เข้าสู่ระบบผ่าน

กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 1083

ณ จุดที่เป็ นหนึ่งในภาพสะท้อนของจิตใจทั้งหลาย

“เฉินผิงอัน” ที่เป็ นจิตมารด่าจนเหนื่อยแล้วก็ถอนหายใจหนักๆ สิ่งที่เรือนกายของมนุษย์ธรรมดาไร ้ซึ่งขอบเขตมองเห็นในสายตา กลับเห็นฟ้ าดินสี่ทิศได้ในเวลาเดียวกัน

ทิศหนึ่งคือปรมาจารย์มหาปราชญ์ที่นาพาสิบศิษย์เอกและ บัณฑิตแห่งยุคบรรพกาลสามพันปี ซึ่งเป็ นเจ็ดสิบสองปราชญ์ของ ศาลบุ๋นออกทัศนาจรท่องไปในโลกมนุษย์ด้วยขบวนเดินทางที่ ยิ่งใหญ่อลังการ

ทิศหนึ่งเหมือนจะเป็ นแท่นประกอบพิธีกรรมบางแห่งของดินแดน พุทธะสุขาวดี มังกรคชสารแห่งลัทธิพุทธ หลวงจีนสมณศักดิ์สูง อรหันต์ร่างทอง ทับซ ้อนกันเป็ นชั้นๆ ไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย กลายเป็ นกายธรรมอันยิ่งใหญ่โอฬารของพระโพธิสัตว์สี่องค์ รวมไป ถึงพระพุทธเจ้าที่ยืนตระหง่านค้าฟ้ าดินอยู่ในจุดที่สูงยิ่งกว่า

ทิศหนึ่งคือมรรคาจารย์เต๋าที่ถือประคองป๋ ายอวี้จิงไว้ในฝ่ ามือ ใน ห้านครสิบสองหอเรือนมีเหล่านักพรตและเซียนจวินนับไม่ถ้วน ประหนึ่งกระเรียนรวมฝูง หลิงกวานหลายร ้อยตนยืนตระหง่านอยู่ที่ ปลายฟ้ าคราม โอบล้อมปกป้ องป๋ ายอวี้จิ่ง

ทิศหนึ่งคือตัว “เฉินผิงอัน” เอง ใบหน้าประดับยิ้มน้อยๆ เรือน กายสูงจนแยกไม่ออกว่าเป็ นร่างจริงหรือกายธรรม สองนิ้วประกบกัน ตั้งอยู่เบื้องหน้า หลุบตาลงมองจิตมารที่เล็กจ้อยเหมือนมดตัวน้อย

นาทีถัดมาขนาดกลับพลิกสลับกัน จิตมารสูงใหญ่เหมือนขุนเขา ทั้งหมดในโลกทับซ ้อนเข้าด้วยกัน เรือนกายใหญ่โตราวดวงดาว ทัศนียภาพของสี่ทิศเบื้องหน้าพลันเล็กจ้อยราวฝุ่ นผง กลายมาเป็ น จิตมารเฉินผิงอันที่หลุบตามองลงมาจากที่สูง

เฉินผิงอันที่ประกบสองนิ้วสวมชุดเขียวซึ่งเป็ นภาพลวงตานั้นเงย หน้าขึ้น ยิ้มบางๆ เอ่ยสองค าดังเหมือนเสียงฟ้ าค าราม ปากอมกฎ สวรรค์ ค าพูดออกจากปากคาถาอาคมตามติด“อธรรม”

เสียงสะท้อนดังก้องอยู่ในฟ้ าดิน ราวกับได้เอ่ยค าว่า ‘อธรรม” ติดต่อกันไม่หยุดนับร ้อยล้านครั้ง

จิตมารตนนี้แหลกสลายคาที่กลายเป็ นเถ้าธุลี กระจายหายไปใน “ซากปรักสนามรบ” ที่ตั้งอยู่ใจกลางของเขาวงกต หลอมรวมเข้าไป ในโครงกระดูกขาวโพลนที่มีมากมายนับไม่ถ้วน

กองกันเป็ นภูเขา กลายเป็ นเนินแห่งหัวกะโหลก ภาพฉากในฝัน มีทั้งหมดแค่แปดสิบฉาก ทว่า “เฉินผิงอันคนเดียวกัน” กลับอาจจะ ต้องเดินผ่านฉากฝันนั้นร ้อยพันครั้ง หรืออาจถึงหนึ่งหมื่นครั้ง

เฉินผิงอันที่ดวงตาทั้งคู่เป็ นสีทองบริสุทธิ์นั่งอยู่บนยอดเขาเนิน กระดูก ส่ายหน้า ดูท่าคงจะไม่พอใจกับผลสาเร็จในตอนนี้สักเท่าไร

ความคืบหน้าช ้าเกินไป พึมพ ากับตัวเองว่า “ดูท่าพวกเราคงต้อง เปลี่ยนมาใช ้เส้นสายที่อยู่ด้านล่างสุดถึงจะได้แล้วล่ะ”

สร ้าง “เขาวงกต” ชั้นที่หกขึ้นมากับมือตัวเอง ภาพเหตุการณ์ใน จิตใจเรียกได้ว่าซับซ ้อนยิ่ง อีกทั้งเมื่อเวลาผันผ่าน สิ่งที่ยันต์ร่างแยก ทั้งเก้าได้พบเห็นและได้ยินจะยิ่งซับซ ้อนหลากหลาย คนที่เป็ นขุนนาง ผู้ตรวจสอบตาราอยู่ในเรือนไม้ไผ่จะต้องคอยเสริมเนื้อหาของตารา เล่มนี้อย่างต่อเนื่อง คนนอกที่ตอนนี้ “เป็ นรูปเป็ นร่าง” แล้วมีมากถึง สามแสนกว่าคน คนที่พอจะมีเค้าโครง ช่วงนี้ก็เพิ่มมาอีกถึงสองพัน กว่าคน

สังหารโจรในใจก็คือการฆ่าตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ฆ่าไปฆ่ามา ทุกคนล้วนเป็ น “เฉินผิงอัน” หลากบุคลิกหลากที่มา รวมไปถึงตัวเอง ที่เดินวนเวียนมิอาจออกไปจากเขาวงกตแห่งนี้ได้

คนชุดเขียวพลันเผยกายออกมาจากความว่างเปล่า สองมือหด อยู่ในชายแขนเสื้อ เฉินผิงอันตัวจริงที่จาแลงมาจากดวงจิตดวงหนึ่งผู้ นี้หรี่ตากล่าว “จะหยุดแค่ตรงนี้แล้วหรือ?”

เผชิญหน้ากับคอขวดขอบเขตก่อก าเนิด เผชิญหน้ากับจิตมาร ผู้ฝึกบ าเพ็ญตนไม่มีค าว่า “คนมีพรสวรรค์” ใดๆ ให้เอ่ยถึง

มีเพียงคนมีพรสวรรค์ท่ามกลางคนมีพรสวรรค์อย่างหนิงเหยา ฝู ลู่อวี๋เสวียนเท่านั้นที่ต่อให้เผชิญหน้ากับจิตมารโดยตรงก็ยังสามารถ เดินข้ามผ่านไปได้อย่างสบายๆ

เฉินผิงอันก็ได้แต่…ใช ้ความมานะชดเชยข้อด้อยของตัวเองแล้ว

ตอนนั้นอวี๋เสวียนที่อยู่บนยอดเขาคิดว่านี่เป็ นถ้อยคาล้อเล่นของ สหายเฉิน

หากเจินเหรินผู้เฒ่าได้มาเห็นซากปรักสนามรบที่มีแต่โครง กระดูกกลาดเกลื่อนอยู่ทุกที่แห่งนี้กับตาตัวเอง บางทีอาจจะทอดถอน ใจเอ่ยอย่างปลงอนิจจังว่าสหายเฉินไม่ได้พูดโกหก ปฏิบัติต่อคนอื่น ด้วยความจริงใจ

เฉินผิงอันชุดขาวที่มีดวงตาสีทองเอ่ยเย้ยหยันตัวเองว่า “แค่ พอสมควรก็พอแล้ว กฎเดิม หยุดแค่พอสมควร ผู้ฝึกยุทธเต็มตัวมา ฝึกหมัดอยู่ที่นี่ก็ฝึกหมัดได้หลายพันหลายหมื่นหมัดแล้ว ผู้ฝึกกระบี่ มาฝึ กเวทกระบี่ อนุมานวิถีแห่งกระบี่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้นานแค่หมื่นปี เท่านั้น แม้กระทั่งวิธีการสารพัดอย่างซึ่งมียันต์เป็ นหนึ่งในนั้นก็เรียนรู ้ มาพอสมควรแล้วเหมือนกัน เมื่อครู่ในหัวของจิตมารตนนี้ถือว่าเป็ น ส่วนน้อยที่ดีที่สุดในบรรดาพวกเราหลายหมื่นคนแล้ว คิดไปได้แล้ว ว่าขอบเขตของเขาวงกตก็คือขอบเขตของค าพูดและความคิด น่า เสียดายนัก”

น่าเสียดายที่ร่างแยกทั้งเก้าคอยมองคนมองเรื่องราวอ่านตาราอยู่ ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างแยกของผู้ฝึกลมปราณที่ความคิด ผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ควบคุมจิตใจที่เป็ นดั่งวานรเตลิดดั่งม้า พยศที่คาพูดและการกระทาเป็ นดั่งการ “บุกเบิกฟ้ าดิน

เป็ นเหตุให้ “เฉินผิงอัน” ทุกคนที่อยู่ในปัจจุบันล้วนไม่อาจแตะไป โดนขอบเขตได้

ความเร็วในการไหลหายไปของเวลาที่นี่สามารถมองข้ามไปได้ เลย ดังนั้นกรงขังเขาวงกตที่ไม่มีทางออกแห่งนี้ ขอแค่มีวันหนึ่งที่เฉิน ผิงอันทาลายจิตมารเลื่อนเป็ นห้าขอบเขตบนได้ ก็จะกลายเป็ น….

ขอบเขตไร ้ที่สิ้นสุด

ความน่าเสียดายอีกอย่างก็คือในฟ้ าดินของภาพสะท้อนแห่ง จิตใจนี้ เวทกระบี่ วิชาหมัดและวิชาอภินิหารทุกอย่างของยันต์ที่เฉิน ผิงอันบรรลุมาได้ ล้วนเป็ นดั่งหอเรือนกลางอากาศ เป็ นดั่งบุปผาใน คันฉ่องจันทราในสายน้า ขอบเขตของผู้ฝึกตนและของผู้ฝึกยุทธที่ ได้มาจากสิ่งเหล่านี้ล้วนต้องคืนกลับไปสู่ความว่างเปล่า ถึงขั้นที่ว่า แม้กระทั่งสภาพจิตใจอันลี้ลับมหัศจรรย์และสภาพจิตใจของผู้ฝึกยุทธ บางอย่างก็ยังน าไปด้วยไม่ได้ แต่น่าเสียดายก็ส่วนน่าเสียดาย ใช่ว่า จะไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย ตรงข้ามกันเลยด้วยซ้า คาว่าน่า เสียดายของเฉินผิงอันชุดขาวก็แค่หมายถึงการลดทอนครั้งใหญ่ อย่างหนึ่ง ก็แค่รังเกียจว่าการหว่านไถและผลเก็บเกี่ยวไม่ได้มาก เท่าที่ควรเท่านั้น พูดถึงแค่การตรวจสอบชดเชยช่องโหว่ของกระบวน ท่าหมัดบางอย่าง การฝึกฝนซ้าแล้วซ้าเล่าจนเข้าขั้นชานาญ หรือ ยกตัวอย่างเช่นสายของการวาดยันต์ ยันต์หลายสิบชนิดที่เมื่อก่อน เฉินผิงอันพูดได้แค่ว่าวาดได้ พอจะวาดได้ส าเร็จ ก็ล้วนถือว่าบรรลุ หลอมรวมสู่ความสมบูรณ์ขั้นสูงสุดแล้ว ถึงขั้นที่ว่ายังคิดค้นยันต์

ใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการได้อีกสิบกว่าชนิด ขอแค่ในอนาคต เฉินผิงอันเก็บร่างแยกทั้งหมดกลับไปแล้วเริ่มลงมือวาดยันต์ที่ถูก อนุมานออกมาพวกนี้อย่าง “แท้จริง” ต่อให้จะมีแค่ยันต์ชนิดเดียวที่ สามารถเอามาใช ้ได้จริง แต่สุดท้ายเฉินผิงอันกลับวาดได้ส าเร็จ ก็ ล้วนถือเป็ นก าไร

เฉินผิงอันชุดเขียวถาม “ไม่สามารถเดินข้ามขอบเขตหยกดิบ และขอบเขตเซียนเหรินไปได้หรือ?”

เฉินผิงอันชุดขาวหัวเราะเยาะ “หากฝันไป แน่นอนว่าต้องท าได้” เงียบงันกันไปนาน ฟ้ าดินมีแต่ความเงียบสงัด เขาถาม “กู้ช่านมองออกถึงความผิดปกติของพวกเราได้จริงๆ

หรือ?”

เขาตอบ “มองออก แต่เขามั่นใจในตัวข้า” “ข้ารู ้สึกว่าพวกเราน่ากลัวมาก” “ดังนั้นจึงไม่อาจให้คนนอกรู ้ได้” “ข้ารู ้สึกว่าเจ้าน่ากลัวยิ่งกว่า”

ทุกเรื่องราว “เจ้า” ไม่ยินดีจะย้อนนึกถึงอดีตที่เคยเกิดขึ้น พวก มันก็จะกลายเป็ น “การลืมเลือน กลายมาเป็ นลูกกรงและคุกที่ยิ่ง กักขัง “ข้า” ที่มีความเป็ นเทพได้แน่นหนามากขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็อย่ามาหาเรื่องข้า อย่าได้หวังว่าจะมีการแบ่ง เขาแบ่งเรา แล้วพยายามที่จะเปลี่ยนจากแขกกลายมาเป็ นเจ้าบ้าน ขอแค่มีความคิดนี้ สุดท้ายจุดจบจะเป็ นเช่นไร พวกเราล้วนรู ้ชัดเจน ดี”

เขายิ้มมองไปยังจุดหนึ่ง นั่นคือกุญแจดอกสุดท้ายของเขาวงกต ภาพเหตุการณ์ก็คือตรอกหนีผิงของบ้านเกิด เด็กน้อยสะพายตะกร ้า ไม้ไผ่คนหนึ่งกับตัวเองหลังจากเติบใหญ่แล้ว

บทที่ 1083.1 ไม่สู้ไปอ่านหนังสือ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!