กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 121

สายลมแห่งความปิติยินดี
โดย
ProjectZyphon
หลี่เป่าผิงถอนหายใจ “ไม่รู้ว่าที่บ้านเป็นอย่างไรบ้างแล้ว พี่รองชั่วร้ายขนาดนั้น วันหน้าไม่รู้ว่าพี่ใหญ่จะถูกพี่รองรังแกหรือไม่”

เฉินผิงอันตอบจริงใจ “ว่ากันไปทีละเรื่องเถอะ วันหน้าข้าเองก็ต้องถามพี่รองของเจ้าต่อหน้าให้ชัดเจนเรื่องที่เขาสั่งให้จูลู่สังหารข้า แต่จะว่าไปแล้วพี่รองของเจ้าไม่น่าจะคิดร้ายต่อน้องสาวอย่างเจ้า”

หลี่เป่าผิงหน้ามุ่ย “ทำไมจูลู่ถึงทำแบบนี้นะ นางทำแบบนี้ได้อย่างไร! ในเมื่อนางเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้ว และยังมีจูเหอบิดาของนาง ขอแค่ไปสมัครเป็นทหารที่ชายแดน ไม่ว่าใครก็ต้องแย่งตัว วันหน้าหากนางคิดจะช่วงชิงสถานะบรรดาศักดิ์มาให้ตัวเองยังจะยากอีกหรือ? ทำไมพี่รองของข้าพูดอะไร นางก็ต้องทำตามจริงๆ ด้วย?”

เฉินผิงอันส่ายหน้า “เรื่องพวกนี้ข้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”

หลินโส่วอีที่อยู่ห่างไปไม่ไกลสีหน้ามืดทะมึน “คนใต้หล้าแย่งชิงกันล้วนเพียงเพื่อผลประโยชน์”

หลี่ไหวแค่นเสียงในลำคอ “ผายลม ข้าว่าจูลู่โง่เง่าผู้นั้นคงชอบพี่รองของเจ้าเข้าให้แล้ว เด็กสาววัยแรกแย้ม รักแรกแตกหน่อ เมื่อได้รับคำสัญญาจากคนที่อยู่ในใจซึ่งล่อลวงยิ่งกว่าการเป็นฮูหยินบรรดาศักดิ์ ไม่แน่ว่าอาจทำให้นางหวั่นไหวยิ่งกว่า”

หลินโส่วอีหัวเราะหยัน “ถ้าอย่างนั้นนางก็ทั้งโง่และทั้งเลวจนไร้ทางเยียวยาจริงๆ แล้ว”

เฉินผิงอันถอนหายใจมองคนข้างกายทั้งสาม นึกถึงภาพบรรยากาศในตรอกหนีผิงตรอกซิ่งฮวาที่ไก่บินหมากระโดดเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เสียงด่าของสตรีแต่งงานแล้วที่ดังลั่นถนน คำนินทาลับหลังเรื่องยิบย่อยหยุมหยิม ทุกอย่างล้วนมีหมดก็พูดขึ้นว่า “พวกเจ้าคือคนเรียนหนังสือ เข้าใจอะไรมากมาย อีกทั้งยังเป็นนักเรียนที่อาจารย์ฉีสั่งสอนมาเองกับมือ ดังนั้นจึงไม่เหมือนกับพวกเรา อันที่จริงในสถานที่ที่ข้าใช้ชีวิตอยู่ ต่อให้เป็นคนอายุมากแล้ว หลายๆ คนก็ยังเป็นเหมือนนายอำเภอกับผู้เฒ่าที่อยู่บนเรือลำนั้น นั่นคือไม่ยินดีจะใช้เหตุผล หรือไม่ก็คิดจะใช้เหตุผลของตัวเองฝ่ายเดียวเท่านั้น”

เฉินผิงอันหยุดลับดาบแคบ เก็บดาบลงฝักแล้วเริ่มพูดต่ออย่างปลงอนิจจัง “แต่อย่าเห็นแค่ว่าคนเหล่านี้ไม่มีเหตุผล คนบางคนที่มีพละกำลังมาก เผาเครื่องปั้นเผาถ่านก็หาเงินมาเลี้ยงครอบครัวได้ บางคนทำไร่ทำนาได้ดียิ่งกว่าใคร ดังนั้นชีวิตจึงไม่ยากลำบาก และยังมีคนอย่างแม่เฒ่าหม่าที่ทำคลอดให้คนอื่น ชอบเผายันต์ทำเป็นหลอกผีหลอกเจ้า เป็นคนเลวมาก แต่คนเลวแบบนี้กลับดีกับหม่าขู่เสวียนหลานชายของเขายิ่งนัก แทบจะอยากหาของดีทั้งหมดที่มีอยู่ใต้หล้ามาประเคนให้หลานชายของตัวเอง”

เฉินผิงอันกล่าวยิ้มๆ “ดังนั้นข้าจึงอยากจะเรียนหนังสือสักเล็กน้อย อยากจะเข้าใจว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่”

หลี่เป่าผิงพลันลุกขึ้นยืน แล้วเริ่มก้าวเดินช้าๆ อยู่ริมธารน้ำ สีหน้าเคร่งเครียด

สุดท้ายแม่นางน้อยสวมชุดผ้าฝ้ายบุนวมสีแดงคนนี้ก็เอ่ยขึ้นอย่างฉับพลันว่า “อาจารย์อาน้อย ข้าคิดถึงคำถามที่เจ้าถามตอนอยู่บนเรือมาโดยตลอด ตอนนี้ข้าว่าตัวเองพอจะเข้าใจได้บ้างแล้ว เจ้าอยากจะฟังหรือไม่?”

เฉินผิงอันกลั้นยิ้ม “เพิ่งจะเรียนคำว่าล้างหูรอฟังมาจากพวกเจ้า ตอนนี้ได้เอามาใช้พอดี”

แม่นางน้อยทำแก้มพองด้วยความขุ่นเคือง สุดท้ายพูดเหมือนบ่นว่า “อาจารย์อาน้อย!”

เฉินผิงอันรีบยิ้มให้ “เจ้าพูดสิ พูดเลย”

แม่นางน้อยยังไม่ทันเริ่มอธิบายเหตุผลก็เตรียมปูทางหาทางถอยให้ตัวเองก่อนแล้ว “ข้าอาจพูดสับสนไปบ้าง หากอาจารย์อาน้อยรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง แค่รับฟังก็พอ ห้ามหัวเราะข้าเด็ดขาด”

เฉินผิงอันส่ายหน้า “ตอนอยู่บนเรือข้ายังสามารถใช้เหตุผลกับผู้เฒ่าอายุมากขนาดนั้นได้ ทำไมเจ้าจะทำไม่ได้? เจ้าพูดมาได้เลย อาจารย์อาน้อยตั้งใจฟังเจ้าอยู่นะ”

หลี่ไหวเบ้ปาก มือข้างที่ถือหุ่นไม้หลากสีโบกสะบัดวุ่นวายคล้ายแม่ทัพใหญ่ที่กำลังบัญชาการณ์กองทัพนับหมื่น “พูดๆๆ ทะเลาะด้วยปากไม่สร้างความเจ็บปวด ลงไม้ลงมือตีกันเท่านั้นถึงจะเจ็บ”

แม่นางน้อยพูดถึงสามหัวข้อแรกก่อน คล้ายการเกริ่นนำเริ่มเข้าบทเรียนของอาจารย์ “ข้าจะพูดถึงเมตตาธรรม มโนธรรมและคุณธรรม กฎเกณฑ์ของธรรมเนียมพื้นบ้าน และกฎหมายของราชวงศ์”

หลี่ไหวปวดหัวแปล๊บขึ้นมาทันใด เอาความคิดไปไว้กับหุ่นไม้หลากสีงดงามตัวนั้น คิดว่าหากวันใดมันมีชีวิตและมาคุยเล่นแก้เบื่อกับตนก็คงดี

หลินโส่วอีคลี่ยิ้ม ยกมือข้างหนึ่งขึ้นเท้าคาง มองไปทางหลี่เป่าผิงที่ยืนอยู่ริมลำธาร

มีเพียงเฉินผิงอันคนเดียวเท่านั้นที่เงี่ยหูตั้งใจรับฟัง

ความรู้สึกที่ได้ไปนั่งยองอยู่มุมกำแพงของโรงเรียนเพื่อแอบฟังอาจารย์ฉีสอนหนังสือตอนยังเด็กทำให้เด็กหนุ่มรองเท้าแตะคิดถึงอยู่เสมอ

“ซึ่งแบ่งแยกสำหรับวิญญูชนนักปราชญ์ ชาวบ้านร้านตลาด และคนเลวร้ายที่ทำผิด”

“วิญญูชนและนักปราชญ์ที่เรียนหนังสือมามากก็เข้าใจหลักการมาก แต่ต้องจดจำไว้ข้อหนึ่ง นั่นคือเหมือนที่พี่ชายใหญ่ของข้าเคยบอก คุณธรรมนี้เป็นสิ่งที่ถ้าสูงเกินไปก็เป็นมายาเกินไป สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถบังคับคนอื่น ได้แต่บังคับตัวเองเท่านั้น! ด้วยเหตุนี้คนเราจึงต้องยืนตัวตรง เมื่อร่างตรงชื่อเสียงก็ตรง ชื่อเสียงตรงคำพูดคำจาก็ตรง คำพูดคำจาเที่ยงตรงก็ส่งผลให้ประสบความสำเร็จ”

“นอกจากนี้แล้ว หากรักษาคุณความดีแห่งตนเอาไว้ คิดจะปกครองใต้หล้า สั่งสอนปวงประชาก็สามารถนำคุณธรรมความรู้ของตัวเองถ่ายทอดให้กับคนอื่นเช่นเดียวกับที่อาจารย์ของพวกเราสั่งสอนลูกศิษย์ในโรงเรียน”

“ชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปแค่รักษากฎเกณฑ์อันเป็นขนบธรรมเนียมพื้นบ้านก็พอ”

“ส่วนกฎหมายของราชวงศ์นั้นมีไว้สำหรับพวกคนที่ก่อกบฏสร้างความวุ่นวาย คือเชือกเส้นหนึ่งที่ใช้พันธนาการคนชั่ว อีกทั้งเชือกเส้นที่อยู่ต่ำสุดก็คือ ‘กฎเกณฑ์’ ที่ต่ำที่สุดในมารยาทและพิธีการของลัทธิขงจื๊อเรา”

แม้เฉินผิงอันที่ตั้งใจฟังจะรู้สึกว่าฟังเข้าใจทั้งหมด ทว่าหลักการในคำพูดเหล่านี้กลับยังไม่ใช่หลักการของตัวเขาเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!