เข้าสู่ระบบผ่าน

กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 1088

พวกสตรีปากมากมักจะหาสารพัดค าด่ามาด่านาง พวกบุรุษก็ อยากจะนอนกับนาง

ทุกวันมีชีวิตอยู่ท่ามกลางคาซุบซิบนินทาที่ผู้คนเปลี่ยนสารพัด วิธีมาเหยียบย่าดูแคลนนาง

หากไม่เป็ นเพราะนางสามารถเปิดเตาไฟขนาดเล็กท าอาหาร ให้กับหม่าเช่อได้ อีกทั้งหม่าเช่อยังเป็ นวัตถุดิบของคนที่จะเป็ นจ้วง หยวนซึ่งผู้คนให้การยอมรับ ก็ไม่แน่เสมอไปว่านางจะหนีพ้นเงื้อมมือ ของบุรุษสกุลหม่าบางคนมาได้

นางเป็ นแม่ครัวอยู่ในจวนหม่ามานานหลายปีแล้ว ทุกวันจะต้อง พกกรรไกรด้ามหนึ่งไว้ป้ องกันตัวอยู่เสมอ

เมื่อป่ากว้างใหญ่ ไม่ว่านกประเภทใดก็ล้วนมีหมด

ทว่าในหลุมส้วมกลับมีแค่ฉี่แค่อาจมเท่านั้น

เด็กหนุ่มที่ชื่อว่าหม่าเช่อผู้นั้นคือเมล็ดพันธ ์บัณฑิตที่มีพรสวรรค์ โดดเด่น คนทั่วทั้งราชส านักต่างก็รู ้สึกว่าในอนาคตเขาจะต้องเป็ น นักปราชญ์เป็ นวิญญูชนของส านักศึกษากวานหูได้อย่างแน่นอน

เด็กหนุ่มหม่าเช่อที่วันหน้าจะต้องกลายมาเป็ นขุนนางผู้สูงศักดิ์ แห่งแคว้นอวี้เซวียนได้อย่างแน่นอนเคยหน้าแดงหูแดง หอบหายใจ

หนักหน่วง กอดสตรีเรือนกายอวบอิ่มจากด้านหลังแล้วถูไถนางอยู่ พักหนึ่ง

วันนี้สตรีง่วนทางานอยู่ในห้องครัวอีกครั้ง นึ่งซาลาเปาหลายซึ้ง ไส้มีหลากหลายชนิดยกตัวอย่างเช่นหากเป็ นปลาเจี่ยจะเลือกเอาแต่ เนื้อขอบครีบ ปลากุ้ยเลือกเอาแต่เนื้ออ่อนหลังกระพุ้งแก้มสองข้าง และยังมีเห็ดชนิดหนึ่งที่ขึ้นบนจอมปลวกที่รสชาติยอดเยี่ยมอย่างถึง ที่สุด

แม่ครัวคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องครัวต่างก็พากันขยับหนีออกห่าง หญิงแพศยาที่ชื่อว่าอวี๋ชิ่งผู้นี้

นางยื่นมือไปลูบเส้นผมสีนิลตรงจอนหู หันหน้าไปมองคนชุด เขียวที่นั่งอยู่บนธรณีประตูที่เป็ น…..มือกระบี่?

นางคล้ายจะรู ้สึกสงสัยไม่เข้าใจ ในต าราบอกว่าวิญญูชนควรอยู่ ให้ไกลจากห้องครัวลูกหลานสายต่างๆ ของสกุลหม่าไม่เคยมีใครมา ที่ห้องครัวหรอกนะ แน่นอนว่าพวกเขารู ้สึกว่าที่นี่มีคนเยอะหูตา มากมาย

ห่างจากห้องครัวไปไม่ไกล บนก้อนหินที่อยู่ใต้ซุ้มดอกไม้วาง ดอกกล้วยไม้มีชื่อราคาแพงเอาไว้สิบกว่ากระถาง ล้วนเป็ นนางที่ให้ การดูแลอย่างใส่ใจมาโดยตลอด

ห้องอาหารส่วนตัวของสกุลหม่าอ าเภอหย่งเจียสามารถท าให้ ตระกูลชนชั้นสูงของเมืองหลวงแคว้นอวี้เซวียนยกนิ้วโป้ งให้ได้ พวก

นักกินตัวยง ยากนักที่จะบอกว่าใครดี ปากมักจะติดค าพูดท านองว่า ท าไมผักกาดขาวของพวกเราถึงได้อร่อยกว่าข้างนอก? ก็เพราะเทพ ห้ารสลูกน้องของท่านเทพเจ้าแห่งเตาไฟอยู่แค่ที่เมืองหลวงเท่านั้น แต่พอพวกเขาได้ชิมอาหารของห้องอาหารส่วนตัวจวนหม่าแล้วกลับ ต้องร ้องว่ายอดเยี่ยมกันทุกคน

เฉินผิงอันใช ้เสียงในใจยิ้มเอ่ย “เดิมนึกว่าเจ้าคือสายที่ถูกกู้ช่าน จัดตัวมาไว้ที่นี่ ตอนนี้ดูท่าจะไม่ใช่เสียแล้ว แซ่ลู่หรือ?”

ลุกขึ้นยืนแล้ว เฉินผิงอันก็เดินเข้ามาในห้องครัว หยิบกระเทียม เปลือกม่วงสองสามหัวจากบนเตาไฟขึ้นมา บี้จนเปลือกแตก กาไว้ใน มือ แล้วจึงตักบะหมี่ปลาน้าใสชามหนึ่งให้ตัวเอง ยิ้มเอ่ยว่า “กินบะหมี่ ไม่กินกับกระเทียม เมื่อเทียบกับฆ่าคนไม่เห็นเลือดแล้ว ถึงอย่างไรก็ ยังขาดความหมายอยู่บ้างเล็กน้อย”

อวี๋ชิ่งเพียงแค่เหม่อมองแขกไม่ได้รับเชิญที่ทาตัวประหลาดคน นั้น ส่วนสตรีคนอื่นๆ ในห้องครัวคงเป็ นเพราะถูกพลังอานาจของคน ผู้นี้ทาให้ตื่นตะลึงกันไปอย่างสิ้นเชิงจึงไม่มีใครกล้าส่งเสียง

เฉินผิงอันเอนกายพิงเตาไฟ ก่อนจะขยับตะเกียบ เขายิ้มเอ่ยว่า “สกุลหม่าตรอกซิ่งฮวาติดหนี้ตระกูลข้าก้อนหนึ่ง ไม่มาก แค่เงินแปด เฉียนเท่านั้น ไม่ถึงหนึ่งตาลึง แต่ตอนนั้นกลับไม่ถือว่าเป็ นเงิน เล็กน้อยสาหรับที่บ้านเกิดข้าแล้ว เมื่อก่อนข้าปลุกความกล้าทาหน้า หนาไปทวงเงินถึงบ้านสองครั้ง ก็ยังไม่ได้มา เวลาผ่านตรอกซิ่งฮวา จานวนครั้งที่ไม่ได้เคาะประตูกลับมีมากยิ่งกว่า กินบะหมี่ชามนี้ไปแล้ว

หนี้ก้อนนี้ก็ถือว่าหายกันแล้ว หม่าขู่เสวียนนับว่ายังมีใจ ถึงได้เชิญ เจ้าออกจากภูเขามาปกป้ องสกุลหม่าอยู่ที่จวนแห่งนี้ได้”

สตรีโตเต็มวัยผินตัวเบี่ยงข้าง ยอบกายคารวะอย่างแช่มช ้อย ยิ้ม พูดด้วยรอยยิ้มนุ่มนวลเย้ายวน “ท่านก็คือเจ้าขุนเขาเฉินสินะ?”

เฉินผิงอันวางชามและตะเกียบลง ส่งเสียงเรอดัง “รสชาติเวลามา ทวงหนี้ถึงบ้านคนอื่นนี่ไม่เลวเลยจริงๆ กินดื่มอิ่มหนา ถ้าอย่างนั้นก็ เริ่มงานได้แล้ว”

อวี๋ชิ่งคลี่ยิ้มหวาน “หรือว่าลูกศิษย์ของเหวินเซิ่งจะเปิ ดฉาก สังหารคนอย่างพร่าเพื่อกลางวันแสกๆ เช่นนี้?”

เฉินผิงอันยื่นมือมาตบเตาไฟ ฝ่ ามือก็มีแสงสีทองส่องประกายวิบ วับ เส้นสีทองจานวนนับไม่ถ้วนแผ่ขยายลามออกไป ตรงดิ่งไปที่หน้า ประตู ก่อนที่เขาจะหันหน้ามายิ้มเอ่ย “หวังว่าคราวหน้าที่พวกเราเจอ กัน เจ้าจะยังพูดแบบนี้ได้อยู่อีก”

อวี๋ชิ่งหรี่ตาลง สองนิ้วของนางคีบยันต์สีทองแผ่นหนึ่ง กวาดตา มองไปรอบด้านก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโดยรอบ เหมือนนางได้เข้าไปอยู่ในจวนเซียนแห่งหนึ่ง

ท่ามกลางการมองเห็นของนางมีขุนเขาเขียวยิ่งใหญ่โอฬารที่ ตั้งอยู่อย่างเดียวดายตรงตีนเขามีลาคลองยาวน้าใส สิ่งปลูกสร ้างใน ภูเขาเรียงรายลดหลั่นกันมา แน่นถี่แต่กลับงามประณีติ นกกระเรียน เซียนบินวนอยู่กลางอากาศ

อวี๋ชิ่งก้มหน้าลงมองก็เห็นเป็ นเพดานทรงโค้งประหลาดที่ไม่ได้ ลอยอยู่กลางอากาศแต่กลับแนบติดพื้นดิน?

เห็นเพียงว่าตาแหน่งใจกลางของเพดานทรงโค้งนี้แกะสลักเป็ น รูปดอกบัวสีทองดอกหนึ่ง ด้านนอกมีมังกรสีเหลืองสองตัวที่คาบหาง กันและกันโอบล้อม ขยับห่างออกไปอีกหน่อยก็คือสิบหกนางฟ้ า ลวดลายซ ้อนกันเป็ นวงๆ ขยับออกไปข้างนอกอย่างต่อเนื่องสุดท้าย คือตัวอักษรเก่าแก่โบราณที่นางอ่านไม่ออก ตามหลักแล้วด้วย ขอบเขตและวิชาความรู ้ของนางต้องไม่กริ่งเกรงค่ายกลที่เป็ นภาพ มายาของฟ้ าดินประเภทนี้มากที่สุด แต่ปัญหานั้นอยู่ที่ว่านางกลับไม่ รู ้สึกเลยว่าที่แห่งนี้คือค่ายกล แต่เป็ นเหมือนดินแดนลี้ลับมหัศจรรย์ที่ ด ารงอยู่จริงเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็ นความมีเหตุผลหรือการอนุมาน โดยใช ้ตรรกะก็ล้วนบอกกับนางว่านี่คือค่ายกล ทว่าความรู ้สึกและ ลางสังหรณ์กลับบอกนางว่านี่คือดินแดนมายา

นางกลั้นหายใจ ไม่กล้าสูดลมหายใจอยู่ที่นี่อีกต่อไป เผายันต์ลับ ที่ใช ้กาหนดเวลาแผ่นนั้น สะบัดชายแขนเสื้อแล้วโยนเวทคาถาบท หนึ่งออกไปยังพื้นที่ว่างเปล่าห่างไปไกล ทันใดนั้นฝุ่ นผงก็ตลบ คละคลุ้ง นางขมวดคิ้วน้อยๆ ฟ้ าดินแห่งนี้นอกจากจะมีปราณ วิญญาณเปี่ยมล้นแล้วก็เหมือนว่าจะไม่มีความผิดปกติอย่างอื่นอีก อวี๋ชิ่งทรุดตัวลงนั่งยอง หยิบดินส่วนหนึ่งขึ้นมา บดขยี้จนกลายเป็ น ผุยผง นางเพ่งสายตามองดู ดินพวกนี้เป็ นของจริง นี่ทาให้อวี่ชิ่งรู ้สึก สับสนหนักเข้าไปอีก หรือว่าเป็ นวิชาจักรวาลในชายแขนเสื้อ ตะวัน

จันทราในกาน้าของพวกผู้ฝึกตนใหญ่บนยอดเขาทั้งหลาย? อีกทั้ง หากอิงตามบันทึกลับของตระกูลบางอย่าง ผู้ฝึกตนบนยอดเขาบาง คนก็สามารถพกถ้าสวรรค์และพื้นที่มงคลติดตัวไปได้ด้วย

อวี๋ชิ่งเรียกเจดีย์สมบัติที่มีหลังคาทับซ ้อนกันหลายชั้นขนาดจิ๋ว ชิ้นหนึ่งออกมา โยนไปกลางอากาศเบาๆ ปกป้ องพื้นที่รอบด้านที่ ตัวเองยืนอยู่ แล้วถึงได้ทะยานลมลอยตัวขึ้นช ้าๆ พยายามที่จะหลุบ ตาลงมองพื้นที่ลับแห่งนี้จากในมุมสูง เมื่อเรือนกายทะยานขึ้นสูง อวี๋ ชิ่งเห็นสะพานโค้งหยกขาวที่อยู่เบื้องหน้าอย่างชัดเจน บนราวสะพาน มีสัตว์หลากหลายประเภทนั่งอยู่ ด้านใต้สะพานยังแกะสลักเป็ นรูป ป้ าเชี่ยที่มีเกล็ดมังกร นอนหมอบมองน้า

ในที่สุดอวี๋ชิ่งก็สังเกตเห็น “คนตัวเป็ นๆ คนหนึ่งแล้ว คือหญิงสาว ที่สวมชุดขนนกสีเขียวมรกต ไม่ได้อยู่ในภูเขา แต่นางก าลังเดินเลียบ ริมน้าไปตามสายน้าใสที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด ฝีเท้าของนางไม่เร็ว อวี๋ ชิ่งลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังทะยานลมไปหาสตรีที่สวมชุดสีเขียวคนนั้น พลิ้วกายลงบนฝั่งตรงข้าม เห็นได้ชัดว่าสตรีคนนั้นก็มองเห็นอวี๋ชิ่ง แล้ว แต่กลับแค่เลิกเปลือกตาขึ้นมองแล้วก็เดินไปตามริมน้าต่ออีก ครั้ง เพียงไม่นานอวี๋ชิ่งก็สังเกตเห็นเบาะแส ทุกก้าวที่สตรีประหลาด คนนี้ก้าวเดิน ทิวทัศน์เล็กละเอียดข้างกายนางที่หากมองปราดๆ แทบ จะสังเกตไม่เห็นจะเปลี่ยนจากลายเส้นขาวดาเป็ นสีสัน นอกจากนี้ อาจจะยังมีการเพิ่มหยดน้าค้างสองสามหยดให้กับหญ้าที่อยู่ข้างทาง ให้ปลาหลีสีขาวหิมะตัวหนึ่งที่กระโดดพ้นมาจากผิวน้ากลายเป็ นสี

ทองอร่าม นี่นางกาลัง…ตรวจสอบชดเชยช่องโหว่ ช่วยเพิ่มเติมสีสัน ให้กับม้วนภาพแห่งฟ้ าดินอย่างนั้นหรือ?

อวี่ชิ่งก้มหน้าลงมองยันต์ในมือ จริงดังคาด ความเร็วในการไหล หายไปของเวลาที่แท้จริงเพิ่งจะผ่านไปแค่ประมาณชั่วลัดนิ้วมือ เท่านั้น แต่อวี๋ชิ่งที่คิดคานวณอยู่ในใจเงียบๆ กลับรู ้สึกว่าเวลาผ่านไป เกือบหนึ่งเค่อแล้ว นี่ทาให้อารมณ์ของอวี๋ชิ่งยิ่งหนักอึ้ง สตรีที่อยู่บน ฝั่งตรงข้ามหันหน้ามา ดวงหน้างดงามขาวนวลไร ้ต าหนิ แต่กลับมี ดวงตาว่างเปล่าเหมือนบ่อน้าโบราณไร ้คลื่นกระเพื่อม เมื่อนางจ้อง เป๋ งมายังอวี๋ชิ่งที่ “มีชีวิตชีวาอย่างถึงที่สุด สีหน้าของสตรีก็ซับซ ้อน สุดขีด มีทั้งความเย้ยหยัน เวทนา อิจฉาและเคียดแค้น….

อวี๋ชิ่งข่มกลั้นความรู ้สึกประหลาดในใจลงไป เปิดปากถามว่า “ไม่ทราบว่าสหายมีชื่อว่าอะไรหรือ?”

สตรีเปิดปากพูดด้วยน้าเสียงแหบพร่า “เจ้าสามารถเรียกข้าว่าสวี่ เจียวเชี่ย ชื่อจริงเผ่าปีศาจคือเซียวสิง มาจากเปลี่ยวร ้าง ดวงจิตดวง หนึ่งถูกกักขังไว้ที่นี่มานานหนึ่งหมื่นสองพัน “ชั่วลัดนิ้วมือ” แล้ว”

อวี๋ชิ่งยิ่งคลางแคลงไม่เข้าใจ จากการคานวณของอีกฝ่ายก็น่าจะ แค่หนึ่งวันหนึ่งคืนหรือสิบสองชั่วยามเท่านั้น

สตรีที่บอกว่าตัวเองชื่อสวี่เจียวเชี่ยพลันใบหน้าบิดเบี้ยว คล้าย กับเดาความคิดของอีกฝ่ายออก สิบนิ้วของนางขยุ้มข้างแก้มสองข้าง

ของตัวเอง “เพิ่งจะหนึ่งวันหนึ่งคืน เพิ่งจะอย่างนั้นหรือ?! สี่ล้านแปด แสน “ชั่วขณะ” สี่ล้านแปดแสน!”

บทที่ 1088.3 เหล้าเก่าในขวดดินเผา 1

บทที่ 1088.3 เหล้าเก่าในขวดดินเผา 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!