กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 1015

“จอมยุทธน้อยอะไรกัน เพิ่งจะลงจากเขามาหาประสบการณ์ได้ แค่ไม่กี่วัน ยังไม่ได้สร ้างเรื่องดีๆ ที่วีรบุรุษเขาทากันเลย”

เด็กหนุ่มที่สวมรองเท้าสานเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “หากไม่เรียกชื่อ ข้าตรงๆ ก็เรียกข้าว่าคุณชายเฉิน”

ป๋ ายเหมานินทาในใจไม่หยุด เป็ นเพราะก่อนหน้านี้คุณหนูสี่แห่ง ภูเขาเหอฮวานเรียกจางอวี่เจี่ยวว่าคุณชายจาง เจ้าก็เลยอิจฉางั้น หรือ?

เดินไปที่ริมหน้าผาด้วยกัน บนพื้นมีกระดาษเงินและกระดาษที่ พับเป็ นรูปบ้าน รถ คนงาม ฯลฯ ของพ่อค้าหาบเร่กระจายอยู่เต็มพื้น ส่วนทองหยวนเป่าและเงินก้อนมีส่วนที่ไม่เหมือนกับกระดาษเงินที่ร ้าน ขายของงานอวมงคลขายกันก็ตรงที่ถูกพ่อค้าหาบเร่ใช ้ชาดเขียนชื่อ รัชสมัยของแคว้นลงไป

ไม่เหมือนกับผู้ฝึ กลมปราณที่จะเลือกเงินเหรียญทองแดง บางส่วนมาท าเป็ น “สมบัติอาคม” ซึ่งการเลือกเหรียญทองแดง จาเป็ นต้องหาชื่อรัชสมัยของราชวงศ์ที่กองกาลังแคว้นรุ่งโรจน์ มี ความหมายงดงาม ว่ากันว่าหากทาเช่นนี้จะทาให้ปราณหยางเข้มข้น ยิ่งเงินเหรียญทองแดงเหรียญหนึ่งผ่านมือคนมากเท่าไร ปราณหยาง ที่ถูกสัมผัสมาก็จะมากขึ้นเท่านั้น หันกลับมามองด้านล่างของ

กระดาษเงินพวกนี้ ส่วนใหญ่กลับเป็ นชื่อรัชสมัยของแคว้นที่มีกอง กาลังอ่อนแออย่างถึงที่สุด เป็ นเหตุให้ถูกสร ้างขึ้นในตอนที่จักรพรรดิ แคว้นล่มสลายขึ้นครองราชย์ กลิ่นอายหยินจะเข้มข้นมากกว่า ซึ่ง พ่อค้าหาบเร่ไปเก็บเอามาจาก “กระดาษแขวน” ของสุสาน หรือไม่ก็ ตอนที่มีคนเผากระดาษอยู่หน้าหลุมศพ พ่อค้าหาบเร่ก็จะใช ้เวทอ า พรางตาบางอย่าง มองดูเหมือนเผาเสร็จหมดแล้ว แต่แท้จริงแล้วกลับ ถูกพ่อค้าแย่งชิงไปกลางทาง

เด็กหนุ่มสะพายกระบี่แซ่เฉินกับเจ้าจวนป๋ ายที่ตรงเอวห้อยตรา ขุนนางตราทหารแยกกันเก็บกระดาษเงิน เป็ นน้าบ่อที่ไม่ยุ่งกับน้า คลอง

ป๋ ายเหมาจงใจเลือกกระดาษที่พับเป็ นรูปรถม้า หอเรือนและสาว ใช ้ที่งามประณีติรวมๆ แล้วน่าจะได้สักหนึ่งร ้อยเหรียญเงินเกล็ดหิมะ

เห็นเด็กหนุ่มสะพายกระบี่นั่งยองอยู่บนพื้น หยิบตะบันไฟออกมา จากชายแขนเสื้อเผากระดาษเงินกองใหญ่ที่เพิ่งจะได้มาอยู่ในมือทิ้ง ทั้งหมด

เจ้าจวนป๋ ายมึนงง อดไม่ไหวถามว่า “น้องชาย นี่เจ้ากาลังทา อะไร?”

กระดาษเงินพวกนี้ หากเจอกับคนมีเงินในหมู่ชาวบ้านที่ดูของ ออก บางทีอาจขายได้เงินจริงๆ มาไม่น้อย หักลบกันแล้ว ไม่ว่า อย่างไรก็น่าจะขายได้สิบเหรียญเงินเกล็ดหิมะ

เด็กหนุ่มกล่าว “ค าโบราณกล่าวไว้ว่าทรัพย์สินเงินทองเหมือน น้าไหลผ่าน ล้วนเป็ นของที่ผ่านมือไปแล้วก็ไม่อาจรั้งไว้ได้อีก พูดถึง แค่กระดาษเงินพวกนี้ เดิมทีก็ควรเผาให้คนตาย หากเผาไปตั้งแต่ปี นั้น เมื่อไปถึงปรโลกก็ขาดน้าหนักไปแล้ว ตอนนี้มาเผาทิ้ง คนที่อยู่ ด้านล่างก็จะเท่ากับว่ามีทรัพย์สินที่เดิมทีควรเป็ นของพวกเขาเพิ่มมา ก้อนหนึ่ง”

เจ้าจวนป๋ ายอึ้งงันพูดไม่ออก เงียบไปนานก่อนจะโพล่งประโยค ว่า “ไม่นึกว่าเจ้าจะมีเมตตา”

เด็กหนุ่มแก้ไขให้ถูกต้อง “อย่างข้านี้เรียกว่ายอดฝี มือมีความ กล้าหาญ ไม่กลัวว่าต้องเดินทางตอนกลางคืน เงินที่ได้มาโดยไม่ ชอบน้อยนิดแค่นี้จะนับเป็ นอะไรได้ จิ๊บจ๊อย”

เขาลุกขึ้นยืน ถามว่า “ลงจากเขาไปด้วยกันไหม?”

ป๋ ายเหมาพยักหน้า

มักจะรู ้สึกว่าเจ้าคนมุทะลุที่ไม่รู ้ว่าโผล่มาจากมุมไหนผู้นี้ แม้จะโง่ ไปสักหน่อย แต่กลับโชคไม่เลวเลยจริงๆ ถึงได้ข้ามผ่านหายนะครั้งนี้ มาได้

เด็กหนุ่มพลันเอ่ยว่า “ดูเหมือนข้าจะติดเงินเกล็ดหิมะเจ้าสอง เหรียญ”

ป๋ ายเหมาสะบัดชายแขนเสื้อ ยิ้มเอ่ย “ล้วนนับรวมอยู่ในนี้แล้ว”

ผลคือเด็กหนุ่มชาเลืองตามองเครื่องประดับบนร่างของเจ้า จวนป๋ าย เอ่ยประโยคหนึ่งว่า “ตอนมีชีวิตอยู่เคยเป็ นขุนนางเมล็ดงา ไม่เคยเป็ นขุนนางใหญ่สินะ”

ป๋ ายเหมายิ้มฝืดเฝื่อน แต่ก็ไม่ได้เถียง พวกเขาเดินไปทางเกี่ยวคันนั้นด้วยกัน ยังมีคนแบกหามสี่คนที่ ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมตลอดเวลา

เด็กหนุ่มหัวเราะร่วน “ต่างก็บอกว่าของเปรียบของต้องโยนทิ้ง คนเปรียบคนชวนให้คนโมโหตาย เมื่อก่อนไม่รู ้สึกอะไร วันนี้ในที่สุด ก็เข้าใจถึงความยอดเยี่ยมของคาโบราณประโยคนี้แล้ว ลองดูเซียน กระบี่จางแห่งเขตเทียนเฉานั่นสิ แล้วลองมองเกี้ยวแปดคนหามของ นายท่านเทพภูเขา สุดท้ายมามองเจ้า ข้ารู ้สึกปวดใจแทนเจ้าแล้ว ด้วยซ้า คนเขาออกจากบ้านมีเงินหมื่นก้วนร ้อยเอว สวมทองใส่หยก พี่ใหญ่ป๋ ายเจ้ากลับดีนัก ตรงเอวมีเงินสิบเหวินก็สะบัดเสื้อดังได้แล้ว แล้วยังเป็ นเจ้าจวนด้วยนะ ทาไมเจ้าไม่ตั้งประตูจวนไว้เป็ นประตูภูเขา อยู่ตรงตีนเขาของภูเขาเหอฮวานไปเลยเล่า?”

ป๋ ายเหมายิ้มกระอักกระอ่วน ยื่นมือมาทามุทรา ปากท่องพึมพา เสกเกี้ยวและคนแบกหามให้กลายเป็ นกระดาษที่ถูกพับหลายแผ่น แล้วจึงยื่นมือไปคว้า กระดาษขาวลอยเข้ามาในชายแขนเสื้อ

แต่งกายเช่นนี้ออกจากบ้าน เป็ นเพราะซื้อมาจากคนหาบเร่ผู้นั้น เมื่อนานมาแล้ว ใช ้เงินเกล็ดหิมะของเจ้าจวนป๋ ายไปหลายเหรียญ

ส่วนเด็กหนุ่มบุ่มบ่ามไม่รู ้ประสาผู้นี้ แม้จะพูดจาไม่น่าฟัง แต่ตัว คนกลับไม่เลว

เพียงแต่ยิ่งคิดเจ้าจวนป๋ ายก็ยิ่งโมโห คาพูดของเขาไม่ใช่แค่ไม่ น่าฟังธรรมดาเท่านั้นน่ะสิ ดูเหมือนจะแทงใจด าอยู่ตลอดเลยด้วย

เขามาจากไหนกันแน่นะ ตระกูลใหญ่นอกจากจะถ่ายทอดวร ยุทธแล้วยังสอนวิชาด่าคนด้วยหรือ?

เด็กหนุ่มถาม “แม่นางถือร่มหน้าตาดีที่มองดูแล้วน่าจะเป็ น คุณหนูใหญ่ที่รู ้หนังสือรู ้ธรรมเนียมข้างหน้านั้น เจ้าจวนป๋ ายรู ้หรือไม่ ว่านางมีความเป็ นมาอย่างไร?”

ป๋ ายเหมามองร่มกระดาษน้ามันและรองเท้าปักลายบุปผาที่อยู่ ตรงหน้า เพียงแต่ว่าเจ้าหนูเจ้าใช้ตาข้างไหนมองถึงมองออกว่าผีสาว ไร้หัว “หน้าตาดี” กันนะ?

ตอนนี้เจ้าจวนป๋ ายยังไม่รู้ว่าบุญกุศลจากการเผากระดาษเงิน ของเด็กหนุ่มสะพายกระบี่ก่อนหน้านี้ แท้จริงแล้วล้วนถูกบันทึกลงใน นามของเขาป๋ ายเหมาทั้งหมด

ป๋ ายเหมาลังเลอยู่เล็กน้อย ก่อนจะเลือกพูดเรื่องบางอย่างที่ไม่ผิด ต่อกฎ “รู้แค่ว่านางแซ่หลิ่ว แน่นอนว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับเชื้อ พระวงศ์สกุลหลิ่วของแคว้นชิงซิ่ง ต่างก็พูดกันว่านางตายเพื่อบูชารัก ให้แก่บัณฑิตคนหนึ่ง ถูกเพชรฆาตตัดหัวต่อหน้าชาวบ้านมากมาย

ตอนมีชีวิตอยู่ไม่เคยถูกรับเข้าท าเนียบตระกูล ตายไปแล้วแน่นอนว่า ไม่ถูกฝังอยู่ในสุสานของบรรพบุรุษ เป็ นคนน่าสงสารคนหนึ่ง”

“ม้าที่อยู่ใต้กันของคุณหนูสี่ใช่ม้าจริงไหม?”

“จริงแท้แน่นอน ภูตในภูเขาที่สามารถทะยานลมได้ประเภทนี้ ตบะและขอบเขตจะสูงแค่ไหน แค่คิดก็พอจะรู้ได้ ไม่แน่ว่าอาจเป็ น ปีศาจใหญ่ตนหนึ่งที่หลอมเรือนกายได้นานแล้วและบรรลุมรรคาได้ แล้ว จะไม่ใช่ขอบเขตถ้าสถิตเลยหรือ? แล้วก็มีแต่คุณหนูของฝู่ จวิน จ้าวอวี่สองคนของภูเขาเหอฮวานเท่านั้นที่ถึงจะเอามันมาเป็ นพาหนะ ได้ คุณหนูใหญ่ คุณชายรองและยังมีคุณหนูสามที่ออกเรือนในคืนนี้ ดูเหมือนว่าต่างก็ไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้”

ป๋ ายเหมานึกถึงสถานการณ์อันตรายก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ จึง ถามว่า “เจ้ายากจนขนาดที่แม้แต่กระบี่เหล็กสักเล่มก็ซื้อไม่ไหวหรือ? ได้แต่แสร ้งเอาด้ามกระบี่มาติดไว้ เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่?”

“มีเงินหรือไม่มีเงิน เกี่ยวผายลมอะไรกับเจ้าด้วย”

บทที่ 1015.2 เยาว์วัยมองฟ้ าจากก้นบ่อน้า 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!