หญิงชราก้มหน้าลงมองบาดแผลด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่เห็น เป็ นส าคัญแม้แต่น้อยเอาแต่พร่าพูดหลักการเหตุผลของตัวเองต่อไป “แม่นางน้อยฟังค าแนะน าสักค า จิตใจจึงจะเป็ นนาบุญ คนคนหนึ่ง หากจิตใจเลวทราม พืชหญ้ารกชัฏก็จะก่อเกิด ทาให้ผลเก็บเกี่ยว ตลอดทั้งปีเสียหาย หากปีหนึ่งไม่มีผลเก็บเกี่ยวก็ต้องติดหนี้คนอื่น ติดหนี้ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยหนี้ทบหนี้เช่นนี้ก็คือความลาบากบนความ ลาบาก เกิดเป็ นวงจรไม่จบสิ้น เมื่อไหร่จึงจะถึงจุดสิ้นสุดเล่า”
สาวใช ้ชุดเขียวไม่ชอบฟังหลักการเหตุผลพร่าเพื่อที่ชวนให้คน ราคาญพวกนี้ นางยกเท้าถีบออกไป เตะหัวของหญิงชราจนร่างของ ฝ่ายหลังกระเด็นไปไกล
ศีรษะของหญิงชราจมอยู่ในโคลนกลิ้งหลุนๆ ไปหลายตลบ พูด ประโยคหนึ่งซ้าๆ ว่า “ผิดอีกแล้ว”
นาทีถัดมาสาวใช ้ชุดเขียวก็สังเกตเห็นว่าตัวเองกลับมายืนกลาง ทางใหม่อีกครั้ง ห่างไปไกลมีม้าตัวหนึ่งเดินมาช ้าๆ หญิงชราหยุดม้า ลงอีกครั้ง ถามเสียงแผ่วด้วยสีหน้ามีเมตตา “แม่นางจะไปที่ไหน หรือ?”
ไม่รอให้สาวใช้ชุดเขียวตอบ หญิงชราก็บังคับม้าให้ยกเท้าหน้า ขึ้นสูง พริบตานั้นหัวใจของฝ่ ายหลังก็ถูกเหยียบเป็ นรู เจ็บจนสาวใช้
ล้มทรุดไปกองกับพื้น หญิงชรายังคงมีสีหน้าเมตตาดังเดิม ครั้นจึง พลิกตัวลงจากหลังม้าช ้าๆ โบกแส้ตีม้าที่อยู่ในมือ เสียงเพี้ยะดัง เหมือนเสียงฟ้ าผ่า ฟาดแรงๆ ลงบนหัวของสาวใช ้จนหัวอีกฝ่ ายหลุด กระเด็นลอยขึ้นสูง ก่อนจะกระแทกลงพื้นหนักๆ เมื่อหัวกลิ้งหลุนๆ การมองเห็นของสาวใช ้ชุดเขียวก็เปลี่ยนไปไม่หยุดนิ่ง บ้างก็เห็นเป็ น
ฟ้ าคราม บ้างก็เห็นเป็ นดินโคลน
หญิงชราเอ่ยด้วยน้าเสียงอ่อนโยน ตักเตือนเสียงอ่อนราวกับเป็ น ผู้ใหญ่ในครอบครัว “แม่นาง ยังจะท าผิดอีกไหม?”
นาทีถัดมา สาวใช ้ชุดเขียวก็มายืนอยู่กลางถนนอีกครั้ง กีบเท้า ม้าดังกุบกับขยับจากไกลมาใกล้ หญิงชราขี่ม้ามาถึงอีกครั้ง แล้วจึง หยุดม้าในฉับพลัน คลี่ยิ้มเปิดปากถาม
หม่าชวนกับหม่าปี้คือพี่น้องพ่อเดียวกันแต่ต่างมารดา อายุห่าง กันหนึ่งปี อายุยี่สิบต้นๆ ด้วยกันทั้งคู่ คนหนึ่งตัวผอมสูง อีกคนหนึ่ง ใบหน้าดามีเคราสั้นๆ ทั้งหน้าต่างและรูปร่างล้วนแตกต่าง พี่น้องสอง คนต่างก็เป็ นคนที่โดดเด่นในบรรดาคนรุ่นเยาว์ของสกุลหม่าต่างก็มี คุณความชอบติดตัว ไม่เหมือนกับทั่นฮวาหลางที่ให้น้องสาวไปสอบ แทนอย่างหม่าเหยียนซาน หม่าชวนคือนักศึกษาหลวงที่ได้ ตาแหน่งจวี่เหรินอย่างแท้จริง คือเมล็ดพันธ ์บัณฑิตอันดับหนึ่งที่เป็ น รองแค่เด็กอัจฉริยะหม่าเช่อของตระกูลเท่านั้น ส่วนหม่าปี่ ผู้เป็ น น้องชาย ก็แค่ด้อยกว่าเท่านั้น หากไม่มีการเปรียบเทียบแล้วเอาเขา
ไปไว้ในตระกูลชนชั้นสูงแห่งอื่นของแคว้นอวี้เซวียนก็ถือว่าหล่อเหลา มากความสามารถแล้ว
สาวใช ้ชิวจวินที่ก่อนหน้านี้หน้าตาไม่น่ามองอย่างถึงที่สุดหา พวกเขาพบแล้ว นางก็ไม่ได้บอกเล่ารายละเอียด พูดแค่ว่าเจ้าประมุข มีคาสั่งให้พวกเขารีบมาที่นี่ทันที
หม่าชวนอยากจะถามข้อมูลวงในจากนาง ชิวจวินกลับแตกต่าง ไปจากยามปกติที่อ่อนโยนอ่อนหวาน นางเพียงแค่กัดริมฝีปากไม่พูด อะไรสักคา ตลอดทางที่เดินกันมา หม่าชวนจงใจชะลอฝีเท้าเดินอยู่ ด้านหลังน้องชาย แล้วจึงยื่นมือไปกุมมือของนางเอาไว้ แต่กลับถูก ชิวจวินสะบัดออกเบาๆ นี่ทาให้หม่าชวนตกตะลึงอยู่บ้าง ปกติเวลานัด พบกันเป็ นการส่วนตัว เนื่องจากเสิ่นเค่อที่สอนวิชาหมัดให้พวกนาง ตาแหลม เป็ นคนเก่าแก่ในยุทธภพแล้ว แค่ดูจากท่าทางการเดินของ สตรีก็มองออกแล้วว่าสตรียังมีพรหมจรรย์อยู่หรือไม่ อีกทั้งชิวจวินยัง เป็ นหนึ่งในสาวใช ้คนสนิทที่หม่าเยว่เหมยให้ความสาคัญ ต่อให้หม่า ชวนจะขวัญกล้าเทียมฟ้ าแค่ไหนก็ไม่กล้าท าลายอนาคตบนเส้นทาง วรยุทธของนาง
ผลคือรอกระทั่งพวกเขาสามคนเข้าไปในลานบ้านกลับไม่ได้เห็น ผู้อาวุโสสกุลหม่าสักคน แล้วก็ไม่ได้เห็นเค่อชิงผู้ถวายงานที่คุ้นหน้า คุ้นตาคนใดด้วย
เห็นเพียงข้ารับใช ้ถือกระบี่ชุดเขียวที่มีสีหน้าประหลาดกลุ่มนั้น ก าลังเหม่อมองมายังพวกเขาที่เพิ่งมาถึงทีหลัง
บ้านหลักของตระกูลหม่าเจอกับคลื่นมรสุมพลิกฟ้ าพลิกแผ่นดิน หม่าเหยียนผู้เป็ นประมุขตระกูลโดนถีบไปหนึ่งที ฉินเจิงประมุขหญิงก็ มือขาดไปข้างหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้ลามไปยังเรือนของสายรอง สองสายที่จวนอยู่ติดกัน
หม่าชวนกับหม่าปี้เห็นเพียงจุดเดียวที่แตกต่างไปจากปกติ มี บุรุษสะพายกระบี่ชุดเขียวคนหนึ่งนั่งอยู่บนขั้นบันได ในมือของคนผู้นี้ มีสมุดที่ไม่บางเล่มหนึ่ง
แขกผู้มีเกียรติหรือ?
คือลูกหลานตระกูลชั้นสูงของแคว้นอวี้เซวียนคนใดที่สร ้าง ชื่อเสียงอยู่ในราชสานัก เจ้าประมุขจึงอยากจะให้พวกเขาพี่น้องมา ที่นี่เพื่อประลองวิชาความรู ้กับคนผู้นี้?
หม่าชวนประสานมือคารวะ “ไม่ทราบว่าพี่ชายคือใครหรือ?”
เฉินผิงอันโบกสมุดที่อยู่ในมือ “ไม่ต้องมากพิธี คนบ้านเดียวกัน เจอคนบ้านเดียวกันอีกเดี๋ยวพวกเราค่อยมาคุยกันอย่างละเอียด รอ เด็กอัจฉริยะหม่าว่าที่จ้วงหยวนคนถัดไปที่ราชส านักเลือกกันเป็ นการ ภายในอย่างหม่าเช่อเสียก่อน”
หม่าชวนยังคงคลี่ยิ้มได้เหมือนปกติ
หม่าปี้กลับมีสีหน้าไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ไอ้หมอนี่วางมาดเก่ง จริงๆ คนอุตส่าห์ให้หน้าแต่ไม่ยอมไว้หน้าคนอื่น กล้าวางมาดมาถึง
สกุลหม่าของพวกเรา ในเมืองหลวงแห่งนี้ต่อให้เป็ นพวกเชื้อพระวงศ์ หรือลูกหลานขุนนางใหญ่ แล้วจะอย่างไร
ได้ยินมาว่าเมื่อหลายปีก่อนฮ่องเต้และฮองเฮาที่ได้รับการคุ้มกัน จากราชครูได้ปลอมตัวออกจากเมืองหลวง มาพักที่จวนหม่า กิน อาหารของห้องอาหารส่วนตัวตระกูลหม่าไปมื้อหนึ่ง ฮองเฮายังชมไม่ ขาดปาก นางยังขอให้ฮ่องเต้ประทานของตกแต่งในห้องหนังสือดีๆ หลายชิ้นให้กับสกุลหม่าด้วย และนี่ก็เป็ นเรื่องจริง เพราะข้าวของพวก นั้น ทุกวันนี้ต่างก็วางไว้อยู่ด้านข้างแท่นบูชาเทพเจ้าในศาลบรรพชน ของตระกูล
เพียงแต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นท่านประมุขให้แค่ลูกหลานทายาท สายตรงและหม่าเช่อออกมารับเสด็จเท่านั้น คนอื่นๆ ไม่อาจได้เห็น พระพักตร ์ของโอรสสวรรค์กับตาตัวเองได้
หม่าชวนใช ้วิธีการรวมเสียงให้เป็ นเส้นเอ่ยว่า “หม่าปี้ คนผู้นี้ น่าจะเป็ นทายาทของเซียนบนภูเขา เพราะเท่าที่จาได้ ดูเหมือนจะไม่ มีคนแบบนี้อยู่ในกลุ่มลูกหลานชนชั้นสูงของเมืองหลวง”
หม่าปี้พยักหน้า สามารถเดินข้ามธรณีประตูของตระกูลหม่ามา ได้ หากไม่รวยก็ต้องสูงศักดิ์ ในเมื่อบุรุษที่อยู่ตรงหน้าสะพายกระบี่มา เยือนก็ต้องมีที่พึ่งอย่างแน่นอน เขาเองก็เป็ นผู้ฝึกยุทธขอบเขตสี่ที่ เรียนวรยุทธประสบความส าเร็จเช่นกัน คนจนเรียนปุ่นคนรวยเรียนบู๊ สองพี่น้องมีเส้นเอ็นและกระดูกที่ดีเพราะได้แช่ยาสมุนไพรกันมา ตั้งแต่เด็ก หม่าปี่ใช ้การรวมเสียงให้เป็ นเส้นพูดกับพี่ชายอย่างลับๆ ว่า

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!