แผ่นดินในยุคสมัยหนึ่งก็มีบุคคลของยุคสมัยหนึ่ง สายน้าภูเขา เหมือนภาพวาด ผู้คนยิ่งมีชีวิตเสรีไม่ยึดติดกรอบ โดดเด่นเหนือฝุ่ น ธุลีทั้งปวง
อย่าว่าแต่เซี่ยโก่วเลย แม้กระทั่งผู้คุมกฏฉางมิ่งก็ยังไม่เข้าใจว่า ท าไมเฉินผิงอันถึงได้ตื่นเต้น และก่อนหน้านี้ก็มีเพียงคนเป็ นลูกศิษย์ อย่างกวอจู๋จิ่วเท่านั้นที่มองเรื่องนี้ออก
การประชุมในเรือนชุนฟานภูเขาห้อยหัวของปีนั้น ครั้งแรกที่เฉิน ผิงอันปรากฏตัวด้วยสถานะอิ่นกวานคนใหม่ของก าแพงเมืองปราณ กระบี่ เขาไม่ได้รู ้สึกตื่นเต้นเลยสักนิด ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนผ่อนคลาย สบายๆ
ทว่าต่อให้พื้นที่มงคลจะเล็กแค่ไหนก็คือใต้หล้าทั้งแห่งที่มหา มรรคาโคจรอย่างมีระบบระเบียบ ดวงตะวันจันทราผลัดกันขึ้นลง พืช หญ้าแห้งเหี่ยวเติบโต ดอกไม้บานดอกไม้ร่วงโรย เซียนและมนุษย์ ธรรมดาอยู่ร่วมกัน มีดและสว่างสลับหมุนเวียน ล้วนอยู่ในฟ้ าดินแห่ง นี้
แล้วนับประสาอะไรกับที่เฉินผิงอันเองก็มองพื้นที่มงคลรากบัว เป็ นเหมือนถ้าสวรรค์หลีจูที่เป็ นบ้านเกิด
เจ้าอารามผู้เฒ่าซุกซ่อนเส้นสายซึ่งยังไม่เปิดเผยตัวไว้ที่นี่หลาย เส้น รอคอยอยู่เบื้องหน้าให้ภูเขาลั่วพั่วไปส ารวจและขุดค้น สถานการณ์จะดีหรือร ้ายล้วนขึ้นอยู่กับภูเขาลั่วพั่วซึ่งผูกติดอยู่ กับเฉินผิงอัน
ตามแผนการของเจ้าอารามผู้เฒ่า เจ๋อเซียนทุกคนใน ประวัติศาสตร ์ที่เข้ามาขัดเกลาจิตแห่งมรรคาหรือมาเที่ยวเล่นในโลก มนุษย์อยู่ในพื้นที่มงคลดอกบัว ล้วนจาเป็ นจะต้องจ่ายค่าผ่านทาง ก้อนหนึ่งให้กับอารามกวานเต๋า นั่นก็คือจิตแห่งมรรคา
รวบรวมจิตแห่งมรรคาของผู้ฝึ กลมปราณให้กลายเป็ นหนึ่ง รวบรวมผู้ที่ประสบความส าเร็จมาก่อนแล้วค่อยกระจายออกไป มีการ เตรียมการให้กับบุคคลต่างๆ ในโลกมนุษย์ดังนั้นพวกเขาจึงกลายมา เป็ นบุคคลที่พรสวรรค์โดดเด่นน่าตะลึง กลายมาเป็ นนกกระเรียนใน ฝูงไก่บนวิถีทางโลกแห่งนี้ หลูเซิงบัณฑิตที่พยายามจะร ้อยเรียงความ รู ้ของร ้อยส านักเข้าด้วยกัน สุยโย่วเปียนลูกศิษย์ที่เขาสอนออกมา เป็ นเช่นนี้ จูเหลี่ยน ติงอิงคนในรุ่นหลังก็เป็ นเช่นเดียวกัน อวี๋เจินอี้ จ้ง ชิวก็ยิ่งใช่ หยวนหวง อูเจียงที่เป็ นคนรุ่นเยาว์ก็ยังคงเป็ นเช่นนั้น
อารามกวานเต๋าก็เหมือนต้นไม้แห่งมรรคาต้นหนึ่ง ภูเขาสายน้า บนผืนแผ่นดินและสรรพชีวิตที่มีสติปัญญาคือกิ่งก้านใบและดอกผล ทุกกิ่งก้านล้วนเป็ นชะตาแคว้น เป็ นควันธูปของแต่ละครัวเรือน เป็ น เส้นสายของพรรคในยุทธภพ ดอกไม้บานก็คือการถือก าเนิดของทุก
ชีวิต ดอกไม้ร่วงก็คือความตายของทุกชีวิต ถ้าอย่างนั้นดอกผลที่ผลิ อยู่บนต้นไม้แห่งมรรคาต้นนี้ก็คือ “นักพรต
สถานการณ์ใหญ่มั่นคงดีแล้วก็ยังต้องปรึกษากันในเรื่องของ รายละเอียด เรือนลั่วฮวา อารามต้ามู่
กงฮวาสุ่ยจวินที่เป็ นเจ้าบ้านของทะเลสาบชิวชี่ต้มชารับรองแขก
ด้วยตัวเอง
เมื่อเทียบกับกระแสคลื่นใต้น้าบนลานกว้างหยกขาวก่อนหน้านี้ บรรยากาศในห้องเวลานี้ต่อให้มิอาจเรียกได้ว่าทั้งแขกและเจ้าบ้าน ล้วนเปรมปรีดิ์ แต่ก็ถือว่าได้ยกภูเขาออกจากอกกันแล้ว
สมาชิกที่เข้าร่วมการประชุมขนาดเล็กครั้งที่สอง ผู้ฝึกลมปราณ มีเกาจวิน ซุนหว่านแย่นฉายาหลิงฝู โจวซูเจินแห่งหอจิ้งหย่าง เพ่ ยเซียงเจ้าแห่งแคว้นหู
ผู้ฝึกยุทธมีแค่จงเชี่ยน มือกระบี่เฉานี่ ปรมาจารย์หญิงเฮ้อฉีโจว
นอกจากนี้ก็คือจักรพรรดิของสี่แคว้นและซานจวินห้ามหา บรรพต ก่อนหน้านี้สถานการณ์ของทั้งสองฝ่ ายตอนที่อยู่บนลาน กว้างนอกต าหนักหลักของอารามค่อนข้างจะน่าสนใจ ซานจวินทุก ท่านล้วนนั่งลงแล้ว ทว่าผู้ครองแคว้นกลับยังคงยืนอยู่
ซานจวินผู้เฒ่าแห่งขุนเขาเหนือที่เก็บงาอาพรางตนได้ดียิ่ง กว่าซ่งไหวเป้ า ชื่อเดิมคือจางเซี่ยนซาน หลังจากกลายเป็ นเทพก็ใช ้ นามแฝงว่าอู๋อง ฉายาอวี้เตี๋ย
ซานจวินผู้เฒ่าคิดว่าจะกลับไปใช ้ชื่อเดิมแล้ว เพียงแต่รู ้สึกว่า นามแฝงว่าอู๋ฉงนี้ไม่ค่อยเป็ นที่น่าชื่นชอบเท่าใดนัก
เฉินผิงอันถือประคองถ้วยชาไว้บนฝ่ ามือ ยิ้มถามว่า “ฮ่องเต้ทั้งสี่ ท่าน เกี่ยวกับเรื่องการแบ่งหน้าที่ของซานจวินห้ามหาบรรพต พวก เจ้ามีความเห็นต่างหรือไม่? หากมีความเห็นต่าง มีข้อเสนอแนะ
อะไร?”
ความนัยในประโยคนี้ก็คือพวกถังเถี่ยอี้ เว่ยแย่นสามารถปฏิเสธ ไม่เห็นด้วยได้ แต่ก็ต้องมีวิธีแก้ไขปัญหาให้ด้วย
ท่าป๋ าต้าเจ๋อที่เป็ นผู้ครองทุ่งหญ้ากว้างตอบ “ไม่มีความเห็นต่าง อะไร เดิมทีห้ามหาบรรพตใหญ่ก็ไม่อยู่ในการดูแลของพวกเราอยู่ แล้ว ตอนนี้พวกเขามีตาแหน่งหน้าที่ที่ชัดเจนแยกงานกันอย่างแจ่ม แจ้ง ดีมากแล้ว”
จ้าวจวี้หรานซานจวินแห่งขุนเขาตะวันออกถาม “กฎระเบียบของ ศาลเทพอภิบาลเมืองในโลกมนุษย์จะตั้งกันอย่างไร? ยกตัวอย่างเช่น เทพอภิบาลเมืองแต่ลระดับควรจะต้องมีต าแหน่งหวัง โหว กง ป๋ อ แจว์ ที่สอดคล้องกับขอบเขตการปกครองของตัวเองด้วยหรือไม่?”
จ้าวจวี้หรานไม่ได้ละโมบต่ออานาจ แต่เขากลับรู ้ชัดเจนดีว่า หากคาลเทพอภิบาลเมืองไม่มีอานาจที่แท้จริง การดูแลเรื่องของโลก มืดและพวกภูตผีของขุนเขาตะวันออกก็จะเหมือนการพูดคุยกันบน หน้ากระดาษเท่านั้น
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “จ้าวซานจวิน ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกแล้วว่า รายละเอียดจาพวกนี้ พวกเจ้าปิดประตูปรึกษากันเองได้เลย วันนี้ข้า กับภูเขาลั่วพั่วไม่สอดมือเข้าแทรก พรุ่งนี้ก็เช่นเดียวกัน”
จ้าวจวี้หรานพยักหน้า
เฉินผิงอันกล่าว “มีเพียงเรื่องเดียวที่ข้าจาเป็ นต้องกาหนดกับ พวกเจ้าให้ชัดเจนตั้งแต่วันนี้ และวันหน้าก็พยายามอย่าให้มีการ เปลี่ยนแปลง ศาลบุ๋นบู๊สองแห่ง เทวรูปหลักและเทวรูปรองในต าหนัก หลัก และยังมีในตาหนักข้างอีกสองฝั่ง ปราชญ์ผู้ล่วงลับที่จะถูกตั้ง บูชาอยู่ในสองห้องจะต้องมีเค้าโครงคร่าวๆ ที่แน่นอน วันเวลาในการ บวงสรวงและกฎระเบียบพิธีการล้วนมีตัวอย่างส าเร็จรูปให้ยกมาท า ตามอยู่แล้ว ข้อนี้เจ้าประมุขเกาเป็ นผู้เชี่ยวชาญส่วนตัวเลือกเทวรูปที่ จะเอามาตั้งวาง แน่นอนว่าพวกเจ้าเลือกกันเองได้เลย”
ไหวเซี่ยซานจวินขุนเขาเหนือที่เป็ นผู้ดูแลศาลบู๊เปิ ดปากถาม “ปฐมศาลบุ๋นที่สร ้างขึ้นบนภูเขาของข้า เทวรูปในต าหนักหลักได้ถูก กาหนดไว้แล้ว สมาชิกที่จะได้รับควันธูปคู่ไปด้วยก็ต้องเป็ นสุดยอด ขุนพลที่มีชื่อเสียงดีงาม พูดถึงแค่เทวรูปที่ตั้งวางไว้ในห้องข้างสอง ห้อง นอกจากแม่ทัพที่มีชื่อเสียงของแต่ละรัชสมัยซึ่งมีผลงานการสู้รบ เกริกก้องแล้ว ยังสามารถเอาปรมาจารย์วิถีวรยุทธในแต่ละยุคไปวาง ไว้ อนุญาตให้พวกเขาได้ครอบครองต าหนักหลักเพียงล าพังด้วยได้ หรือไม่?”
เฉินผิงอันพยักหน้ายิ้มเอ่ย “ข้าคิดว่าทาได้”
เจิ้งเฟิ่งโจวที่ดูแลโชคชะตาบุ๋นของใต้หล้ายิ้มถาม “อาจารย์เฉิน อริยะปราชญ์ที่มีเทวรูปตั้งวางในศาลบุ๋น ไม่ว่าจะเป็ นปรมาจารย์ผู้ รอบรู ้แห่งลัทธิขงจื๊อที่ถ่ายทอดหลักธรรมและปรัชญา หรือจะเป็ น นักปราชญ์แท้ที่ประพฤติชอบธรรม เชื่อว่าขอแค่สามารถยึดมั่นใน พิธีการที่ถูกต้อง รักษาหลักแห่งจริยธรรม ทาจิตใจผู้คนให้บริสุทธิ์ เปลี่ยนแปลงขนบธรรมเนียมสร ้างคุณประโยชน์ให้กับวิถีทางโลกก็จะ สามารถเข้าไปเป็ นเทวรูปที่ตั้งวางอยู่ในศาลบุ๋นได้แล้ว ถ้าอย่างนั้น คนที่แต่งกายเรียบง่าย ตอนมีชีวิตอยู่ไม่เคยก้าวเดินอยู่ในวงการขุน นาง ไม่เคยได้เป็ นขุนนางที่ได้รับความสาคัญจากราชสานัก แต่ บทความคุณธรรมของพวกเขากลับสร ้างประโยชน์ให้กับโลกยุคหลัง ปัญญาชน “ตัวเปล่าเล่าเปลือย พวกนี้จะเป็ นเทวรูปที่ตั้งวางอยู่ใน
ศาลบุ๋นได้หรือไม่?”
เฉินผิงอันครุ่นคิดแล้วก็พยักหน้า “คนไม่ธรรมดาก็ย่อมต้อง ได้รับการปฏิบัติที่ไม่ธรรมดา”
“เพียงแต่ว่ากรณียกเว้นเช่นนี้ต้องระมัดระวังให้ดี อย่าให้มีบ่อย เกินไป หากท าให้คนรู ้สึกว่าเอามาประสมประเสให้ครบจ านวนอย่าง พร่าเพื่อก็จะเดือดร ้อนให้ศาลบุ๋นสูญเสียความเชื่อมันจากใต้หล้า”
“ขอให้ข้าปากมากพูดอีกสักประโยค ขุนเขากลางกับขุนเขาใต้ ช่วงแรกเริ่มของการสร ้างศาลบุ๋นบู๊ นอกจากตัวเลือกเทวรูปที่จะนามา ตั้งวางซึ่งต้องคัดเลือกอย่างตั้งใจ ทุกคนที่ได้รับเลือกล้วนเป็ นที่


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!