นักพรตเซียนเว่ยเข้าใจได้ทันที ถามหยั่งเชิงว่า “หากเจ้าขุนเขา ยินดีมอบให้ เสี่ยวเต้าหรือจะไม่รู ้จักกาลเทศะ ผิดต่อความปรารถนา ดีของเจ้าขุนเขา วันหน้าจะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างสุดก าลัง ไม่ กล้าเพิกเฉยแม้แต่น้อย จะทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดไปกับการเฝ้ า ประตูภูเขาให้ดีต่อไป”
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นก็กาหนดให้ภูเขาเซียงฮว่อเป็ น ของนักพรตเซียนเว่ยและลูกศิษย์หลินเฟยจิงชั่วคราวก่อน แน่นอนว่า เรื่องนี้ยังต้องผ่านมติที่ประชุม แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหามากนัก”
นักพรตเซียนเว่ยเอ่ยเสียงทุ้มหนัก “ใครบ้างที่ไม่รู ้ว่าการประชุม ในศาลบรรพจารย์ยอดเขาจี้เช่อของพวกเรา เจ้าขุนเขาเป็ นคนใจ กว้างที่สุด ไม่เคยเผด็จการฟังแต่เสียงตัวเอง”
เจิ้งต้าเฟิงอืมรับหนึ่งที “ทุกคนล้วนรู ้ดี”
เฉินผิงอันถอนหายใจอย่างที่หาได้ยาก คิดว่าควรจะให้จูเหลี่ยน ไปหาหยวนหวงแล้วรีบพาเขามาที่ภูเขาลั่วพั่วดีหรือไม่?
นักพรตเซียนเว่ยถูมือเอ่ยอย่างเขินอายว่า “เจ้าขุนเขา เอ่ย ประโยคจากใจจริงสักค า ไร ้ความชอบมิอาจรับเงินเดือน ข้าเตรียมใจ ไว้พร ้อมสาหรับการที่จะถูกสหายจิ่งชิงหยอกล้อแล้วนะ”
ได้ครอบครองภูเขาที่เป็ นของตัวเองในนาม ได้บุกเบิกพื้นที่ ประกอบพิธีกรรม! นี่คือเรื่องดีงามที่เหนียนจิ่งนักพรตตัวปลอมซึ่ง เมื่อก่อนเป็ นนักต้มตุ๋นอยู่ในยุทธภพไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึง
ต้องนอนท่าไหนถึงจะหลับฝันถึงฝันดีขนาดนี้ได้นะ?!
แล้วนับประสาอะไรกับภูเขาลั่วพั่วบ้านตนยังไม่ใช่พรรคเล็กที่มี แค่เทพเซียนห้าขอบเขตกลางก็ได้ครอบครองภูเขาก่อตั้งพรรค ไม่ได้เป็ นแค่ผู้ฝึกลมปราณที่ขึ้นเขาฝึกตนก็สามารถยึดครองภูเขา ไปได้ง่ายๆ
ก่อนหน้านี้ฟังหมี่ลี่น้อยเล่าว่าที่สานักเบื้องล่างบ้านตนมี กฎระเบียบใหญ่มาก ธรณีประตูก็สูงมาก เจ้าส านักชุยบอกไว้แล้วนะ ว่าวันหน้าหากไม่ใช่ขอบเขตก่อก าเนิดก็ไม่อาจจัดงานพิธีเปิดภูเขา ได้
จวนเซียนใหญ่ทั่วไป อยู่บนภูเขาของเก้าทวีปในไพศาล หาก ไม่ใช่โอสถทองก็เปิดยอดเขาไม่ได้ นี่คือกฎระเบียบที่ปฏิบัติตามกัน มาจนกลายเป็ นธรรมเนียมอย่างหนึ่งไปแล้ว
สานักชั้นสูงของใต้หล้าไพศาล เกรงว่าต่อให้ที่ตั้งของศาลบรรพ ชนจะใหญ่แค่ไหน จะมีภูเขามากมายเท่าไรก็ยังไม่พอให้เซียนดิน แบ่งกันอยู่ดี นี่ก็มีทั้งสานักดั้งเดิมปฐมสานักสานักเบื้องบนและสานัก เบื้องล่างไปพร ้อมกันแล้วไม่ใช่หรือ
แล้วนับประสาอะไรกับที่หากไม่พูดถึงกรณีเฉพาะบุคคล สานัก และบรรพจารย์ผู้บุกเบิกภูเขาในใต้หล้าต่างก็แทบจะมาจากพรรคเล็ก และเป็ นผู้ฝึ กตนตัวเล็กๆ กันทั้งนั้น ส่วนใหญ่แล้วขนาดของปฐม สานักมักจะธรรมดา ไม่ได้มีพลังอานาจน่าครั่นคร ้ามสักเท่าไร ผ่าน ไปนานหลายปีเหมือนนกนางแอ่นที่คาบดินโคลนมาทารังจึงจะมีภาพ บรรยากาศที่ยิ่งใหญ่ได้ ภูเขาลั่วพั่วก็ถือว่าอยู่ในกรณีนี้
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “คนกันเองไม่พูดจาห่างเหิน นักพรตเซียนเว่ย แค่รับไปให้สบายใจก็พอ”
“อีกเดี๋ยวภูเขาพอวิ่นจะจัดงานพิธีแต่งตั้งอย่างเป็ นทางการแล้ว พวกเจ้าต้องการติดตามข้าไปดื่มเหล้าที่นั่นด้วยกันหรือไม่?”
เจิ้งต้าเฟิ งส่ายหน้า “สนิทกับเว่ยป้ อเกินไป ข้าคงไม่ไปร่วมวง ความครึกครื้นแล้ว”
นักพรตเซียนเว่ยพยักหน้าตาม เป็ นเพราะทรัพย์สมบัติมีอยู่ไม่ มาก กระเป๋ าฟีบแบนไม่สะดวกจะไปกินเปล่าดื่มเปล่าในงานเลี้ยง ต่อ ให้ทุบหม้อขายเหล็กก็ยังรวบรวมเอาของขวัญแสดงความยินดีที่ เข้าท่าเข้าทีสักชิ้นออกมาไม่ได้ จะเดือดร ้อนให้ภูเขาลั่วพั่วต้องขาย หน้าเพราะเรื่องนี้ไม่ได้
ได้ฟังหมี่ลี่น้อยเล่าเรื่องวงในเกี่ยวกับงานเลี้ยงท่องราตรีของ ขุนเขาเหนือมามากมาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขาสายน้าและผู้ฝึ ก
ลมปราณของแต่ละฝ่ ายที่เข้าร่วมงานเลี้ยงท่องราตรีในแต่ละครั้ง แต่ ละคนฮึกเหิมองอาจ มือเติบใจป้ ากันมาก
เพียงแค่เพราะหลังจากเหล่าขุนนางหญิงของกองระเบียบพิธีการ ภูเขาพีอวิ๋นที่บันทึกชื่อรับของขวัญที่ตีนเขาเรียบร ้อยแล้ว พวกนางก็ จะต้อง “ร ้องขานชื่อ” เสียงดัง เป็ นใคร มาจากภูเขาลูกไหน มอบ ของขวัญร่วมแสดงความยินดีอะไรบ้าง ล้วนพูดอย่างชัดเจน
ตอนนั้นหมี่ลี่น้อยหัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง ความคิดดีๆ พลันบังเกิด จึงยกตัวอย่างที่เห็นภาพอย่างมาก บอกว่าฟังแล้วเหมือนการแจ้ง รายการอาหารเลย
เซียนเว่ยถึงขั้นสามารถจินตนาการได้ถึงภาพที่ “แขกผู้ยิ่งใหญ่” ซึ่งเข้าแถวอยู่ด้านหลังยังไม่ได้เอาของขวัญร่วมแสดงความยินดี ออกมา ได้ยินการร ้องขานชื่อในแต่ละครั้งของคนที่อยู่เบื้องหน้า ใน ใจก็คงคิดคานวณโดยหักลบเป็ นน้าหนักของเงินเทพเซียนไปด้วย จากนั้นก็กัดฟันแข็งใจเพิ่มน้าหนักของของขวัญร่วมแสดงความยินดี หรือไม่ก็จ านวนของเงินเทพเซียนให้มากขึ้น ก่อนจะดื่มเหล้าของงาน เลี้ยงท่องราตรีก็คงเมาไปก่อนแล้วกระมัง?
งานพิธีแต่งตั้งประทานฉายาเทพที่อริยะปราชญ์ของศาลบุ๋นเป็ น ผู้ดาเนินพิธีในครั้งนี้ ภูเขาพีอวิ๋นยังไม่อาจเชิญป๋ ายเหย่และอาจารย์จ วินเชี่ยนให้ไปร่วมงานได้
แต่งานเลี้ยงท่องราตรีครั้งนี้กลับยังคงเรียกได้ว่าส่องแสงเจิดจรัส ดั่งดวงดารา กลุ่มดวงดาวประชันแสงพร่างพราว
การปรากฏตัวของฝูลู่อวี๋เสวียนแห่งภูเขาเถาผู้แผ่นดินกลางท า ให้คนทั่วทั้งอาณาเขตขุนเขาเหนือตกตะลึงกันอย่างหนัก
นี่ถึงได้ทาให้วันนี้บุคคลอันดับหนึ่งบนภูเขาของหลิวเสียทวีป อย่างจิงเฮาขอบเขตบินทะยานที่มีฉายาว่าชิงกงไท่เป่ าดูไม่สะดุดตา ถึงเพียงนั้น
พูดถึงแค่ทางฝั่งของภูเขาลั่วพั่วก็มีเจ้าส านักสองท่านปรากฏตัว พร ้อมกัน เฉินผิงอันและลูกศิษย์ชุยตงซาน
และยังมีผู้คุมกฏฉางมิ่ง ผู้ถวายงานอันดับหนึ่งโจวเฝยแห่งภูเขา ลั่วพั่ว และเฉินผิงอันยังพาลูกศิษย์คนแรกอย่างเผยเฉียนและผู้ถวาย งานพิทักษ์ภูเขาโจวหมี่ลี่มาด้วย ยังมีเด็กชายชุดเขียวกับเด็กหญิง ชุดกระโปรงชมพู รวมไปถึงเด็กสาวสวมหมวกขนเตียวที่ตอนที่ร ้อง ขานชื่อหน้าประตูภูเขาว่ากันว่าคือเซี่ยโก่วผู้ถวายงานอันดับรองแห่ง ภูเขาลั่วพั่ว
ราชส านักต้าหลีให้เจ้ากรมพิธีการเดินทางมาร่วมแสดงความ ยินดีที่ภูเขาพีอวิ๋น แม้ว่าฮ่องเต้จะไม่ได้เสด็จมาเยือนด้วยตัวเอง แต่ก็ เขียนสาส์นอวยพรด้วยลายมือตัวเอง แซ่สกุลเสาค้ายันแคว้น มากมายก็มาร่วมงานด้วย
เซี่ยหลิงแห่งส านักกระบี่หลงเฉวียนที่เพิ่งออกจากด่านเลื่อนเป็ น ขอบเขตหยกดิบเป็ นตัวแทนอาจารย์หร่วนฉงและเจ้าส านักหลิว เสี้ยนหยางนาของขวัญร่วมแสดงความยินดีมามอบให้ ขณะเดียวกัน ก็ยังนาของขวัญที่เทียนจวินเซี่ยสือแห่งอุตรกุรุทวีปให้เซี่ยหลิงผู้เป็ น หลานในตระกูลตัวเองน ามามอบต่อมาด้วย
ทว่านี่ยังไม่ใช่สิ่งที่ทาให้จิตแห่งมรรคาของผู้คนไม่มั่นคงที่สุด เพียงแค่เพราะเซี่ยหลิงที่ควักของขวัญร่วมแสดงความยินดีชิ้นแล้ว ชิ้นเล่าออกมาแล้ว สุดท้ายของขวัญที่เป็ นสมบัติก้นกรุของเขาถึงกับ มาจากลู่เฉินเจ้าลัทธิแห่งป๋ ายอวี้จิง!
ต่อจากนั้นก็ยังมีบัณฑิตคนหนึ่งที่มีนามว่าซินจี้อันที่เดินทางไป เยือนศาลชิวเฟิงกับสหายรักมารอบหนึ่ง ได้ช่วยนาของขวัญแสดง ความยินดีมามอบแทนฝ่ ายหลัง ตอนที่ร ้องขานชื่อ ชื่อที่เอ่ยคือเฉิน ชิงหลิว!
ซินจี้อันมังกรแห่งถ้อยคา คนพิฆาตมังกรเฉินชิงหลิว สองชื่อที่มี ความหมายไม่ธรรมดา หากแยกกันมาร่วมแสดงความยินดี คนอื่น อาจจะยังเกิดการคาดเดาอยู่บ้าง ไม่กล้าแน่ใจว่าเป็ นจริงหรือเท็จ
แต่เมื่อนาสองชื่ออย่างซินจี้อันและเฉินชิงหลิวมาไว้ด้วยกัน ยาม ที่ถูกเทพหญิงขุนนางหลักของกองระเบียบพิธีการขานออกมาด้วย เสียงสั่นๆ ถึงขั้นที่ว่ายังนาพู่กันในมือส่งมอบให้กับบัณฑิตคนนั้น บอกว่าซานจวินมีคาสั่ง ให้นางบังอาจขอร ้องให้อาจารย์ช่วยเขียนชื่อ
ทั้งสองลงไปด้วยตัวเอง ทิ้งผลงานน้าหมึกที่แท้จริงเอาไว้….ถ้าอย่าง นั้นต่อให้เป็ นคนโง่ก็ยังรู ้ว่าพวกเขา…ก็คือพวกเขาแล้ว!
ซานจวินห้ามหาบรรพตของแจกันสมบัติทวีปในครั้งนี้ ศาลบุ๋น แผ่นดินกลางเป็ นผู้ด าเนินการงานพิธี แยกกันมอบ “ฉายาเทพ” ให้ ซึ่งงานพิธีจะถูกจัดขึ้นในวันและเวลาเดียวกัน
ดังนั้นฝ่ ายที่ครึกครื้นสุดขีดจึงไม่ได้มีเพียงภูเขาพีอวิ๋นเท่านั้น จวนซานจวินห้ามหาบรรพตล้วนมีแขกเหรื่อมากมายดั่งหมู่เมฆ เสียง ผู้คนพลุกพล่านดั่งน้าเดือดในหม้อ ต่างร่วมแรงร่วมใจกันประกอบ พิธีอันยิ่งใหญ่
ภูเขาเช่อจื่อมหาบรรพตกลาง ซานจวินจิ้นชิงได้รับฉายาที่ทาง ศาลบุ๋นประทานให้คือค าว่า “หมิงจู๋”
เหมิงหรงแห่งภูเขาชี่ซานมหาบรรพตตะวันออก ได้รับฉายาเทพ ว่า “อิงหลิง” ความหมายยิ่งใหญ่เกินกว่าจะจินตนาการได้ถึง!
มหาบรรพตเหนือภูเขาพีอวิ๋น เว่ยป้ อ ได้รับฉายาเทพว่า “เย่ โหยว” ไม่น่าประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย หากไม่ใช่ฉายานี้ นั่นแหละ ถึงจะเป็ นเรื่องน่าแปลกใจ
ถงเหวินช่างแห่งภูเขากานโจวมหาบรรพตตะวันตก ฉายาเทพ คือ “ต้าเต้า” ภูเขาจือถงมหาบรรพตใต้ ฟ่ านจวินเม่าซานจวินหญิง ฉายาเทพของนางถึงกับเป็ นค าเรียกขานของภูเขาอีกคาหนึ่งอย่าง “ชุ่ยเวย!
เต้าหลิงอาจารย์ใหญ่หนึ่งในสิบลูกศิษย์เอกแห่งศาลบุ๋น รับผิดชอบจัดงานพิธีของขุนเขาเหนือ
ผู้ฝึกตนใหญ่ที่มาร่วมงานที่ภูเขาพีอวิ๋นในวันนี้ก็มีอวี๋เสวียน ซิน จี้อัน จิงเฮา คนที่ให้ผู้อินน าของขวัญร่วมแสดงความยินดีมามอบให้ แทนก็มีลู่เฉิน เฉินชิงหลิว เซี่ยสือ….
เมื่อเป็ นเช่นนี้ หากว่ากันด้วยด้านของอานาจบารมี ในบรรดา ห้ามหาบรรพตของหนึ่งทวีป ภูเขาพีอวิ๋นก็คือผู้นาอันดับหนึ่งอย่าง สมศักดิ์ศรี
เวยป้ อที่สวมชุดคลุมตัวยาวสีขาวหิมะ ตรงหูห้อยห่วงสีทองรับ ม้วนภาพที่ปรมาจารย์มหาปราชญ์เขียนฉายาเทพด้วยตัวเองมาจาก มือของอาจารย์ใหญ่อย่างนอบน้อม
เว่ยป้ อประสานมือคารวะแล้วก็หมุนตัวคลี่กางม้วนภาพออก สอง ค าว่า “เย่โหยว” จ าแลงกลายเป็ นสีทองพร่างพราว มหามรรคาจ าแลง อยู่เหนือยอดเขาพีอวิ๋น ผสานกลมกลืนเป็ นหนึ่งเดียวกับโชคชะตา ภูเขาสายน้าของมหาบรรพตอุดร
อันที่จริงงานพิธีแต่งตั้งครั้งนี้ไม่ได้มีพิธีการที่ยิบย่อยอะไร ออกจะ เรียบง่ายด้วยซ้าอาจารย์ใหญ่ที่สวมชุดผ้าฝ้ ายสีเขียวห้อยกระบวยตัก น้าไว้ตรงเอวอ่านบทความของอริยะปราชญ์บทหนึ่งแล้วก็กล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร ์ของมหาบรรพตอุดรใน แจกัน สมบัติทวีปคร่าวๆ ประทานฉายาเทพให้กับเว่ยป้ อแห่งขุนเขาเหนือ
สุดท้ายอาจารย์ ใหญ่ก็เอ่ยถ้อยค ามงคล ไพเราะน่าฟัง” กับเว่ยป้ ออีก สองสามประโยค เท่านี้ก็เป็ นอันเสร็จพิธี
อาจารย์ใหญ่กับอริยะปราชญ์ของศาลบุ๋นอีกสี่คนที่เหลือ ลูก ศิษย์ผู้สืบทอดของปรมาจารย์มหาปราชญ์ต่างก็ไม่ได้รั้งรออยู่นาน เมื่องานพิธีแต่งตั้งจบแล้วก็เอ่ยขอตัวลากลับไปแทบจะเวลาเดียวกัน
แต่กลับไม่ได้กลับไปยังศาลบุ๋นแผ่นดินกลาง
แต่ไปที่ริมแม่น้าสายหนึ่งที่ชื่อสมัยโบราณคือเสาโจว ปัจจุบันคือ แม่น้าพ่านสุ่ยบทเพลงโบราณชื่อว่า “เสา” ขงจื๊อกล่าวว่ามีความ งดงามและความดีงามครบถ้วน
ผู้เฒ่าเรือนกายสูงใหญ่คนหนึ่งยืนอยู่ริมน้า ข้างกายยังมีหลี่เซิ่ง ที่บุคลิกอบอุ่นอ่อนโยน หย่าเซิ่งที่สีหน้าเคร่งขรึมและซิ่วไฉเฒ่าที่ เสียใจอย่างถึงที่สุดยืนอยู่ด้วย



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!