กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 222

กระบี่จงมา – บทที่ 222.3 การจากลาบางครั้งก็สามารถกลับมาพบกันได้ใหม่
บทที่ 222.3 การจากลาบางครั้งก็สามารถกลับมาพบกันได้ใหม่
โดย
ProjectZyphon
ผู้เฒ่าสวมหมวกขนเตียวโบกมือ “ไปเถอะๆ ข้าไม่ใช่หนุ่มน้อยหล่อเหลาอะไร เจ้าเป็นสาวเป็นนาง มายืนดูพระอาทิตย์ตกกับตาแก่คนหนึ่ง เจ้าไม่รู้สึกกระอักกระอ่วน แต่ข้ากลับครั่นเนื้อครั่นตัว”

เด็กสาวเดินจากไปเงียบๆ พอกลับมาถึงเรือนของตัวเองก็กลั้นหายใจทำสมาธิ รอการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง

ผู้ฝึกตนวัยชราจากกุรุทวีปที่มีฉายาว่าเจี้ยนเวิ่งจุ๊ปากเดาะลิ้น ถอดหมวกขนเตียวลง ตบลงไปบนหมวกหนักๆ สองครั้ง แล้วโยนมันออกไปนอกเรือคุน ปล่อยให้มันปลิวไปกับสายลม “ไปเถอะ เจ้าเพื่อนยาก”

ผู้เฒ่าหันกลับไปมองทางทิศเหนือ ตอนที่ยังเป็นเด็กหนุ่ม เขาเคยเป็นเมล็ดพันธ์บัณฑิตที่มีคุณสมบัติว่าจะได้เป็นวิญญูชนของกุรุทวีป แต่เพราะนิสัยเลวร้ายเกินไป หยิ่งยโสโอหังด้วยถือดีว่ามีความรู้ความสามารถ ตั้งแต่เช้ายันเย็น ตั้งแต่ต้นปียันท้ายปีก็เอาแต่ด่าทอ ด่าว่าขุนนางในราชสำนักว่าเข้าครองตำแหน่งเป็นหมาหวงก้างโดยไม่ยอมทำงาน ด่าขุนพลฝ่ายบู๊ว่าดีแต่กินข้าวร่ำสุราแต่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ด่าฮ่องเต้ว่าเป็นกษัตริย์โง่เขลา ด่าไปด่ามาก็ด่ามาถึงตัวเองที่เป็นบัณฑิตไร้ประโยชน์

ภายหลังเมื่อไม่มีทั้งบ้านและแคว้น ผู้เฒ่าก็ด่าไม่ออกอีก

ผู้เฒ่าลัทธิขงจื๊อที่ไม่มีหมวกขนเตียวแล้วเดินกลับไปยังลานบ้านขนาดเล็ก ตลอดทางที่เจอกับพวกคนงานหรือผู้คุมของภูเขาต่าเจี้ยว ทุกคนต่างก็ปฏิบัติต่อเขาด้วยความนอบน้อม ในใจผู้เฒ่ารู้สึกละอายเล็กน้อย แต่รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงเป็นปกติ เอ่ยทักทายพวกเขา พูดคุยหยอกล้อ ทำให้ผู้คนรู้สึกใกล้ชิดสนิทใจมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว เทียบกับคุณชายหูลวี่ที่ไม่ชอบพูดไม่ชอบยิ้ม หรือชิงกู่ฮูหยินที่มีนิสัยเหี้ยมอำมหิตแล้ว ผู้เฒ่าเจี้ยนเวิ่งคนนี้ ‘น่ารัก’ กว่าเป็นไหนๆ

ท่ามกลางแสงสายัณห์ ผู้เฒ่าเดินกลับห้องของตัวเอง หยิบตำราเล่มหนึ่งของลัทธิขงจื๊อมานั่งอยู่ในลานบ้าน ไม่ได้เปิดหน้าหนังสือออกอ่าน เพียงแค่หลับตาลงแล้วเริ่มงีบหลับ

อาณาเขตของแจกันสมบัติทวีปที่อยู่ด้านล่างเรือคุนคือพื้นที่ของราชวงศ์จูอิ๋ง เป็นราชวงศ์ที่แข็งแกร่งซึ่งมีผู้ฝึกกระบี่มากที่สุดในแจกันสมบัติทวีป เล่าลือกันว่าปีนั้นที่เว่ยจิ้นเซียนกระบี่พสุธาแห่งศาลลมหิมะออกเดินทางในยุทธภพเป็นครั้งแรก เคยได้มาอยู่ในราชวงศ์จูอิ๋งเป็นเวลานานมาก เขาเปิดฉากสังหารอยู่หลายครั้ง คู่ต่อสู้ของเขาล้วนเป็นผู้ฝึกกระบี่ที่ประสบความสำเร็จของราชวงศ์จูอิ๋ง

ราชวงศ์จูอิ๋งคือกองกำลังที่เจริญรุ่งโรจน์ทางภาคใต้ตอนกลางของแจกันสมบัติทวีปที่มีน้อยจนนับนิ้วได้ รัฐเล็กๆ ใต้อาณัติมีมากถึงสิบกว่าแห่ง ลำพังเพียงแค่ที่ดินของแคว้นก็เป็นรองแค่ต้าหลีที่ฮุบรวมสกุลหลูทางทิศเหนือเท่านั้น และในบรรดาลูกหลานมังกรของอดีตฮ่องเต้แคว้นจูอิ๋ง ลำพังเพียงแค่ผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตเก้าที่ตัดสินใจสละบัลลังก์ตั้งแต่แรกอย่างเด็ดขาดก็มีถึงสองคน ในกลุ่มสี่ผู้ถวายงานของเชื้อพระวงศ์ ผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตสิบคนหนึ่งเคยประมือกับหลี่ถวนจิ่งแห่งสวนลมหิมะซึ่งมีชื่อเสียงว่าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งเบื้องล่างห้าขอบเขตบนของแจกันสมบัติทวีปมาถึงสามครั้ง แม้ว่าจะแพ้ทั้งสามครั้ง แต่ก็เพราะขีดจำกัดด้านความต่าง ไม่อย่างนั้นหลี่ถวนจิ่งก็ไม่มีทางตอบรับการท้ารบสองครั้งสุดท้าย

ก่อนหน้านี้สองราชวงศ์ใหญ่ที่อยู่ทางเหนือของสำนักศึกษากวานหูทำสงครามกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งสองฝ่ายต่างก็บาดเจ็บสาหัส สูญเสียพลังต้นกำเนิดไปอย่างมหาศาล ราชวงศ์จูอิ๋งที่อยู่ทางทิศใต้ห่างมาไม่ไกลนักทำเพียงนั่งดูไฟชายฝั่ง คนทั่วทั้งราชสำนักต่างก็รู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น

แจกันสมบัติทวีปมีแคว้นมากมายเหมือนต้นไม้ในผืนป่า ทว่า ‘ราชวงศ์’ ที่สมกับชื่ออย่างแท้จริงก็มีจำนวนแค่สองมือนับเท่านั้น

ราชวงศ์สกุลหลูทางทิศเหนือเป็นดั่งกลุ่มควันที่ลอยผ่านสายตาไปแล้ว ว่ากันว่าเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่แขวนคอตายก็แขวนคอตาย ที่กระโดดบ่อน้ำก็กระโดดบ่อน้ำ คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็กลายไปเป็นนักโทษลี้ภัย ถูกบีบให้ไปบุกเบิกภูเขาขุดดินให้กับสกุลซ่งต้าหลี สกุลเกาต้าสุยเป็นดั่งฝ่ามือข้างเดียวที่ตบไม่ดัง ขยับลงใต้ไปอีกก็คือสองราชวงศ์คู่แค้นที่ทำสงครามกันอย่างดุเดือด แม้แต่สมบัติน้อยนิดที่บรรพบุรุษเหลือไว้ให้ก็เอาไปทุ่มในสงครามจนหมด สู้กันจนพินาศวอดวายทั้งสองฝ่าย ศพกลาดเกลื่อนเต็มพื้น เลือดไหลนองไปพันลี้ สถานที่ที่สองราชวงศ์เลือกเป็นสนามตัดสินชะตากรรมถูกกำหนดมาแล้วว่าต้องกลายเป็นซากปรักหักพังของสมรภูมิรบแห่งหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ในตำราประวัติศาสตร์

ทางทิศเหนือของแจกันสมบัติทวีปซึ่งอยู่เหนือแคว้นหนันเจี้ยนและสำนักศึกษากวานหูขึ้นมาเข่นฆ่ากันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน

ทางทิศใต้กลับยังคงสงบสุข ผู้คนระบำรำฟ้อนเฉลิมฉลอง

ทว่ายามพลบค่ำของวันนี้ บนยอดเขาไม่ทราบชื่อในขอบเขตของราชวงศ์จูอิ๋งพลันมีปราณกระบี่นับพันนับหมื่นเส้นผุดพวยพุ่ง ส่องให้รัศมีหลายสิบลี้โดยรอบสว่างไสวราวกับยามกลางวัน ปราณกระบี่พุ่งเข้าไปยังชั้นเมฆเหมือนม่านน้ำตกที่ทวนกระแสพุ่งจากเบื้องล่างขึ้นสู่งเบื้องบน ระบายปราณอันเดือดพล่านเข้าใส่เรือคุนที่ลอยลำอยู่กลางอากาศพอดี

เพียงเสี้ยววินาที เรือคุณขนาดมโหฬารที่เดินทางข้ามผ่านทวีปก็ทะลุเป็นหลุมเป็นรูนับร้อยนับพัน คนหลายร้อยคนตายอนาถคาที่ ปลาคุนที่ถูกโจมตีบาดเจ็บสาหัสร้องโหยหวนดิ้นสะบัดอย่างรุนแรง เดิมทีเมื่อถูกปราณกระบี่โจมตี ค่ายกลที่ใช้ยึดสิ่งปลูกสร้างมากมายให้ตั้งอยู่บนบนสันหลังของเรือคุนอย่างมั่นคงก็พังทลายไม่เหลือชิ้นดีอยู่แล้ว พอปลาคุนสะบัดตัวแบบนี้ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มเกล็ดน้ำค้างลงบนหิมะ บวกกับที่บนท้องฟ้ามีพายุลมกรดพัดกระโชกแรง คนอีกหลายร้อยคนจึงพัดวูบตกจากสันหลังปลาคุน ร่างกระแทกพื้นดินตายอยู่ในอาณาเขตของราชวงศ์จูอิ๋ง

เรือคุนถูกทำลายคือสถานการณ์ที่ถูกกำหนดมาไว้แน่นอนแล้ว ผู้ฝึกลมปราณของภูเขาต่าเจี้ยวซึ่งรวมไปถึงเจ้าของเรือต่างก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองปลาคุนที่ดิ้นรนก่อนตายดิ่งวูบลงไปบนพื้นอย่างต่อเนื่อง

ระหว่างนั้นมีนักพรตใหญ่ที่ตระหนกลนลานทะยานตัวขึ้นกลางอากาศเป็นระยะ พวกชิงกู่ฮูหยินก็คือคนกลุ่มหนึ่งในนั้น

ชิงกู่ฮูหยินที่ร่างผอมแห้งสูงโปร่งสีหน้าเขียวคล้ำ พอดวงตาที่แคบยาวหรี่ลงก็ยิ่งฉายประกายคมกริบ มือหนึ่งของนางอุ้มลูกชาย อีกมือหนึ่งคว้าคอของสามี จ้องเขม็งไปยังเรือคุนที่ดิ่งวูบลงด้านล่างอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ย้ายสายตาไปมองต้นกำเนิดของปราณกระบี่เหล่านั้น ราวกับว่าต้องการตามหาตัวการร้ายที่อยู่เบื้องหลังเรื่องครั้งนี้

มีนักพรตที่มองไกลๆ ร่างเล็กเหมือนเมล็ดข้าวสารทะยานตัวขึ้นกลางอากาศไม่ขาดสาย พยายามหนีห่างจากเรือคุนให้ได้โดยเร็วที่สุด

ทว่าพวกผู้ฝึกลมปราณที่ไม่อาจบินกลางอากาศกลับถูกกำหนดมาแล้วว่าต้องปล่อยชะตาชีวิตให้เป็นไปตามลิขิตของสวรรค์ อีกอย่างหากร่างของปลาคุนกระแทกลงพื้นดิน ทุกคนต้องตายกันหมดอย่างแน่นอน ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะรอดหายนะครั้งนี้มาได้เลย

แต่เวลานี้เองกลับมีแสงสีทองที่ยาวมากเส้นหนึ่งวาดเส้นโค้งมาจากทางทิศเหนือ

แสงทองมาหยุดอยู่ใต้เรือคุน

นั่นคือหลวงจีนวัยกลางคนที่ใบหน้าแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยว เห็นเพียงว่าเขาใช้สองมือยันปลาคุนเอาไว้ คำรามกร้าวอย่างเดือดดาล หัวเข่าสองข้างงอเล็กน้อย ใต้ฝ่าเท้ามีดอกบัวสีทองขนาดใหญ่ผุดลอยขึ้นมา

ทว่าการร่วงดิ่งของเรือคุนรุนแรงถึงเพียงนั้น นี่จึงไม่ต่างจากขุนเขาที่กดทับลงมาบนศีรษะของเขา

หลวงจีนถูกกดทับจนร่างลดต่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง ดอกบัวใต้ฝ่าเท้าพากันปริแตก แม้ว่าการปรากฎตัวของเขาจะช่วยชะลอความเร็วในการร่วงลงของเรือคุนไว้ได้ แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ เกรงว่าหลวงจีนเองก็คงต้องถูกศีรษะของปลาคุนพากระแทกลงไปใต้ดินหลายสิบจั้ง

เลือดสดๆ ไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดของหลวงจีนวัยกลางคน ทว่าเลือดของเขาไม่ใช่สีแดง แต่เป็นสีเหลืองทอง

เขามีร่างอรหันต์ทองคำของศาสนาพุทธ!

หลวงจีนไม่มีความคิดที่จะล้มเลิก หลังจากตวาดกร้าวเสียงดังก็หมุนตัวกลับฉับพลัน โก่งหลังงอขึ้นเหมือนคนที่แบกของไว้บนหลังแล้วห้อตะบึงไปเบื้องหน้า มือสองข้างที่ว่างอยู่เริ่มสร้างตราผนึกขึ้นตรงหน้าอกของตัวเอง

ผู้บำเพ็ญตบะของศาสนาพุทธท่านนี้ตั้งปลายแขนข้างขวาขึ้น นิ้วกางขึ้นด้านบนเหมือนเทือกเขาหลายลูก ฝ่ามือหันออกไปด้านนอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!