เด็กชายเม้มปาก ส่ายหน้าอย่างแรง
มือดาบสีหน้าเย็นชา ก้าวยาวๆ ไปข้างหน้า จับศีรษะของเด็กชายแล้วผลักไปด้านหลัง เด็กชายจึงกระแทกกับกำแพงทางฝั่งนั้น มือดาบใช้ดาบเล่มยาวผ่ากองฟืนแหวกออกเป็นสองฟาก ด้านในมีเด็กหญิงใบหน้าแห้งตอบ ถูกมัดไว้แน่น ดวงตาข้างหนึ่งของนางกำลังมีเลือดสดไหลลงมาไม่หยุด ดวงตาอีกข้างกลับไม่ต่างจากดวงตาของคนปกติ ริมฝีปากของเด็กหญิงเขียวคล้ำ สั่นระริกเบาๆ
มือดาบยกดาบขึ้นหมายจะฟันลงไป เด็กชายตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน คว้ามีดผ่าฟืนเล่มหนึ่งพุ่งเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กหญิง กัดฟันพูด “ถ้าเจ้ากล้าข้านาง ข้าก็จะฆ่าเจ้า!”
เพียงเปิดปากก็พูดภาษาทางการของทวีปอย่างชัดถ้อยชัดคำ ไม่เสียแรงที่ตระกูลจ้าวคือตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองแยนจือ ต่อให้เป็นเด็กชายที่เป็นเพียงบ่าวไพร่ของจวนก็ยังรู้ภาษาทางการของทวีป
มือดาบยิ้มอย่างสง่างาม “เจ้าคนไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่น รู้หรือไม่ว่าความเมตตาเล็กน้อยของเจ้าในวันนี้อาจทำให้คนนับร้อยนับพันต้องตาย”
เด็กชายร่างผอมแห้ง สวมเสื้อผ้าตัวบางๆ กล่าวด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว “ข้าไม่สนใจ ข้าจะปกป้องหลวนหลวน!”
มือดาบถีบเด็กชายที่ถือมีดผ่าฟืนจนตัวปลิว ดาบที่เร็วดุจพายุของเขาฟันใส่เด็กหญิงที่น่าสงสารคนนั้น
เสียงกระพรวนเงินดังขึ้น พายุดาบบดขยี้ดอกไม้สีทองหลายดอกที่บินหมุนคว้างมาถึงจนแหลกละเอียด มือของมือดาบชะงักไปเล็กน้อย แต่คมดาบที่ตวัดลงก็ยังทิ้งรอยเลือดกรีดเป็นรอยยาวชุ่นกว่าไว้บนหน้าผากของเด็กหญิง
หนึ่งดาบถูกขัดขวาง มือดาบไม่ได้โมโห เพียงหันหน้ามามองเด็กสาว ถามว่า “หลิวเกาซิน เจ้าช่วยนางได้หรือ? เรื่องคนกลายเป็นมาร คนอื่นอาจไม่รู้ว่าร้ายแรงแค่ไหน แต่เจ้าที่เป็นผู้ฝึกตนจะไม่รู้เชียวหรือ? ถ้าอย่างนั้นพอถึงเวลาที่สถานการณ์เลวร้ายเกินกว่าจะแก้ไข เจ้าจะเป็นคนจัดการกับเด็กหญิงคนนี้ด้วยมือของตัวเองหรือไม่?”
หลิวเกาซินหน้าซีดขาว ริมฝีปากสั่นระริก “ข้าอดสงสารนางไม่ได้”
มือดาบร้องเฮอะ “คงเป็นเพราะตอนอยู่หน้าจวนประตูจ้าวเมื่อครู่นี้ พวกคนที่กลายเป็นมารถูกข้าสังหารเร็วเกินไป คุณหนูหลิวก็เลยไม่ทันเห็นภาพที่พวกเขากัดกินเลือดเนื้อของชาวบ้านสินะ”
เด็กชายดิ้นรนลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง เขาที่เจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งร่างถือมีดแทบไม่อยู่มือ ปลายมีดสั่นไหว แต่เด็กชายก็ยังหันไปแผดเสียงใส่มือดาบ “เจ้าคนสารเลว แน่จริงเจ้าก็ฆ่าข้าเสียก่อนสิ!”
มือดาบแค่นหัวเราะ “ฆ่าเจ้าแล้วจะมีประโยชน์อะไร”
หลิวเกาซินตาแดงก่ำ หันหน้าไปทางอื่นเพราะทนมองต่อไปไม่ไหว
ด้านนอกมีเสียงคนเอ่ยขึ้นว่า “ช้าก่อน”
มือดาบที่ยืนหันหลังให้ประตูคิดแล้วก็เก็บดาบเข้าฝัก หันตัวมากุมมือคารวะส่งยิ้มให้คนผู้นั้น “ในเมื่อเซียนซือพูดแล้ว ข้าก็ไม่ทำอะไรที่เกินความจำเป็นอีก”
ที่แท้ก็เป็นเฉินผิงอันที่ย้อนกลับมาตระกูลจ้าวอีกครั้ง เขาผงกศีรษะคารวะคืนมือดาบ
เฉินผิงอันก้าวเร็วๆ เข้าไปในห้องเก็บฟืน ทรุดตัวนั่งยองอยู่ตรงหน้าเด็กหญิง พบว่าดูเหมือนเด็กหญิงจะพยายามต่อต้านอาคมมารที่อยู่ในร่างกายสุดกำลัง อีกทั้งต่อให้ดวงตาจะมีเลือดซึมลงมา เจ็บปวดราวกับหัวใจถูกคว้าน แต่นางก็ยังกัดปากแน่น ไม่ร้องออกมาสักเอะ เด็กหญิงพยายามลืมตาข้างที่เป็นปกติขึ้น สายตานั้นเต็มไปด้วยแวววิงวอนขอร้อง คนเราหากยังมีชีวิตอยู่ต่อได้ ใครเล่าจะอยากตาย โดยเฉพาะเด็กที่อายุเพียงเท่านี้
เฉินผิงอันมองเด็กหญิงผู้เข้มแข็ง ยื่นมือไปตบศีรษะของนางเบาๆ อย่างอ่อนโยน พูดเสียงอบอุ่น “ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว เจ็บก็ร้องออกมา ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไร”
เด็กหญิงเงยหน้า ดวงหน้าเล็กๆ ของนางครึ่งซีกมีเลือดสดหลั่งนอง มองเด็กหนุ่มแปลกหน้าที่ส่งยิ้มน้อยๆ มาให้ตนแล้วก็ร้องไห้จ้า
ความน้อยเนื้อต่ำใจบางอย่าง ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ มีเพียงคนที่เคยได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจเหมือนกันเท่านั้นถึงจะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้
ไม่อย่างนั้นต่อให้คนที่อยู่ข้างกายจะมีจิตใจดีงามหรือหวังดีมากแค่ไหน ก็คงไม่สามารถทำให้คนสบายใจได้อย่างแท้จริง
เฉินผิงอันช่วยคลายเชือกให้นาง หมุนตัวกลับหลัง หันหน้ามาพูดกับนางว่า “มา ข้าจะแบกเจ้าไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยแห่งหนึ่ง ให้คนช่วยเจ้า”
เมื่อสองมือน้อยที่เย็นเฉียบวางลงบนไหล่ เฉินผิงอันก็เอ่ยกับเด็กชายที่ถือมีดผ่าฟืนยิ้มๆ “รบกวนเจ้าใช้เชือกมัดพวกเราไว้ด้วยกัน ข้ากลัวว่าตอนเดินออกไปจะเกิดเรื่อง จะไม่ทันได้ดูแลนาง เจ้าต้องเร็วหน่อย ทำได้หรือไม่?”
“ได้!” เด็กชายโยนมีดผ่าฟืนทิ้ง เช็ดน้ำตาบนใบหน้าลวกๆ รีบวิ่งไปหยุดข้างกายเฉินผิงอันและเด็กหญิง จับคนทั้งสองมัดไว้ด้วยกันอย่างคล่องแคล่วว่องไว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!