กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 139

พันมหัศจรรย์ (ต้น)
โดย
ProjectZyphon
สีรัตติกาลเริ่มเข้มข้น ในซอยเมฆคล้อยน้ำไหลนอกประตูหลักของโรงเตี๊ยมชิวหลูสีเสียงน้ำหยดติ๊งๆ เสนาะหูดังเป็นระลอ หลิวฮุหยินยืนอยู่นอกประตูเพียงลำพัง ตรงเอวห้อยเครื่องประดับสีทองอร่ามลักษณะคล้ายตราพยัคฆ์ไว้สองชิ้น

รถม้าคันหนึ่งจอดนอกประตู ชายวัยกลางคนสวมชุดปัญญาชนสีเขียวเดินลงมาจากรถ สีหน้ามีบารมีแม้ไม่ได้แสดงความโกรธ บุคลิกคล้ายแม่ทัพผู้มีความรู้แตกฉาน เพียงแต่สีหน้าของบุรุษในเวลานี้ค่อนข้างเหนื่อยล้า เมื่อเห็นสตรีแต่งงานแล้วผู้งดงามก็คลี่ยิ้ม “ให้เจ้ารอนานแล้ว พวกเราเข้าไปพูดกันข้างในเถอะ”

สตรีแต่งงานแล้วหมุนตัวกลับเดินนำทางด้วยสีหน้าไม่ยินดียินร้าย

บุรุษปรายตามองตราพยัคฆ์ตรงเอวนางแล้วขมวดคิ้ว “ต้องตื่นเต้นขนาดนี้เชียวหรือ?”

สตรีแต่งงานแล้วแค่นเสียงหยัน “ที่นี่เป็นแค่โรงเตี๊ยมเล็กๆ แห่งหนึ่ง ไม่อาจเทียบจวนขุนนางผู้ว่าราชการจังหวัดของใต้เท้าได้ เมื่อสองวันก่อนเพิ่งจะถูกคนรื้อผนังบังตาที่เป็นจุดขายออกก็ได้แต่กล้ำกลืนความไม่พอใจเอาไว้ วันนี้ตัวการร้ายยังพาลูกศิษย์ลูกหากลุ่มใหญ่มาพักที่โรงเตี๊ยมข้า ข้าก็ได้แต่กลั้นใจฝืนยิ้มรับใช้นายท่านเซียนซือพวกนี้แต่โดยดี ทั้งหมดนี้ล้วนต้องยกความชอบให้กับใต้เท้าผู้ว่าฯ ที่จัดการดูแลอย่างเหมาะสม…”

บุรุษเพิ่มน้ำหนักเสียงเล็กน้อย “พอแล้วน่า เจียฮุ่ย ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจ แต่ตอนนี้ข้าเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ เพื่อพิธีบวงสรวงศาลเทพวารีครั้งนี้ ข้าเองก็ยุ่งตั้งแต่เช้าตรู่ยันตอนนี้ ตาแดงจนแทบจะลุกติดไฟอยู่แล้ว ที่มาพักผ่อนยังที่ของเจ้า ไม่ใช่ตรงกลับไปที่จวนขุนนางก็เพราะอยากจะหาความสงบสบายหูสักพัก ไม่ได้มาเพื่อฟังเจ้าบ่นจู้จี้”

สายตาของสตรีผู้งดงามฉายแววตำหนิไม่พอใจ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังรู้จักรุกและถอยอย่างเหมาะสม เพียงไม่นานก็เก็บอารมณ์สาวน้อยของตัวเองลงไป เปลี่ยนเรื่องพูดว่า “เพื่อพิธีเซ่นไหวครั้งนี้ ท่านต้องยุ่งวุ่นวายอยู่ครึ่งปีเต็ม อยากให้มีหน้ามีตาก็ต้องมีหน้ามีตา ใต้เท้าผู้ว่าราชการมณฑลสุขภาพไม่ค่อยจะดี แม้ว่าจะไม่สามารถมาเยือนได้ด้วยตัวเอง แต่ใต้เท้าสารถีคนสนิทของเขากลับมาร่วมงานแสดงความให้เกียรติแล้ว บวกกับพวกปัญญาชนที่ได้รับคำขนานนามจากราชสำนัก หลวงจีนที่มีชื่อเสียงและนักพรตผู้แฝงเร้นกายก็ถือว่ามีหน้ามีตามากแล้ว แล้วนับประสาอะไรกับที่ต้องการให้จัดเป็นการภายในก็ยิ่งได้ดั่งใจ เงินช่วยเหลือเป็นการส่วนตัวจากเมืองของเราเอาไปมอบให้เทพวารีเทพแม่น้ำสองท่านของที่อื่นคงพอกระมัง?”

บุรุษพยักหน้ารับ “หลักการคือหลักการนี้จริง”

สตรีแต่งงานแล้วถามเสียงเบา “ถ้าอย่างนั้นใต้เท้าเทพวารีหันสือของพวกเราท่านนี้ ในที่สุดก็โปรดปรานในตัวท่านแล้ว? ยอมรับปากว่าจะช่วยให้ท่านช่วงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ มาได้แล้ว?”

บุรุษเอามือสองข้างไพล่หลัง เดินเข้าไปในเรือนเงียบสงบแห่งหนึ่งด้วยความเคยชิน ส่ายหน้าถอนหายใจ “ผู้ฝึกตนอิสระคนนั้นปรากฎตัวไม่ถูกเวลาเลยจริงๆ แค่น้ำผึ้งหยดเดียวแท้ๆ เขาต้องการแก้แค้นให้ชาวบ้านที่ตายไปอย่างอยุติธรรมผู้นั้นจึงมาตามหาผู้ฝึกลมปราณของพรรคทำนองศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นที่โรงเตี๊ยมชิวหลูของพวกเจ้า แล้วเปิดศึกต่อสู้กันครั้งใหญ่ ทำให้นักพรตพรรคทำนองศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นบาดเจ็บสาหัส เดือดร้อนให้ผนังบังตาของโรงเตี๊ยมพวกเจ้าถูกทำลายรากฐานไปด้วย อันที่จริงหากเรื่องราวดำเนินมาถึงแค่ตรงนี้ ข้ายังพอจะควบคุมสถานการณ์ได้ ยกตัวอย่างเช่นข้าเป็นขุนนางประจำเมือง สามารถส่งรายงานไปให้ราชสำนัก โยนโทษใส่หัวของผู้ฝึกตนอิสระคนนั้น ปัดนักพรตของพรรคทำนองศักดิ์สิทธิ์ที่หาเรื่องก่อนออกไปให้พ้น เพื่อปลอบใจพรรคทำนองศักดิ์สิทธิ์ที่มีรากฐานอย่างลึกล้ำมั่นคงอยู่ในแคว้นหวงถิงของพวกเรา แต่ขณะเดียวกันข้าก็จะแอบปล่อยผู้ฝึกตนอิสระคนนั้นไปอย่างลับๆ อย่างน้อยเรื่องการไล่ล่าในเขตของเมืองก็แค่ทำเป็นผักชีโรยหน้าแสดงออกให้คนนอกดูเท่านั้น เพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ ให้เขาสามารถฉวยโอกาสหนีไปได้ ในเมื่อเป็นผู้ฝึกตนอิสระ ถ้าอย่างนั้นสี่มหาสมุทรก็ล้วนเป็นบ้าน คิดดูแล้วคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร”

กล่าวมาถึงตรงนี้ บุรุษก็เผยสีหน้าหงุดหงิดออกมาเสี้ยวหนึ่ง “แต่นี่ดันมาเกิดเรื่องก่อนหน้าที่จะมีพิธีบวงสรวงเทพแม่น้ำหันสือ ไม่เพียงแต่มีคนมากมายจับตามอง ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าช่วงแรกที่เทพแม่น้ำท่านนี้กลายเป็นองค์เทพได้เพราะอาศัยความช่วยเหลือจากบุรพาจารย์ท่านหนึ่งของพรรคทำนองศักดิ์สิทธิ์ ถึงหยัดยืนได้อย่างมั่นคง? ผลกุศลจากควันธูปนี้ พรรคทำนองศักดิ์สิทธิ์ประคับประคองอย่างระมัดระวังมาสองร้อยกว่าปี ไม่เคยเอาเรื่องใดไปรบกวนเทพวารี กลับกันคือสองร้อยกว่าปีนี้ยังคอยเอาของขวัญชิ้นใหญ่ไปเยี่ยมเยือนถึงประตูบ้านปีละครั้ง นอกจากครั้งหนึ่งที่พรรคประสบหายนะแล้วก็ไม่เคยขาดการติดต่อ แล้วเจ้าคิดว่ามรสุมสะเทือนเมืองครั้งนี้ ใต้เท้าเทพวารีจะเอนเอียงเข้าข้างใครล่ะ?”

สตรีแต่งงานแล้วมองใต้เท้าผู้พิทักษ์เขตปกครองที่เดินวนไปรอบลานกว้างไม่ยอมนั่งลงสักที จึงส่งชาร้อนๆ ไปให้ถ้วยหนึ่งพลางเอ่ยหยอกเย้า “ท่านใต้เท้าผู้พิทักษ์เมืองของข้า ช่วยนั่งลงพูดได้หรือไม่ หากท่านยังเดินวนไปวนมาเช่นนี้ ข้าน้อยคงเวียนหัวตาลายเป็นแน่”

พอนั่งลงแล้ว ชายสวมชุดเขียวก็เอ่ยเย้ยหยันตัวเอง “ตำแหน่งที่ซ่อนตัวของผู้ฝึกตนอิสระคนนั้น ข้าเพิ่งจะรู้เมื่อสามวันก่อน เดิมคิดจะถ่วงเวลาไปอีกหนึ่งวัน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ลากยาวไปหลังพิธีบวงสรวงใหญ่ก่อนค่อยว่ากัน ไม่แน่ว่าอาจจะเว้นชีวิตเขาได้ เจียฮุ่ย เจ้ารู้หรือไม่ว่าวันนี้ในศาลเทพวารี หลังจากเทพแม่น้ำหันสือท่านนั้นปรากฏตัวด้วยร่างทองคำแล้ว เขาพูดอะไรกับข้า?”

สตรีแต่งงานแล้วส่ายหน้า นางย่อมเดาความคิดของเทพองค์หนึ่งไม่ออกอยู่แล้ว

ในฐานะผู้ดูแลหลักของโรงเตี๊ยมชิวหลู อันที่จริงเมื่อเทียบกับพรรคทำนองศักดิ์สิทธิ์แล้ว สำนักที่สตรีแต่งงานเป็นศิษย์ไม่ได้แย่กว่าเท่าไหร่นัก เพียงแต่ว่าพรรคหรือสำนักบนภูเขาทุกแห่งที่มีชื่อเสียงค่อนข้างกว้างขวางต่างก็มีถิ่นที่มั่นคงของใครของมัน พื้นที่สามเขตทางทิศเหนือของแคว้นหวงถิง พรรคทำนองศักดิ์สิทธิ์คือผู้นำในบรรดาพรรคผู้ฝึกตนเล็กใหญ่หลายสิบพรรค

แต่ไม่ว่าจะเป็นสำนักของสตรีแต่งงานแล้วหรือบนภูเขาล่างภูเขาของพื้นที่ทางเหนือแคว้นหวงถิงก็ล้วนให้ความเคารพเลื่อมใสเทพแม่น้ำที่ได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้ด้วยตัวเองอย่างยิ่ง

เพราะอย่างไรซะแคว้นหวงถิงก็ไม่ใช่ราชวงศ์ใหญ่อย่างสกุลซ่งต้าหลีหรือสกุลเกาต้าสุย นับตั้งแต่ที่สกุลหงตั้งแคว้นหวงถิงขึ้นมาก็ถือเป็นหนึ่งในสิบสองแคว้นหัวเมืองภายใต้การปกครองของต้าสุย เทพภูเขาและเทพแม่น้ำที่ได้รับการแต่งตั้งจึงมีน้อยจนนับนิ้วได้

พูดประโยคที่ไม่น่าฟังสักหน่อย ต่อให้ต้าสุยยกเลิกข้อห้าม ปล่อยให้สกุลหงแคว้นหวงถิงแต่งตั้ง มอบรางวัลให้แก่เทพภูเขาและแม่น้ำได้ตามใจชอบ แคว้นหวงถิงเองก็ไม่มีความสามารถนี้ หนึ่งเพราะขอบเขตมีจำกัด สองก็เพราะถูกตระกูลเซียนบนภูเขาที่ “แบ่งแยกดินแดนการปกครอง” ควบคุมพื้นที่มงคลที่มีปราณวิญญาณโดดเด่นไว้เป็นส่วนมาก

ดังนั้นเทพแม่น้ำที่ควบคุมชะตาแห่งน้ำของพื้นที่แห่งหนึ่งเอาไว้จึงเป็นบทบาทที่สำคัญมากซึ่งขุนนางผู้พิทักษ์เมือง หรือแม้แต่ผู้ว่าราชการมณฑลก็ยังจำเป็นต้องพยายามประจบเอาใจสุดชีวิต

บุรุษวางถ้วยชาลง ใช้สองนิ้วนวดคลึงจุดไท่หยางเบาๆ “เทพวารีบอกกับข้าซึ่งหน้าว่า ‘ก่อนหน้าที่ใต้เท้าผู้พิทักษ์เมืองจะรู้ที่ซ่อนตัวของผู้ฝึกตนอิสระคนนั้นหนึ่งวัน ข้าตรวจสอบจนได้ความแน่ชัดแล้ว แม้ใต้เท้าผู้พิทักษ์เมืองจะไม่ต้องการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม แต่ในเมื่อข้าเป็นเทพวารีแห่งแม่น้ำหันสือก็ต้องเคารพข้อบังคับที่ว่าห้ามข้องเกี่ยวกับวงการขุนนางบนโลกมนุษย์ บวกกับที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาใต้เท้าผู้พิทักษ์เมืองเป็นผู้ควบคุมดูแลท้องถิ่น นับว่าพอจะมีคุณความชอบอยู่บ้าง หากผู้พิทักษ์เมืองคนถัดไปเป็นพวกโง่เขลา สร้างปัญหามากมายที่ต้องให้คนอื่นมาตามเช็ดก้น ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อการสงบใจบำเพ็ญตนของข้า ด้วยเหตุนี้ข้าจึงจะไม่ส่งรายงานให้กับทางราชสำนัก’”

สีหน้าของสตรีแต่งงานแล้วซีดขาวเล็กน้อย “ความหมายของเทพแม่น้ำท่านนี้คือจะไม่มีทางช่วยให้ท่านขยับขึ้นหน้าไปอีกก้าว?”

บุรุษยิ้มขื่น “อยู่ที่ว่าคืนนี้ข้าจะจับคนผู้นั้นไปไต่สวนทำคดีหรือไม่”

สตรีแต่งงานแล้วรู้สึกเสียใจภายหลัง “เมื่อครู่นี้ข้าไม่ควรพาลแง่งอนใส่ท่าน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!