กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 122

กลุ่มของเฉินผิงอันเดินจากทิศเหนือขึ้นเขามุ่งหน้าลงใต้ เดินไปได้พอประมาณก็เจอเข้ากับคนกลุ่มหนึ่งที่เดินจากทิศใต้มุ่งหน้าไปทางเหนือพอดี เป็นนักพรตเต๋าชราคนหนึ่งที่ด้านหลังสะพายกระบี่ไม้ท้อ ตรงเอวห้อยกระดิ่งสีเงินไว้พวงหนึ่ง ชุดคลุมนักพรตเต๋าเก่าซีด สวมรองเท้าสาน ไม่มีกลิ่นอายของความเป็นเซียนสักเท่าไหร่ แต่กลิ่นอายของความยากจนกลับเปี่ยมล้น

ด้านหลังมีเด็กหนุ่มขาเป๋สีหน้าทึ่มทื่อคนหนึ่งเดินตามมา นอกจากจะสะพายห่อสัมภาระชิ้นใหญ่แล้ว ตรงไหล่ยังพาดธงที่เขียนคำว่า “ปราบปีศาจจับผี กำจัดมารผดุงคุณธรรม” ไว้เฉียงๆ อีกด้วย คาดว่าคงจะถูกซักมาแล้วหลายครั้ง เนื้อผ้าจึงซีดขาวนานแล้ว และหมึกของอักษรทั้งแปดคำก็จางลงเต็มที นอกจากนี้ยังมีแม่นางน้อยอายุประมาณเจ็ดแปดขวบหน้ากลมดิก แต่รูปร่างเล็กผอมคอยประคองนักพรตเต๋าชราที่ไม่รู้ว่าทำไมถึงหลับตาอยู่ตลอดเวลาเอาไว้

นักพรตเต๋าชราพลันเงยหน้าขึ้น ‘มอง’ ไปทางเทือกเขาสีดำทะมึนที่ทอดตัวยาว กล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “เอ๊ะ? ภูเขาแห่งนี้ห่างจากศาลเทพแม่น้ำซิ่วฮวาไม่ไกลนัก แต่ทำไมถึงมีกลิ่นอายปีศาจชัดเจนขนาดนี้ผุดขึ้นฟ้า? นี่ต้องมีความนัยลึกลับแอบแฝงเป็นแน่ แม้จะบอกว่าภูเขาและแม่น้ำมีขอบเขตของใครของมัน ไม่ข้องเกี่ยวกัน แต่สถานที่แห่งนี้ประหลาดนัก ประหลาดมากจริงๆ”

แม่นางน้อยแก้มแดงปลั่งที่ได้ยินประโยคนี้ก็เอ่ยถามอย่างเป็นกังวล “อาจารย์ ถ้าอย่างนั้นจะทำอย่างไรดีล่ะเจ้าคะ? คราวก่อนตอนอยู่ภูเขาซานจือท่านจับปีศาจล้มเหลว คนที่ออกเงินจ้างพวกเราโกรธจนแม้แต่เงินค่าตอบแทนก็ไม่จ่ายให้ ตอนนี้พวกเราเหลือเงินอีกไม่มากแล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นพวกเราอ้อมไปทางอื่นดีไหมเจ้าคะ?”

นักพรตเต๋าชราแค่นเสียงเย็น “อ้อมไปทางอื่น? หากนักพรตผู้ต่ำต้อยอย่างข้าไม่เจอเข้าโดยบังเอิญก็ว่าไปอย่าง ถือว่าปีศาจมารชั่วร้ายพวกนั้นโชคดี แต่ในเมื่อวันนี้ถูกข้านักพรตผู้ต่ำต้อยเจอเข้าแล้ว มีหรือจะยอมปล่อยไป! บนธงเขียนไว้ว่ากำจัดมารผดุงคุณธรรม หากไม่ทำตามก็ไม่เท่ากับให้คนนอก…”

แม่นางน้อยถอนหายใจเอ่ยเตือน “อาจารย์ ที่นี่ไม่มีคนนอก”

นักพรตเต๋าชราหัวเราะแห้งๆ “ปากไว ปากไวไปหน่อย อาจารย์ยังไม่ทันคืนสติจากเรื่องของภูเขาซานจือ ช่างน่าโมโหยิ่งนัก ไม่มีคุณความชอบก็มีความเหนื่อยยาก แต่นี่พวกเขากลับไม่ยอมจ่ายเงินแม้แต่ครึ่งเหรียญทองแดง บนโลกมีคนหน้าด้านไร้ยางอาย ใจดำปอกลอกคนอื่นเพื่อความร่ำรวยแบบนี้อยู่ได้อย่างไร สมควรแล้วที่สุสานบรรพบุรุษของพวกเขาถูกผีภูเขายึดครอง ลูกหลานต้องเจอหายนะหลายครั้งหลายครา…”

แม่นางน้อยเอ่ยเตือนขึ้นมาอีก “อาจารย์ ท่านไม่ได้พูดบ่อยๆ หรือว่าคนฝึกตนอย่างพวกเราควรมีใจราบเรียบเป็นกลางน่ะ?”

นักพรตเต๋าชราที่ก่อนหน้านี้เป็นผู้เฒ่าใจดีมีเมตตาพลันเดือดดาลเกรี้ยวกราด ยื่นนิ้วสองข้างไปหนีบแขนของแม่นางน้อยหน้ากลมแล้วบิดอย่างแรง สีหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน “ใครมอบความกล้าให้เจ้าหันมาสั่งสอนอาจารย์? ยังจะกล้าสอนข้าไม่จบไม่สิ้นอีกด้วย!”

แม่นางน้อยเจ็บจนร้องไห้เสียงดัง รีบวิงวอน “เจ็บๆๆ อาจารย์ ไม่กล้าแล้ว ข้าไม่กล้าแล้ว…”

นักพรตเต๋าชราไม่ได้หันตัวกลับไป เพียงใช้มือตบไปที่กระดิ่งตรงเอวของตัวเองหนักๆ หนึ่งที เสียงกรุ๊งกริ๊งดังขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะอย่างดุดันของเขา “เจ้าเศษสวะน้อย ยังกล้ามีใจคิดสังหารอาจารย์อย่างนั้นรึ?”

เด็กหนุ่มขาเป๋สีหน้าเฉยชา แต่เพียงไม่นานก็มีเลือดสดหลั่งออกมาจากจมูกและรูหู ทว่าถึงกระนั้นเด็กหนุ่มทึ่มทื่อก็ไม่พูดไม่จา ไม่โวยวายแม้แต่คำเดียว

เสียงร้องไห้ของแม่นางน้อยยิ่งเพิ่มความเสียใจ “อาจารย์ ท่านปล่อยศิษย์พี่ไปเถอะ เขาต้องไม่ได้ตั้งใจแน่ๆ ข้ารับปากอาจารย์ว่าภายในสามวันจากนี้จะต้องพยายามหาน้ำพุหนึ่งจินมาให้อาจารย์ให้ได้!”

นักพรตเต๋าชรายิ้มหน้าบาน ขยี้ศีรษะของแม่นางน้อยแรงๆ กำลังมือนั้นไม่น้อย ทำเอาร่างผอมบางของแม่นางน้อยโยกซ้ายโยกขวา “ไม่ใช่แค่พยายาม แต่ต้องหามาให้ได้”

ในที่สุดนักพรตเต๋าชราก็ยอมดึงมือที่แห้งเหี่ยวดุจต้นไม้แก่ของตนกลับไป หัวเราะเสียงดัง “ขึ้นเขา! ม้าต้องกินหญ้าจึงจะเติบโต ไม่แน่ว่าคราวนี้อาจได้เงินก้อนใหญ่ จะว่าไปแล้วนับตั้งแต่ที่มีสวะน้อยอย่างพวกเจ้าสองคนมาอยู่ข้างกาย แม้จะมาแย่งกินแย่งใช้ แต่อาจารย์กลับสงบจิตใจในการฝึกตนได้ไม่น้อย พอคิดอย่างนี้อาจารย์ก็รู้สึกว่าหลังจากนี้ต้องดีกับพวกเจ้าให้มากหน่อย ฮ่าๆ”

แม่นางน้อยประคองนักพรตเต๋าชราให้เริ่มเดินขึ้นเขา

เด็กหนุ่มขากะเผลกเช็ดเลือดเงียบๆ คล้ายเคยชินเสียแล้ว

แม่นางน้อยแอบหันกลับไปส่งยิ้มให้ เด็กหนุ่มก็ขยับปากยิ้มตอบบอกให้รู้ว่าตัวเองไม่เป็นอะไร

หลังจากอาจารย์และศิษย์สามคนเดินขึ้นเขามาแล้ว เวลาส่วนใหญ่กลับหมดไปกับการเดินวนเวียนไปเรื่อยเปื่อย ไม่อาจค้นพบที่มาของปราณปีศาจได้อย่างแน่ชัด นักพรตเต๋าชราสามารถสัมผัสได้้ตลอดเวลาว่ามีปราณปีศาจอ่อนจางอบอวลอยู่ทั่วต้นไม้ใบหญ้ารอบด้าน แต่เขากลับหาประตูทางเข้าไปพบมันไม่เจอ นักพรตเต๋าชราจึงรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตบะของปีศาจใหญ่ตนนี้ต้องไม่อ่อนด้อยแน่ หาไม่แล้วคงไม่มีความสามารถที่จะใช้เวทอำพรางตากลางวันแสกๆ อย่างนี้

แต่ถึงกระนั้นนักพรตเต๋าชราก็ยังไม่ยอมแพ้ ทุกวันจะต้องให้เด็กหนุ่มขากะเผลกแบกธงไปสำรวจเส้นทาง ส่วนตัวเองก็พาแม่นางน้อยหน้ากลมไปนั่งพักผ่อนใกล้ๆ กับเส้นทางบนภูเขา คอยหยิบเอาเข็มทิศที่ทำจากไม้ออกมาเป็นระยะ มันมีชื่อเรียกว่าเข็มทิศพลิกกลับ เป็นวิธีที่นักพรตลัทธิเต๋าและผู้ฝึกวิชาหยินหยางมักจะนำออกมาใช้บ่อยๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพียงแต่ว่าบางครั้งตรงเข็มเล่มเล็กสีชาดตรงก้นทะเลบ่อสวรรค์จะมีประกายแสงสีทองไหลรินเป็นบางครา แสดงให้เห็นถึงกลไกลี้ลับที่ถูกซุกซ่อนไว้ของเข็มทิศชิ้นนี้

ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไอหมอกแผ่คลุมหนา ฝนอาจตกลงมาได้ทุกเมื่อ เวลานี้นักพรตเต๋าชรากำลังนั่งยองอยู่ข้างทาง ก้มหน้าลงจ้องเขม็งไปที่เข็มทิศ พร่ำท่องไม่หยุดว่า “พลิกพลิกกลับ ภูเขายี่สิบสี่ลูกมีภูเขาเงินมีภูเขาทอง พลิกพลิกกลับ ภูเขายี่สิบสี่ลูกมีบ่อมังกรถ้ำพยัคฆ์”

ผู้เฒ่าเก็บเข็มทิศ หันหน้ามองไปยังทิศไกลของเส้นทางภูเขา เอ่ยกลั้วหัวเราะเบาๆ ว่า “เส้นทางหาเงินมาแล้ว ฟ้าย่อมมีทางออกให้คนเสมอ ดูท่าเมื่อไปถึงอำเภอหว่านผิงคงจะจิบเหล้าจอกเล็กได้สักสองสามจอกแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!