เข้าสู่ระบบผ่าน

กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 1090

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นเยาว์ของถ้าสวรรค์หลีจูที่แต่ละคนล้วน แข็งแกร่งจนไร ้เหตุผลจริงๆ

ดีนักนะ ใบถงทวีปทางทิศใต้ ผู้ฝึกตนห้าขอบเขตบนโรยราและ ตายดับตามกันไปคนแล้วคนเล่า ทว่าแจกันสมบัติทวีปบ้านตน เมื่อ เจอกับสงครามครั้งหนึ่ง ยิ่งต่อสู้บนสนามรบมากเท่าไรกลับยิ่งมีห้า ขอบเขตบนโผล่มาเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

ผู้ถวายงานเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งที่สวมเสื้อเกราะงดงามหรูหราพก ดาบอาคมเดินฝี เท้าเร่งร ้อนมารายงานข่าว “ฝ่ าบาท จู่ๆ ประตูใน ต าหนักหยางชุ่ยก็เปิดออก ข้าน้อยได้ข่าวก็รีบพาคนไปตรวจสอบ ทันที ผลคือเจอกับคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ถามชื่อแช่และความเป็ นมา ของเขา อีกฝ่ายก็ไม่ยอมตอบ”

ฮ่องเต้นึกว่าตัวเองหูฝาดไปจนต้องถามย้าอีกครั้ง “ว่าไงนะ?”

ฮองเฮาขมวดคิ้วแน่น “ไล่ไม่ไปหรือ?”

ผู้ถวายงานฝ่ ายในที่เป็ นนักเลงในยุทธภพก่อนจะถูกราชสานัก เรียกตัวมาใช ้งานผู้นี้เอ่ยด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “ไล่ไม่ไปขอรับ”

ในความเป็ นจริงแล้วผู้ถวายงานฝ่ ายในอย่างพวกเขาผ่านเข้า ประตูใหญ่ของต าหนักหยางชุ่ยที่อยู่ในอันดับหนึ่งของสามตาหนัก ใหญ่แห่งวังหลวงไม่ได้ด้วยซ้า

ฮ่องเต้ยิ้มเจื่อนเอ่ยว่า “ราชครู นี่ถือเป็ นดั่งคาที่บอกว่าโชคไม่มา เป็ นคู่ เคราะห์ร ้ายไม่มาเดียวหรือไม่?”

ผู้เฒ่าพยักหน้า “ผู้ที่มีเจตนาดีไม่มาเยือน ผู้ที่มาเยือนมีเจตนา ไม่ดี”

จดหมายลับที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ เนื้อหาที่ระบุไว้…ไม่ได้เข้าใจ ยากเลยแม้แต่น้อย วันนี้เฉินผิงอันแห่งภูเขาลั่วพัวมาชาระแค้นที่นี่ หากไม่ได้สมประสงค์จะไม่ยอมเลิกราเด็ดขาด

วันนี้สกุลหม่าเจอภัย ขอให้ราชสานักสกุลเซวียให้การปกป้ อง ช่วยให้สกุลหม่าข้ามผ่านด่านยากนี้ไปให้ได้ หากทาสาเร็จ สกุลหม่า แห่งอ าเภอหย่งเจียจะต้องตอบแทนอย่างหนัก

ความคิดของฮ่องเต้เรียบง่ายจนเรียบง่ายไปมากกว่านี้ไม่ได้อีก แล้ว เซียนและมนุษย์ธรรมดาแตกต่างกันราวก้อนเมฆกับดินโคลน เทพเซียนตีกันที่เกี่ยวพันถึงความแค้นส่วนตัวประเภทนี้ สกุลเซวียก็ แค่ต้อง หรือควรจะพูดว่าจาเป็ นต้องนิ่งดูดายอยู่เฉยๆ เท่านั้น

ส่วนหลังจบเรื่องทางฝั่งของภูเขาเจินอู่ หรือควรจะพูดให้ถูกต้อง ก็คือหม่าขู่เสวียน จะมาชักไช้เอาโทษก็คงมาพานโกรธใส่สกุลเซวีย ของพวกเขาไม่ได้กระมัง?

ต่อให้หม่าขู่เสวียนจะกระท าการก าเริบเสิบสานเพียงใด ก็คงอ้อม ผ่านราชส านักต้าหลีและส านักศึกษากวานหูไม่ได้ไม่ใช่หรือ?

ดังนั้นเมื่อครู่นี้ฮ่องเต้เซวียผังถึงได้สอบถามราชครูว่าทางฝั่งของ ราชส านักจ าเป็ นต้องโยกย้ายทหารรักษาพระองค์ในวังและขุนนาง ของกองทหารม้าห้านครให้ไปรวมตัวกันที่อ าเภอหย่งเจียพอเป็ นพิธีดี

หรือไม่?

ราชครูบอกว่าไม่ต้อง ดีไม่ดีเผลอๆ จะกลายเป็ นว่าอยากแสดง ฝีมือแต่กลับเป็ นการปล่อยไก่

ความนัยของประโยคนี้ก็คือไม่สู้แกล้งโง่ ทาเป็ นว่าไม่เคยได้รับ กระบี่บินแจ้งข่าวฉบับนี้ยังดีเสียกว่า

ฮ่องเต้เอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “ราชครู ถึงอย่างไรสกุลหม่าก็เป็ น เสาคานสาคัญที่ค้ายันแคว้นของเรานะ”

ไม่มีสกุลหม่าจะส่งผลกระทบเป็ นวงกว้าง ต้องสะเทือนไปถึงเส้น เอ็นและกระดูกอย่างเลี่ยงไม่ได้

ฮองเฮาหลุบสายตาลงต่า ใช ้นิ้วเรียวราวต้นหอมพลิกแผ่นป้ าย ถือศีลเคลือบสีชมพูอ่อนเบาๆ นางพูดเหมือนไม่ใส่ใจว่า “เจ้าขุนเขา เฉินผู้นั้นเป็ นถึงวีรบุรุษผู้กล้า ครั้งนี้เดินทางมาที่นี่ หากเพื่อต้องการ แก้แค้นจริงๆ นั่นก็เป็ นเรื่องส่วนตัวบนภูเขาของพวกเขา เจ้าขุนเขา เฉินคงไม่ถึงขั้นทาลายกิจการของสกุลหม่าที่อยู่ในอาณาเขต แคว้นอวี้เซวียนไปพร ้อมกันด้วยกระมัง”

เกี่ยวกับกิจการของสกุลหม่าที่รุ่งเรืองก้าวหน้าในทุกๆ วันดั่งบุป ผาผลิบานไปทั่วทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะในทางลับหรือทางแจ้ง ในวังก็มี สมุดบัญชีและเอกสารลับเล่มหนาอยู่เกือบร ้อยกว่าเล่ม

นางน้าลายสออยากครอบครองมานานมากแล้ว

หากจะตายก็ตายให้สะอาดเอี่ยมหน่อย คนไม่อยู่แล้ว ตายไป อย่างสิ้นซากได้ยิงดีแน่นอนว่ากิจการสกุลหม่าก็ต้องถูกเก็บรวบเข้า คลังของแคว้น

หลีกเลี่ยงไม่ให้สกุลหม่าเป็ นใหญ่เพียงหนึ่งเดียว หยั่งรากลงลึก ในแคว้นอวี้เซวียนมากเกินไป ฮองเฮากลัวก็แต่ว่าจะมีวันใดที่ ลูกหลานสกุลหม่ากลายมาเป็ นรราชบุตรเขย หรือไม่ก็มีสตรีแซ่หม่า คนใดที่ผ่านเวลาไปอีกสิบปี สตรีได้เข้ามาอยู่ในวังแล้วต้องเรียกนาง ว่าแม่สามี

เชวียผังถาม “ราชครู จะจัดการกับทางฝั่งตาหนักหยางชุ่ย อย่างไร? พวกเราจะปล่อยไว้ไม่สนใจหรือ? ปล่อยให้อีกฝ่ ายเดินเล่น เสร็จแล้วจากไป?”

หว่างคิ้วของผู้เฒ่ามีแต่ความกลัดกลุ้ม เขาลุกขึ้นยืน “ฝ่ าบาท ข้าจะไปดูด้วยตัวเองสักหน่อย ดูสิว่าจะรู้หรือไม่ว่าอีกฝ่ ายคือมังกร ข้ามแม่น้าตัวใด ขอแค่แน่ใจในตัวตนของอีกฝ่ ายแล้ว ต่อให้เป็ นห้า ขอบเขตบนก็ไม่จ าเป็ นต้องกลัวเขา”

“ต้องกราบทูลฝ่ าบาทก่อนเรื่องหนึ่ง หากเจอกับพวกคนที่ไม่ พูดจาหรือท าอะไรตามหลักการปกติทั่วไป ข้าก็จะพยายามอย่างสุด ความสามารถ หากโน้มน้าวอีกฝ่ ายได้ย่อมดีที่สุด แต่ถ้าเจรจากันไม่ รู ้เรื่อง ข้าสู้เขาได้ก็จะไล่เขาไป แต่หากสู้ไม่ได้ข้าก็จะช่วยปิดประตูให้ ต่อให้อีกฝ่ ายนั่งลงบัลลังก ์มังกรของฝ่ าบาท หรือถึงขั้นฉี่อีลงบนนั้น ก็คงต้องปล่อยให้เขาท าไป ถึงอย่างไรก็ปิดประตูแล้ว ใครก็มองไม่ เห็นว่าเขาก่อเรื่องอะไรอยู่ข้างใน”

ฮ่องเต้เซวียผังพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ราชครูไม่จาเป็ นต้องรีบ ร ้อนลงมือท าอะไรพยายามอย่าให้มีข้อพิพาทเกิดขึ้นจนเป็ นการ ท าลายความปรองดอง พูดคุยกับเขานานหน่อยก็ได้ เราจะให้ทางฝั่ง ห้องเครื่องเตรียมผลไม้และของทานเล่น ขอแค่พวกเจ้าพูดคุยกันได้ดี ก็สามารถยกไปให้ที่ตาหนักหยางชุ่ยได้เลย”

อันที่จริงก็แค่รู ้สึกว่ารับมือได้ยาก อีกฝ่ ายละเมิดข้อห้ามเช่นนี้ เป็ นการท าลายหน้าตาของแคว้น ราชส านักต้องขายหน้า แต่พวก เขาก็ไม่ได้รู ้สึกหวาดกลัวหรือตื่นตระหนกอะไร

หากเป็ นเมื่อสามสิบสี่สิบปีก่อน จักรพรรดิของแคว้นเล็ก จู่ๆ ได้ ยินว่ามีผู้ฝึกลมปราณที่สถานะไม่แน่ชัดมาโผล่อยู่ในตาหนักของวัง หลวงบ้านตน ไหนเลยจะสงบเยือกเย็นเช่นนี้ได้อีก

ากสืบสาวกันอย่างละเอียดแล้วก็คงเป็ นเพราะในฐานะแคว้นใต้ อาณัติของราชส านักต้าหลี สกุลเซวียแคว้นอวี้เซวียนจึงไม่ค่อยกลัว “เรื่องไม่คาดฝัน’ ประเภทนี้สักเท่าไร

อย่าว่าแต่ความใจกล้าของผู้ฝึกตนอิสระที่ถูกราชสานักต้าหลี ทุบท าลายเสียเละเทะเลย ต่อให้เป็ นเซียนซือท าเนียบหรือปรมาจารย์ วิถีวรยุทธ แล้วอย่างไรเล่า?

รอกระทั่งราชครูออกไปจากห้อง ไปยังตาหนักหยางชุ่ยแห่งนั้น แล้ว ฮ่องเต้ก็ยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “เทพเซียนที่ฝึกบาเพ็ญตนพวกนี้นี่นะ”

ฮองเฮาประคองตะกร ้าถ่าน เอ่ยอย่างเกียจคร ้านว่า “ก็นั่นน่ะสิ”

เผยเฉียนมาถึงหน้าประตูใหญ่ของศาลเทพอภิบาลเมืองประจ า เมืองหลวง ร ้านรวงเรียงรายบนท้องถนนมีแต่ร ้านธูปเทียน เนื่องจาก เป็ นช่วงหน้าฝนที่มักจะมีฝนตกใหญ่เป็ นประจา บวกกับที่วันนี้คือ เทศกาลชิงหมิง ศาลเทพอภิบาลเมืองที่เดิมทีควันธูปโชติช่วงจึงมี เพียงร่มกระดาษน้ามันบางตาไม่กี่คันที่ขยับเคลื่อนไปช ้าๆ เผยเฉียน จับประคองงอบไม้ไผ่สานบนศีรษะ ในมือถือไม้เท้าเดินป่าเดินผ่านซุ้ม ประตูภูเขาไปช ้าๆ เข้ามายังประตูบานที่สองสิ่งที่เห็นตลอดเส้นทางก็ คือกรอบป้ ายที่ส่วนใหญ่เป็ นพื้นสีฟ้ าตัวอักษรสีทอง สีสันของ ตัวอักษรค่อนข้างหม่นมัว มีรูปแบบแตกต่างไปจากจวนและต าหนัก ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขาสายน้า ถูกบนภูเขามองเป็ นวงการขุนนาง ภูเขาสายน้าเหมือนกัน ทว่าขุนนางในปรโลกของศาลเทพอภิบาล เมืองกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขาสายน้าก็ยังมีการแบ่งภาระงานที่ แตกต่างกันไป

เทวรูปของท่านเทพอภิบาลเมืองที่ตั้งบูชาไว้ในตาหนักอยู่ในท่า นั่ง เทวรูปองค์แรกของฝั่งซ ้ายมือคือขุนนางผู้พิพากษาฝ่ ายบุ๋น เทวรู

ปองค์แรกของฝั่งขวามือคือขุนนางผู้พิพากษา ฝ่ ายบู๊ ต่อจากนั้นก็ เป็ นเสมียนกุ่ยชาในศาลเทพอภิบาลเมืองที่เรียงลาดับกันไป มีการ แบ่งระดับขั้นอย่างเข้มงวด มีหน้าที่ตรวจสอบดูการทาความดีความ ชั่วของโลกมนุษย์ กาจัดพวกที่อาละวาดก่อเรื่องในอาณาเขต ปกครองผีจากพื้นที่ต่างๆ เพียงแต่ว่าเนื่องจากหงจงอวี้ขุนนางผู้ พิพากษาฝ่ ายบุ๋นคนเก่าได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว ดังนั้นเทวรูปร่างทอง รูปนี้จึงมีการแปะผ้าแดงผืนใหญ่ทับไว้ชั่วคราว รอให้ขุนนางผู้ พิพากษาฝ่ ายบุ๋นคนใหม่มารับต าแหน่งก็จะเปลี่ยนเทวรูปที่ตั้งบูชา เป็ นองค์ใหม่แทน

นี่ต้องยกคุณความชอบให้กับสานักของตน มีศิษย์พี่เล็กอย่าง ห่านขาวใหญ่ที่บนรู ้ไปถึงอักษรฟ้ า ล่างรู ้ไปถึงหลักการดิน ไม่ว่าจะ ถามอะไรก็ตอบได้แทบทั้งหมด บวกกับที่เผยเฉียนเองก็มักจะออก เดินทางท่องไปตามขุนเขาสายน้าของทวีปต่างๆ ในไพศาลเพียง ล าพังเป็ นประจา เป็ นเหตุให้ทุกวันนี้เผยเฉียนมีความรู ้ที่กว้างขวาง เกี่ยวกับประวัติความเป็ นมาขนบธรรมเนียมประเพณีของ ‘สิ่ง ประหลาดลี้ลับ” ทั้งหลาย ตามคาอธิบายของชุยตงซานเทพอภิบาล เมืองแต่ละระดับยังคงมีหน้าที่ในการ “ต้อนรับและนาทาง” เป็ นหลัก

ไม่เสียแรงที่บอกว่าตัวเองเคยไปเยือนนครเฟิงตูมาก่อน

สมุดเกล็ดปลาที่เก็บไว้ในกรมคลังของราชวงศ์ในโลกมนุษย์จะมี การบันทึกที่ดินทั่วแคว้นและทะเบียนครัวเรือนราษฎรไว้อย่างละเอียด

ส่วนศาลเทพอภิบาลเมืองนั้นก็จะรับหน้าที่บันทึกคุณความชอบและ ความผิดพลาดของสรรพชีวิตทั้งหมดในโลกคนเป็ นอย่างละเอียด

บทที่ 1090.2 มดรังนั้นล้วนแซ่เดียวกัน 1

บทที่ 1090.2 มดรังนั้นล้วนแซ่เดียวกัน 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!