีกสามห้า…ห้าหกร ้อยเหรียญได้เลย เขาบอก กล่าวกับลูกศิษย์ผู้สืบทอดสองคนที่ดูแลเงินของสานักดั้งเดิมและ สานักเบื้องบนเอาไว้แล้ว ถึงเวลานั้นเจ้าขุนเขาเฉินแค่เปิดปากก็เอา เงินไปได้ทันที”

ตอนที่พูดคาว่าสามห้า เห็นสายตาของเฉินผิงอันคล้ายจะ ผิดปกติ ลู่เฉินที่รู ้ใจก็รีบเปลี่ยนคาพูด เปลี่ยนจานวนเป็ นห้าหกร ้อย เหรียญโดยตรง

ผินเต้าเป็ นคนมีคุณธรรมสูงส่งเทียมฟ้ า ยินดีช่วยเหลือพี่น้อง ของตนเท่าที่ทาได้ บาปนี้ผินเต้าจะแบกไว้เองก็แล้วกัน!

ลู่เฉินถามหยั่งเชิง “ร่างแยกหกร่างมีขีดจากัดอยู่ที่ระดับขั้นของ กระดาษยันต์ ดูเหมือนว่าขอบเขตต่างก็ไม่สูง ต้องการให้ผินเต้าช่วย ปกป้ องมรรคาให้หรือไม่?”

“ไม่คุยเรื่องนี้”

เฉินผิงอันลุกขึ้นยืนแล้วขอตัวลา เดินขึ้นเขาจากไปเพียงลาพัง

หากลู่เฉินไม่ได้พูดจาเหลวไหล ก็เท่ากับว่าจวนเฉวียนฝู่ ของ ภูเขาลั่วพั่วมีเงินเหรียญทองแดงแก่นทองเพิ่มมาอีกสามร ้อยเหรียญ หากหลอมทั้งหมดให้เสร็จ แม้จะไม่อาจเลื่อนระดับขั้นของกระบี่บิน “จันทร ์ปากบ่อ” ได้ แต่จานวนกระบี่บินที่จาแลงออกมาก็สามารถ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การเดินทางไปเยือนอวี๋โจวในตอนหลัง นอกจากจะไปพบฮ่องเต้ ของต้าหลีแล้ว ก็ไม่รู ้ว่าทุกวันนี้ในท้องพระคลังของต้าหลีมีเงิน เหรียญทองแดงแก่นทองเหลืออยู่อีกกี่มากน้อย

แน่นอนว่ายังต้องไปศูนย์ตัดต้นไม้ที่เขตอวี้จางรอบหนึ่ง หลังจาก แน่ ใจว่าบิดาของหลินโส่วอีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในบุญคุณ ความแค้นครั้งนั้น ความโล่งใจของเฉินผิงอันในตอนนั้นก็เป็ นสิ่งที่คน นอกมิอาจเข้าใจได้เลย

วันเทศกาลชิงหมิงของปีนี้ เมืองหลวงแคว้นอวี้เซวียน หากหม่าขู่ เสวียนอยากจะขัดขวาง เขาก็สามารถลองท าดูได้

ไม่ว่าจะเกี่ยวพันไปถึงภูเขาเจินอู่ จวนซานจวินมหาบรรพต ประจิมของแจกันสมบัติทวีปหรือไม่ ล้วนไม่ใช่ปัญหา

อีกอย่างก็คือก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ภูเขาหนิวเจี่ยว เฉินผิงอันตอบ ตกลงกับจางไช่ฉินและหงหยางโปว่าช่วงกลางปีจะเข้าร่วมงานพิธี ของแคว้นชิงซิ่ง

ส่วนเรื่องของการขุดเจาะลาน้าใหญ่ที่ใบถงทวีป เฉินผิงอัน ตัดสินใจว่าจะโยนภาระทิ้งไม่ถามไถ่แล้ว มอบให้ชุยต่งซานและส านัก กระบี่ชิงผิงไปร่วมมือกับกองกาลังจากฝ่ายต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

ก่อนหน้านี้ไปที่นอกฟ้ า เฉินผิงอันแน่ใจแล้วว่าศาลบุ๋นจะแต่งตั้ง ห้ามหาบรรพต่ของแจกันสมบัติทวีป ซานจวินห้าท่านซึ่งมีเว่ยป้ อและ จิ้นชิงเป็ นหนึ่งในนั้น อีกเดี๋ยวก็จะได้ฉายาเทพกันแล้ว

ส่วนการโต้วาทีของสามลัทธิ เฉินผิงอันยังลังเลว่าจะเข้าร่วมฟังดี หรือไม่ หากเข้าร่วมควรจะพาเซียนเว่ยไปด้วยดีไหม

ตอนนี้เรื่องเร่งด่วนก็คือควรจะหวนกลับสู่ขอบเขตหยกดิบได้แล้ว

หลังจากนั้นก็จะออกเดินทางท่องใต้หล้าไพศาลไปพร ้อมกับ เซียนสุราหลิว เดิมทีตระกูลสกุลหลิวของธวัลทวีปและศาลเหลยกง ของเพ่ยอาเซียงเป็ นสถานที่ที่เขาต้องไปเยี่ยมเยือน แต่ตอนนี้เฉินผิง อันคร ้านจะไปเยือนตระกูลสกุลหลิวแล้ว ไม่ได้สนิทกันถึงขนาดนั้น เป็ นแค่เค่อชิงที่ไม่ได้รับการบันทึกชื่อเท่านั้น

ที่หน้าประตูภูเขา พอเจ้าขุนเขาจากไป เพียงไม่นานเสี่ยวโม่ กับเซี่ยโก่วก็พากันมาถึง

ลู่เฉินมองเด็กสาวสวมหมวกขนเตียว เด็กสาวสวมหมวกขน เตียวงอสองนิ้วชี้ไปที่ดวงตา บอกเป็ นนัยแก่นักพรตหนุ่มที่สวมกวาน ดอกบัวผู้นี้ว่าให้ควบคุมดวงตาสุนัขวาวโรจน์คู่นั้นของตัวเองให้ดี

ลู่เฉินใช ้เสียงในใจกล่าว “สรรพสิ่งมีขึ้นมีลงเป็ นไปตามกลไก ธรรมชาติ ของเก่าย่อมมิอาจสู้ของใหม่ เพียงแต่แม่นางเซี่ยอยากจะ ขโมยฟ้ าเปลี่ยนตะวัน อาศัยสิ่งนี้มาผสานมรรคาผินเต้าเห็นว่าไม่ใช่ เรื่องง่ายเลยนะ”

เซี่ยโก่วยิ้มกว้าง “ความสาเร็จอยู่ที่คน”

จากนั้นเซี่ยโก่วก็เปิ ดปากพูดอย่างน่ าสงสารว่า “เสี่ยวโม่ นักพรตผู้นี้แอบเกี้ยวพาข้าเมื่อครู่นี้คาพูดในใจของเขาหยาบโลน อย่างมาก”

เจิ้งต้าเฟิงรีบยกถ้วยขาวขึ้นทันใด “ข้าสามารถเอาหัวสุนัขของ นักพรตลู่มารับประกันได้เลยว่าเป็ นเรื่องที่นักพรตลู่ทาได้แน่นอน”

บทที่ 1014.1 คอกท้อดอกหลีกลัวลมฝนพัดผ่าน ดอกจี้ใช่ ริมธารกลับเบ่ง บานอย่างทระนง 1

บทที่ 1014.1 คอกท้อดอกหลีกลัวลมฝนพัดผ่าน ดอกจี้ใช่ ริมธารกลับเบ่ง บานอย่างทระนง 2

บทที่ 1014.1 คอกท้อดอกหลีกลัวลมฝนพัดผ่าน ดอกจี้ใช่ ริมธารกลับเบ่ง บานอย่างทระนง 3

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!