สุดท้ายตอนออกจากถ้ำสวรรค์หลีจู ไช่จินเจี่ยนยังคงเป็นไช่จินเจี่ยนที่มีปณิธานยาวไกล แต่ก็ไม่ใช่เทพธิดาของภูเขาเมฆาเรืองที่รู้สึกว่าฝึกตนก็เพื่อเพิ่มตบะให้ตัวเองอย่างเดียวเท่านั้นอีกต่อไป
ก่อนจะจากมา ไช่จินเจี่ยนปลุกความกล้าสอบถามอาจารย์ว่าทำไมถึงต้องช่วยคนแบบตน
อาจารย์ฉีท่านนั้นตอบอย่างตรงไปตรงมาด้วยรอยยิ้มว่า “ช่วยเจ้า ไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของฟ้าดินแห่งนี้ แต่กลับเป็นหลักการของข้าฉีจิ้งชุน”
ไช่จินเจี่ยนถามอีกว่าเหตุใดถึงเต็มใจสอนหลักการของอริยะปราชญ์ให้แก่คนอย่างนาง
อาจารย์ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ่ายทอดวิชาความรู้ สามารถไขข้อข้องใจได้ข้อหนึ่งก็คือข้อหนึ่ง หลักการที่ถูกต้องในหนังสือ สามารถอธิบายได้ข้อหนึ่งก็คือข้อหนึ่ง”
ไช่จินเจี่ยนกลับไปที่ภูเขาเมฆาเรือง ต่อให้ปัญหายากๆ และข้อข้องใจในการฝึกตนจะไม่มีอยู่แล้ว แต่กระนั้นนางก็ยังไม่รีบร้อนที่จะทำให้ขอบเขตของตัวเองสูงขึ้น เพียงแค่อ่านหนังสือที่อาจารย์ฉีแนะนำให้ครบหนึ่งรอบ ครุ่นคิดไตร่ตรองตามถ้อยคำของอาจารย์ครั้งแล้วครั้งเล่า
คนนอกรู้สึกว่านางละทิ้งการฝึกตน ตัวไช่จินเจี่ยนเองกลับไม่คิดเช่นนั้น
ภายหลังอาจารย์ของนางมาเล่าให้ฟังว่าอาจารย์ฉีท่านนั้นตายแล้ว ใช้กำลังของคนคนเดียวต้านทานเซียนบนสวรรค์หลายท่านอยู่เหนืออาณาเขตทางทิศเหนือของแจกันสมบัติทวีป สุดท้ายแหลกสลายกลายเป็นผุยผง บนโลกนี้ไม่มีฉีจิ้งชุนอีกต่อไป
ไช่จินเจี่ยนไม่ได้รู้สึกรวดร้าวปานจะขาดใจอะไร แค่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
หลังจากนั้นมานางก็เริ่มวางตำราลงและกลับมาฝึกตนอีกครั้ง เพียงไม่นานก็ฝ่าทะลุขอบเขตหนึ่งได้สำเร็จ แต่นางจงใจระงับขอบเขตของตนเอาไว้ หลีกเลี่ยงไม่ให้สร้างความตกตะลึงแก่คนทั้งโลกมากเกินไป ครั้งนี้นางถึงได้มีโอกาสมาเผยตัวที่นครมังกรเฒ่า
โชคลาภและหายนะที่เคียงคู่กันมานี้ ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากการพบปะกันในเส้นทางแคบๆ ของตรอกหนีผิงครั้งนั้นทั้งสิ้น
สืบสาวราวเรื่องกันถึงแก่นแล้วล้วนอยู่ที่ตนซึ่งตอนนั้นหลงเดินทางผิดคิดทำร้ายเด็กหนุ่มคนนั้น
และเห็นได้ชัดว่าท่าทางที่อาจารย์ท่านนั้นมีต่อเด็กหนุ่มไม่เหมือนกับท่าทีที่อริยะคนหนึ่งมีต่อชาวบ้านต่ำศักดิ์ซึ่งทุกเรื่องต้องใช้กฎเกณฑ์เป็นบรรทัดฐาน แต่กลับเหมือนผู้ใหญ่ที่ปกป้องผู้น้อยอย่างที่แทบจะไม่สนใจกฎเกณฑ์เลยด้วยซ้ำ
เพราะหากตนตายอยู่ในตรอกเล็ก สถานการณ์ที่วิถีสวรรค์จะย้อนกลับมาโจมตีและผลกรรมของทางศาสนาพุทธอาจจะไปตกอยู่ที่ตัวของเด็กหนุ่มคนนั้น
และการที่อาจารย์ฉีถ่ายทอดความรู้ ไขข้อข้องใจให้นางหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายมาก คงเป็นเพราะเขารู้สึกว่านางยังพอมีทางเยียวยา ดังนั้นอาจารย์ท่านนั้นจึงเต็มใจจะสอน
ไช่จินเจี่ยนคิดเรื่องราวมากมายที่เมื่อก่อนตนไม่เคยคิดตกได้อย่างกระจ่างแจ้ง จิตใจปลอดโปร่ง กำจัดฝุ่นผงสิ่งสกปรกทั้งหมดจนสะอาดเอี่ยม และภูเขาเมฆาเรืองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องความคิดมากที่สุด นางจึงฝ่าทะลุขอบเขตได้อย่างรวดเร็ว
มาอยู่ในจวนหลงซิ่งของว่าที่เจ้านครมังกรเฒ่า ไช่จินเจี่ยนไม่ได้สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป แต่จู่ๆ นางกลับยิ้มอย่างเข้าใจว่า “ฝูหนันหัว การเป็นพันธมิตรครั้งแรกของพวกเรามีจุดจบอเนจอนาถ การเป็นพันธมิตรครั้งที่สองในวันนี้ เจ้าและข้ามาลองเดิมพันกันอีกสักครั้งดีไหม? ข้าเดิมพันว่าเจ้าสามารถสวมชุดคลุมมังกรเฒ่า ข้าสามารถได้ขึ้นเป็นเจ้าภูเขา เป็นไง? ตอนนี้ข้าสามารถรับปากได้ว่า ขอแค่ข้าได้กุมอำนาจใหญ่ของภูเขาเมฆาเรือง จะไม่แบ่งขายหินรากเมฆทั้งหมดให้กับอีกห้าตระกูลของนครมังกรเฒ่าอีก แต่จะขายให้ตระกูลฝูของเจ้าเพียงแห่งเดียว! และก่อนที่จะเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะแจ้งอาจารย์ให้พยายามเพิ่มปริมาณขายแก่เรือปลาวาฬกลืนสมบัติให้สูงขึ้น”
ฝูหนันหัวรู้สึกทำอะไรไม่ถูก สงสัยว่าจะมีกับดักหรือความลี้ลับอย่างอื่นอีกหรือไม่ จึงไม่มีความมาดมั่นอย่างก่อนหน้านี้ไปชั่วขณะ
แม้ว่าสิ่งที่เผชิญในถ้ำสวรรค์หลีจูจะไม่ได้กลายเป็นอุปสรรคเป็นปมทางใจบนเส้นทางการฝึกตน แต่หากไม่ได้สืบสาวราวเรื่องให้ละเอียดแล้วรีบตัดสินใจว่าจะจัดการกับเด็กหนุ่มบ้านนอกของตรอกหนีผิงผู้นั้นอย่างไร ในใจของฝูหนันหัวก็ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
ไช่จินเจี่ยนลุกขึ้นยืน เดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ กับเสามังกรวนต้นหนึ่ง กำลังชื่นชมไข่มุกสีขาวหิมะเม็ดนั้น
สุดท้ายฝูหนันหัวก็ไม่ได้ปฏิเสธไช่จินเจี่ยน เพียงแค่บอกให้นางรอสักสองสามวัน
หลังจากที่ไช่จินเจี่ยนไปจากจวนส่วนตัวแห่งนี้แล้ว ฝูหนันหัวก็ปลดเครื่องประดับหยกที่มีความหมายไม่ธรรมดาต่อนครมังกรเฒ่ามากำไว้ในมือ เดินวนอยู่ในห้องโถงใหญ่ ชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสีย
บุรุษร่างสูงใหญ่คนหนึ่งที่สวมชุดคลุมมังกร ลักษณะสุขุมเปี่ยมไปด้วยบารมีปรากฏกายจากความว่างเปล่า มายืนข้างเสามังกรวนในห้องโถงใหญ่ เงยหน้ามองไข่มุกเม็ดใหญ่ยักษ์ที่คาบอยู่ในปากมังกร ราวกับว่าบุรุษจะต้องการมองผ่านสายตาของไช่จินเจี่ยนไปเห็นจุดที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
เขามาอย่างเงียบเชียบ เป็นเหตุให้ฝูหนันหัวไม่ทันรู้สึกตัว รอจนฝูหนันหัวตระหนักได้ บุรุษก็ถอนสายตากลับมามองหลานชายคนนี้แล้ว เอ่ยถามว่า “ทำไมถึงไม่รับปากนาง?”
ฝูหนันหัวตอบ “แค่รู้สึกว่าจิตใจไม่อาจสงบได้”
บุรุษสวมชุดคลุมมังกรซึ่งก็คือฝูฉีเจ้านครมังกรเฒ่าพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ง่ายมาก หากไม่สังหารเฉินผิงอันเพื่อระงับริ้วคลื่นในทะเลสาบหัวใจ ใช้พลังของเวทคาถาพยายามสะบั้นอิทธิพลทั้งหมดที่อริยะลัทธิขงจื๊อคนหนึ่งมีต่อเจ้า ไม่ก็คล้อยไปตามสถานการณ์ หากอยู่ที่อื่นแล้วมีปมในใจที่ยากจะกำจัดทิ้ง ยิ่งเดินไปที่สูงก็ยิ่งอาจขยายจุดบกพร่องให้ใหญ่มากขึ้น แต่เมื่ออยู่ในตระกูลฝูของนครมังกรเฒ่า เดิมทีก็ถือเป็นหนึ่งในเวทลับที่จะขมวดรวมให้กลายเป็นไข่มุกในทะเลสาบหัวใจอยู่แล้ว”
บุรุษหัวเราะเยาะเย้ย “ปัญหายุ่งยากเล็กน้อยแค่นี้ เจ้าก็จำเป็นต้องคิดไม่ตกขนาดนี้ด้วยหรือ? ดูท่าเจ้าคงไม่คิดจะสวมชุดคลุมมังกรเฒ่าบนร่างข้าตัวนี้ไปตลอดชีวิตแล้วสินะ?”
ฝูหนันหัวเหงื่อแตกพลั่ก
บุรุษส่ายหน้า “คนหนึ่งก็ตายไปแล้ว อีกคนเป็นแค่เด็กหนุ่ม กลับทำให้เจ้าอึดอัดใจได้ถึงเพียงนี้ ข้าฝูฉีให้กำเนิดบุตรชายที่ดีจริงๆ”
ฝูหนันหัวหน้าซีดขาว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!