กู้ช่านยิ้มเอ่ย “ไม่ต้องเอาเขามากระทบเทียบข้าซ้าๆ หรอก” หวงเลี่ยรู ้สึกชาหนังหัว “มิกล้า เจ้าสานักกู้เข้าใจผิดแล้ว” กู้ช่านกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็พยายามอย่าให้ข้าเข้าใจผิด” กระทั่งบัดนี้หวงเลี่ยถึงเพิ่งจะเข้าใจนิสัยการกระทาอันเป็ น
เอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้ฝึกตนท าเนียบนครจักรพรรดิขาวได้อย่าง
แท้จริง กู้หลิงเยี่ยนหัวเราะราวกับกิ่งดอกไม้สายไหว
กู้ช่านถาม “ที่นี่คือ?”
หวงเลี่ยยิ้มเอ่ย “ที่นี่หรือ คือศาลประจาตระกูลในประวัติศาสตร ์ที่ ขุนนางผู้สูงศักดิ์ในพื้นที่บริจาคเงินสร ้างขึ้นมา มีชื่อโบราณว่า อารามเลี่ยนตัน ทุกวันนี้เปลี่ยนชื่อเป็ นฉงหยางแล้ว”
กู้ช่านพยักหน้า “ก่อนหน้านี้ข้าเห็นว่าภาพบรรยากาศในนี้ไม่ เลว แน่นอนว่าแค่เทียบกับเมืองหลวงแคว้นอวี้เซวียนของพวกเจ้า เท่านั้น นี่ก็ชื่อว่าอารามเลี่ยนตันได้ด้วยหรือ? มิน่าเล่าข้าถึงได้รู้สึก ว่าที่นี่คือสถานที่ที่ดีในการหลอมยา (เลี่ยนตัน) เปลี่ยนชื่อได้ไม่เลว คาดว่าน่าจะเป็ นยอดฝีมือคนหนึ่ง ศาลาใกล้น้าได้ยลแสงจันทร ์ก่อน สมัยก่อนจงใจเลือกสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้องหลอม
โอสถน้าที่นี่แน่นอน แล้วค่อยตั้งชื่อว่าฉงหยางเป็ นการเพิ่มพูน ผลประโยชน์ได้หลายส่วน เตาหลอมใบใหญ่กาลังหลอมสิ่งของ แสง สีม่วงค่อยๆ เปล่งแสง ไอแดงยิ่งเข้มข้น คาดว่าวันหน้าก็น่าจะมีเซียน ดินพสุธาคนหนึ่งเผยกายกระมัง ส่วนวันหน้าที่ว่านี้จะนานแค่ไหน จะ เป็ นกี่สิบปีหรือกี่ร ้อยปี ข้าที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องศาสตร ์การมอง
ลมปราณก็ไม่รู ้แล้ว”
ศาสตร ์การมองลมปราณมีวิชาอภินิหารที่แตกต่างจากเวทคาถา ของตระกูลเซียนทั่วไป แล้วก็แตกต่างไปจากรากฐานและวิธีการใช ้ เนตรสวรรค์ วิธีการเช่นนี้คล้ายคลึงกับวิถีแห่งยันต์ ธรณีประตู ค่อนข้างสูง พิถีพิถันในเรื่องของคุณสมบัติและฐานกระดูกของคนที่ เล่าเรียน จะสาเร็จหรือไม่สาเร็จก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้อยู่ที่กาลังคน แต่อยู่ที่ฟ้ าลิขิตเท่านั้น มีเพียงสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขาสายน้าที่ทาได้ ต่อให้เป็ นศาลเถื่อนที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องจากทางราช สานัก แต่กลับสร ้างร่างทอง ก่อตั้งศาล ก็จะสามารถเข้าใจวิชาบทนี้ ได้ทันทีนอกจากกองโหราศาสตร ์ของแต่ละแคว้นแล้วก็มีคน มหัศจรรย์ที่เดินทางพเนจรไปทั่วทิศและพวกหมอดู
หวงเลี่ยเอ่ย “เข้าไปขอชาสักถ้วยดื่มดีไหม?”
กู้ช่านส่ายหน้า “ไปเดินเล่นที่อื่น เดินไปถึงที่ไหนก็ที่นั่น”
ธุลีแดงหมื่นจังรมอยู่บนร่างมนุษย์ ฟ้ าดินคือเตาหลอม หลอม โอสถทอง
คนบนโลกต่างก็พูดกันว่าเป็ นเทพเซียนดี โอสถทองหนึ่งเม็ด ต้องท าให้เป็ นอมตะได้แน่นอน เพียงแต่ไม่รู ้ว่าการฝึกบาเพ็ญตนนั้น ยาก บางทีจิตใจอาจหลอมกลั่นจนเหลือเพียงขี้เถ้า
เดินๆ หยุดๆ ตลอดทาง มองสีต้นหลิวอย่างเศร ้าระทม วสันตฤดู ค่อยๆ เข้มข้นยาวนาน
ในฟ้ าดินภาพสะท้อนจิตใจของเฉินผิงอัน
เห็นเพียงว่าบนหัวกาแพงเมือง ด้านหลังหม่าขู่เสวียนมีโจวมี่ยืน อยู่ คล้ายกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศาลเถื่อน ร่างทองมลังเมลือง คลี่ยิ้มนุ่มนวล ขาดก็แค่ไม่ได้เอ่ยประโยคว่าในที่สุดก็ได้พบกันอีกแล้วเท่านั้น
แม้จะรู ้ดีว่าต้องเป็ นตัวปลอม แต่อารมณ์ของเฉินผิงอันก็ยังแปลก ประหลาด ขมวดคิ้วถาม “ท าได้อย่างไร?”
หม่าขู่เสวียนเอ่ยอย่างมาดมั่น “เรียกขวัญ”
ดวงตาของหม่าขู่เสวียนฉายประกายเร่าร ้อนคล้ายกับตัวเองเป็ น ผู้ออกปริศนายากใหญ่เทียมฟ้ ารอให้เฉินผิงอันไปไขค าตอบ “ความจาเจ้าดีมากมาโดยตลอดไม่ใช่หรือ เมื่อก่อนใกล้กับตรอก ซิ่งฮวาและตรอกหนีผิงก็มีเรื่องแบบนี้เป็ นประจาไม่ใช่หรือ ลืมแล้ว หรือไร? เวลาที่พวกเด็กๆ ตกใจขวัญหาย พ่อแม่ก็มักจะจูงพวกเขา ไปเดินตามถนนตรอกซอกซอยและชายป่า คอยเรียกชื่อพวกเขาไป ตลอดทาง ราวกับว่าต้องการช่วยเรียกวิญญาณที่หลงทางให้กลับ เข้าบ้าน กลับเข้าร่าง ในโลกมนุษย์มีวิชาที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ
มากน้อยแค่ไหนที่หายสาบสูญไป ข้าก็แค่เก็บขึ้นมาใหม่เท่านั้น ผลลัพธ ์เป็ นอย่างไรล่ะ? ตกใจเลยใช่ไหม? สามารถทาให้เฉินอิ่นก วาน เซียนกระบี่เฉินที่เห็นโลกกว้างใหญ่มาจนชินเกิดใจหวาดกลัว เช่นนี้ได้ ไม่เสียแรงที่ข้าวางแผนมานาน สิ้นเปลืองบุญกุศลไปนับไม่ ถ้วน ไม่ขาดทุนเลย”
เฉินผิงอันถาม “เคยคิดถึงผลลัพธ ์ที่จะตามมาหรือไม่?”
การขานรับของคนและฟ้ าที่ผู้ฝึกบาเพ็ญตนในโลกคิดถึงคานึง หาอยู่ตลอดเวลา ต่างก็พูดกันว่าเป็ นคนที่ขานรับกับฟ้ าและดิน เจ้า หม่าขู่เสวียนไม่กลัวหรือว่าโจวมี่ที่ยึดครองซากปรักสรวงสวรรค์เก่า อยู่บนสวรรค์จะเกิดการเชื่อมโยงกับโลกมนุษย์แล้วแบ่งร่างออกมา เยื้องกรายยังพื้นดิน ก่อให้เกิดเรื่องไม่คาดฝัน? โดยเฉพาะอย่างยิ่งยัง เป็ นช่วงเวลาสาคัญที่บรรพจารย์สามลัทธิสลายมรรคาไปแล้วด้วย
หม่าขู่เสวียนคล้ายจะได้ยินเรื่องตลกที่ขาที่สุด “เจ้าบุกมาฆ่าถึงที่ แล้วยังจะมาโน้มน้าวข้าไม่ให้ทุ่มไหแตกให้แหลกอีกหรือ? ข้าจะเก็บ ท่าไม้ตายนี้ไว้ทาไม เอาไว้ใช ้ตอนไหว้บรรพบุรุษหน้าหลุมศพปีหน้า หรือ?”
เฉินผิงอันเงียบงัน
หม่าขู่เสวียนจ้องเขม็งไปยังเจ้าคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นมานานหลาย ปีผู้นั้น เอ่ยเสียงเคร่งขรึมจริงจังว่า “ตอนนี้จะให้ทางเลือกเจ้าสองทาง หากไม่ถอยออกไปจากสกุลหม่าทันที ความแค้นเก่าให้ถือว่าหายกัน
ไป และข้าก็จะโน้มน้าวให้พวกเขายกเลิกความคิดที่จะเสวยสุขกับ ควันธูปที่ได้รับจากการเซ่นไหว้ กลายเป็ นเทพที่เป็ นอมตะ ปล่อย ให้แก่ชราไปทีละวันสุดท้ายถึงวันที่อายุขัยหมดสิ้น หรือไม่เพื่อแก้ แค้นส่วนตัว เจ้ายอมเสี่ยงให้โลกมนุษย์ทั้งใบถูกกระชากเข้ามาใน น้าวนแห่งความอันตราย เป็ นศัตรูกับข้า แน่นอนว่ามีแค่ความเสี่ยงนี้ เท่านั้น ข้าไม่ได้บอกว่าท่านที่ถูกเรียกขวัญมายืนอยู่ด้านหลังข้าผู้นี้ จะต้องมีความสามารถมากมายจนถึงขนาดสร ้างหายนะให้กับโลก มนุษย์ได้ เจ้า สามารถ เดิมพันได้!”
เฉินผิงอันกล่าว “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว คาว่าผลลัพธ ์ที่ข้าพูดถึง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฟ้ าดินแห่งนี้สักเท่าไร ตั้งตัวจากมือเปล่าดุจนก นางแอ่นคาบโคลนมาทารังกับการเก็บกวาดเรื่องเละเทะ ข้าค่อนข้าง ถนัด ข้าพูดถึงตัวเจ้าเองที่อยากให้ชิงหมิงปีหน้า หม่าเหยียนซานกับ หม่าเหยียนเหมยมาดื่มสุราคารวะให้กับพี่ชายใหญ่ที่เป็ นเสาคาน ส าคัญของตระกูลส าหรับพวกเขาอย่างเจ้ามากขนาดนี้เลยหรือ? เทพหม่าแห่งตรอกซิ่งฮวามีพระคุณในการช่วยทาคลอดข้า ท่านย่า ของเจ้าจะไม่เห็นแก่ความสัมพันธ ์เก่าก่อนได้ แต่ข้ากลับต้องเห็นแก่ น้าใจในส่วนนี้ สืบสาวราวเรื่องกันแล้ว แม้เรื่องนี้จะเป็ นการค้าครั้ง หนึ่ง เป็ นหนึ่งในการค้ามากมายที่นางเคยทา แต่ตอนที่ข้าอายุยัง น้อยก็เคยได้ยินคนเล่าว่าตอนที่แม่ข้าให้กาเนิดข้า ระหว่างการคลอด ไม่ได้ราบรื่นนัก ค่อนข้างจะอันตราย ดังนั้นปีนั้นพอพ่อข้าได้รับคา เชิญถึงได้ออกจากเตาเผาเป่าซีเตาเผาเดิมของตัวเองไปเป็ นช่างเผา
เครื่องกระเบื้อง สั่งสอนลูกศิษย์ให้กับเตาเผาของพวกเจ้า นั่นก็เพราะ เห็นแก่บุญคุณในส่วนนี้ สกุลหม่าตรอกซิ่งฮวามีการอบรมสั่งสอน ประจาตระกูลของสกุลหม่าตรอกซิ่งฮวา สกุลเฉินตรอกหนีผิงของ พวกเราก็มีขนบธรรมเนียมประจ าตระกูลของสกุลเฉินตรอกหนีผิง เหมือนกัน ดังนั้นข้าถึงได้โน้มน้าวเจ้ามาโดยตลอดว่าอย่าได้ท าอะไร สุดโต่งเกินไป ควรเหลือทางถอยให้กับตัวเองบ้าง ข้าสามารถรอให้ เจ้ามาแก้แค้นข้าในอนาคตได้”
หม่าขู่เสวียนเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็คิด ผิดแล้ว ข้าไม่ได้อยากจะแก้แค้นให้พวกเขาในวันใดวันหนึ่งเพียงแค่ เพราะว่าพวกเขาให้ก าเนิดข้า ข้าแค่อยากจะตอบแทนบุญคุณ ชดใช ้ หนี้ครั้งนี้ให้ เพื่อที่จะได้ตัดขาดความสัมพันธ ์กับพวกเขา ดังนั้นเจ้า มาแก้แค้นถึงที่ นี่ก็คือเงื่อนตายระหว่างพวกเรา ตอนที่อายุยังน้อย ทาไมพอข้าได้เงินถุงนั้นมาแล้วถึงได้จงใจแพร่งพรายข้อมูลที่เจ้า กับหนิงเหยาไปแอบอยู่ในสุสานเทพเซียน? หรือเพราะข้าโลภมาก อยากได้เงินน้อยนิดแค่นั้น? ทาไมทั้งๆ ที่ข้ารู ้สึกว่าเจ้าและข้าคือคน บนเส้นทางเดียวกัน ในบรรดาคนวัยเดียวกันของถ้าสวรรค์หลีจู ข้า ถูกชะตากับเจ้ามากที่สุด แต่กลับจงใจเพิ่มผลกรรมระหว่างทั้งสอง ฝ่ าย นี่ก็เพื่อให้วันใดวันหนึ่งที่เจ้าและข้าได้พบเจอกันจะสามารถ ตัดสินเป็ นตายกันได้เร็วหน่อย อย่าได้ถ่วงเวลาล่าช ้า ไม่ว่าใครจะฆ่า ใครตายก็สามารถชาระความแค้นของสองตระกูลไปให้จบสิ้นพร ้อม กัน ผลคือการแสดงออกของเจ้าในวันนี้กลับทาให้ข้า…”
หม่าขู่เสวียนหยุดชะงักไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยสองคาออกมา อย่างเนิบช ้าว่า “ผิดหวังมาก”
เฉินผิงอันกล่าว “หม่าขู่เสวียน คนที่สร ้างปมความขัดแย้งไม่ใช่ ข้า อันที่จริงคือเจ้าเพราะเจ้าไม่ยอมรับในรากฐานของตัวเองมาโดย ตลอด ส่วนลึกในหัวใจของเจ้ารังเกียจชิงชังความเป็ นมาที่ตัวเจ้าเอง ยังจาได้อย่างแจ่มชัด แล้วก็มองไม่เห็นโชคชะตาของวันพรุ่งนี้ ดังนั้น เจ้าถึงได้มีสหายคนเดียวเป็ นอวี๋สืออู้ที่สภาพการณ์คล้ายคลึงกัน ทั้ง ไม่ยอมรับความเป็ นมาของตัวเอง แล้วก็หาไม่เจอว่าตัวเองจะไปทาง ใด เจ้ากลายเป็ นจอกแหนไร ้รากอยู่บนโลกใบนี้”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!