ขยับเข้าใกล้ตรอกเล็ก เด็กชายชุดเขียวก็บ่นขึ้นมาว่า “นายท่าน หากไปที่ตรอกเล็กครั้งนี้แล้วยังเจอกับพวกคนดุร้ายที่สามารถต่อยข้าให้ตายด้วยหมัดเดียวอีก ข้าก็บอกไว้ก่อนเลยนะว่า วันหน้าข้าจะไม่ลงจากเขากลับมาบ้านบรรพบุรุษอีกแล้ว! ถึงเวลานั้นท่านห้ามมาโทษว่าข้าไม่มีน้ำใจด้วย”
ผลกลับกลายเป็นว่าเพิ่งจะเดินมาถึงปากตรอกหนีผิง เฉินผิงอันก็ได้เห็นเงาร่างของคนที่คุ้นเคย เรือนกายอรชรอ้อนแอ้นดุจกิ่งหลิวอ่อนที่พลิ้วไปตามสายลมฤดูใบไม้ผลิ มือทั้งคู่ของนางกำลังหิ้วถังน้ำหนึ่งถัง น่าจะเพิ่งกลับมาจากบ่อน้ำตรอกซิ่งฮวา ท่าทางเหน็ดเหนื่อยจึงกระแทกถังน้ำวางลง ค้อมเอวหอบฮักๆ ถังน้ำกระแทกบนพื้นอย่างแรง สะเก็ดน้ำจึงกระเด็นออกมาไม่น้อย เพียงแต่เด็กสาวไม่สนใจคราบสกปรกที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
สาวใช้ของซ่งจี๋ซิน จื้อกุย หรือควรจะเรียกว่าหวังจู
เรื่องที่ว่านางจะเลือกเป็นสาวใช้ของเขาหรือเพื่อนบ้านอย่างซ่งจี๋ซิน เฉินผิงอันไม่เคยตำหนิเด็กสาว เพราะในตำราบอกไว้ว่า นกที่ดีมักเลือกกิ่งไม้พำนักนอน
ค่ำคืนที่มีพายุหิมะ เด็กสาวนอนหายใจรวยรินอยู่ท่ามกลางกองหิมะ ใช้แรงกำลังเฮือกสุดท้ายยื่นมือมาเคาะประตูเบาๆ
ช่วยหรือไม่ช่วย เป็นเรื่องของเฉินผิงอันเอง ส่วนคนอื่นจะคิดตอบแทนบุญคุณหรือไม่ก็เป็นเรื่องของคนอื่น
เพียงแต่ว่าได้มาพบกันอีกครั้งเร็วกว่าที่คิดไว้มาก อารมณ์ของเฉินผิงอันจึงค่อนข้างสับสน
จื้อกุยเองก็มองเห็นเฉินผิงอัน นางใช้หลังมือปาดเหงื่อบนหน้าผาก มองมาทางเขา ยังคงสวมรองเท้าแตะเหมือนเดิม เพียงแต่บนมวยผมปักปิ่นไว้อันหนึ่ง ดูเหมือนตัวจะสูงขึ้นอีกเล็กน้อย ไม่ได้ไปไหนมาไหนเพียงลำพังอีกแล้ว เพราะข้างกายมีขวดน้ำมันน้อยเพิ่มมาอีกสองขวด (ขวดน้ำมันเป็นคำเรียกเด็กเล็กที่ติดผู้ใหญ่)
เด็กสาวไม่ได้พูดอะไร
เฉินผิงอันคิดจะทักทาย แต่กลับพบว่าเด็กชายชุดเขียวรั้งแขนของเขาไว้อย่างแรง ไม่ยอมให้เขาเดินหน้าต่อ ไม่ใช่แต่เขาเท่านั้น เด็กหญิงชุดกระโปรงชมพูที่หลบอยู่ด้านหลังตนก็กำชายแขนเสื้อของเฉินผิงอันเอาไว้แน่น เด็กน้อยสองคนฟันกระทบกันดังกึกๆ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
เหมือนกับชาวบ้านขี้ขลาดที่กลัวผีมากที่สุดดันมาเห็นผีกลางวันแสกๆ เข้าจริงๆ
เด็กชายชุดเขียวเจ็บใจตัวเอง นึกอยากจะตบปากตัวเองแรงๆ ใครใช้ให้เจ้าปากอีกา! (ปากอีกาหมายถึงคนที่พูดไม่เป็นมงคล ปากไม่ดี)
เด็กหญิงชุดกระโปรงชมพูสะอื้นเสียงเบาอยู่ด้านหลังเฉินผิงอัน “นายท่าน ข้ากลัว กลัวยิ่งกว่ากลัวตายเสียอีก”
เฉินผิงอันถอนหายใจ “พวกเจ้าไปเดินเล่นที่อื่นก่อนแล้วกัน หรือจะไปช่วยดูร้านของพวกเราที่ตรอกฉีหลงก็ได้ แล้วหลังจากนี้ข้าค่อยไปหาพวกเจ้า”
เด็กน้อยทั้งสองเหมือนได้รับอภัยโทษ วิ่งตะบึงเผ่นหนีไปทันที
เฉินผิงอันเดินเข้าไปทางตรอกหนีผิงเพียงลำพัง แล้วเด็กหนุ่มก็ช่วยเด็กสาวถือถังน้ำ คนทั้งสองเดินเข้าไปในตรอกด้วยกันไม่ต่างจากภาพเหตุการณ์ของเมื่อหลายปีก่อน
จื้อกุยถาม “เด็กสองคนนั้น เป็นเด็กรับใช้ที่เจ้ารับมาใหม่รึ?”
เฉินผิงอันตอบยิ้มๆ “เจ้าว่าข้าดูเหมือนคนเป็นนายท่านหรือไง? พวกเขาก็เรียกเล่นๆ ไปอย่างนั้นเอง”
จื้อกุยร้องอ้อรับหนึ่งที
ตอนที่เดินผ่านบ้านบรรพบุรุษตระกูลเฉา ประตูหน้าบ้านของพวกเขาเปิดอ้า ผู้เฒ่าอย่างเฉาซีนั่งแทะเมล็ดแตงอยู่หน้าประตู ส่วนเด็กอย่างเฉาจวิ้นนั่งยองอยู่บนกำแพง แล้วก็แทะเมล็ดแตงเหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!