ถีบตัวเองแล้ว ไอ้หมอนั่นยังมีหน้ามายิ้มแย้มอีกรึ?
ปากพูดว่ากลัวตาย แต่ทำไมพอมาเจอกับนายท่านใหญ่ลู่อย่างข้า เจ้าเฉินผิงอันถึงไม่กลัวตายบ้างล่ะ?
คิดจริงๆ หรือว่าเจินเจียน ม่ายกวางของข้าเป็นเหมือนเครื่องประทินโฉมที่ถูกทอดทิ้งซึ่งมีไว้โอ้อวดเท่านั้น?
จู่ๆ ลู่ไถก็รู้สึกอัดอั้น เพราะนึกขึ้นมาได้ว่าเฉินผิงอันไม่รู้ถึงการดำรงอยู่ของกระบี่บินสองเล่มนี้
ลู่ไถลุกขึ้นยืน ขม้ำกินซาลาเปาเนื้ออย่างโกรธๆ แล้วเอ่ยเตือนว่า “ที่ปลาวาฬกลืนสมบัติหนึ่งหมัด ที่ท่าเรือนี่หนึ่งเท้า สองครั้งแล้วนะ!”
เฉินผิงอันเอ่ยยิ้มๆ “เรื่องเดิมไม่ทำซ้ำสามครั้ง”
ลู่ไถกล่าวเสียงดุดัน “หากกล้ามีครั้งที่สาม ถ้าข้าไม่ฆ่าเจ้าให้ตายก็จะสวมชุดผู้หญิงมาทำให้เจ้าสะอิดสะเอียนจนตาย!”
เฉินผิงอันรีบยกแขนขึ้น ชูสองนิ้วประกบกัน แสร้งทำท่าเป็นสาบานต่อสวรรค์ แต่คำพูดที่กล่าวกลับกลายเป็นว่า “หากมีครั้งที่สาม ขอเจ้าโปรดเลือกสังหารข้า”
ลู่ไถคลี่ยิ้มทันที
เห็นว่าลู่ไถไม่มีทีท่าว่าจะเอาเรื่องต่อ เฉินผิงอันจึงเงยหน้าขึ้น ห่างไปไกลมีภูเขาใหญ่สูงตระหง่านลูกหนึ่ง แค่ช่วงกึ่งกลางภูเขาก็มีทะเลเมฆปกคลุมแล้ว เป็นเหตุให้คนบนโลกมองไม่เห็นทัศนียภาพบนภูเขา ว่ากันว่าภายในหนึ่งปีมีโอกาสแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่คนด้านล่างภูเขาจะมองเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมดได้ ซึ่งบนยอดเขามีตำหนักโอ่อ่าเรียงรายดุจพระราชวังอยู่แห่งหนึ่ง
ใน ‘จารึกภูเขาและทะเล’ ตำราเซียนมีบันทึกถึงสำนักฝูจีแห่งนี้ ซึ่งมีอยู่สองข้อที่ทำให้เฉินผิงอันจดจำได้อย่างลึกซึ้ง สำนักฝูจีก็เหมือนจวนเทียนซือภูเขามังกรพยัคฆ์ พวกเขาต่างก็ไม่ถือเป็นหนึ่งในสามสายของลัทธิเต๋า เชี่ยวชาญด้าน ‘เทพเซียนถามตอบ หลายคนบรรลุเป็นเจินเหรินคอยให้ความรู้’ พูดง่ายๆ ก็คือมีส่วนคล้ายคลึงกับศาลลมหิมะ เขาเจินอู่ของแจกันสมบัติทวีปที่สามารถอัญเชิญเทพเซียนลงมาได้ ต่างกันที่ว่าผู้ที่ถูกอัญเชิญลงมายังโลกมนุษย์คือทวยเทพหรือเซียนที่แท้จริงเท่านั้น
นอกจากนี้บนภูเขาของสำนักฝูจียังเลี้ยงภูติประหลาดไว้มากเป็นอันดับหนึ่งของใบถงทวีป ตรงกลางภูเขามีสถานที่แห่งหนึ่งเรียกว่าถนนเรียกสวรรค์ซึ่งเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์หลากหลาย
เฉินผิงอันสนใจภูติโบราณที่ร่าเริงน่ารักเหล่านั้นมาโดยตลอด จึงอยากจะมาเปิดหูเปิดตาที่สำนักฝูจี หากเป็นในอดีตเขาแค่คงคิดในใจเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้กลับยินดีที่จะลองทำดู
อีกทั้งเมื่อสะพาย ‘ปราณกระบี่’ เล่มนั้น พอเฉินผิงอันเดินไปทางทิศเหนือ ปราณกระบี่ก็จะสั่นเบาๆ ด้วยเหตุนี้จิตวิญญาณของเฉินผิงอันจึงสั่นสะเทือนตามไปด้วย หากเขาเดินไปทางทิศใต้ ปราณกระบี่ก็จะไม่มีความเคลื่อนไหว
นี่ทำให้เฉินผิงอันวางใจลงได้ เมื่อเดินไปทางเหนือ อย่างน้อยก็ขยับเข้าใกล้แจกันสมบัติทวีปมากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับเรื่องการไปเที่ยวชมถนนเรียกสวรรค์ ลู่ไถชูสองมือสนับสนุน บอกว่าสิ่งของมากมายของที่นั่นไม่เพียงแต่หายาก ราคายังเป็นธรรม เป็นหนึ่งในสถานที่ของใบถงทวีปที่ผู้ฝึกลมปราณต้องไปเยือน
ภูเขาที่มองดูเหมือนว่าห่างไปไม่ไกล แต่เวลาเดินจริงๆ กลับไม่เป็นเช่นนั้น เฉินผิงอันในเวลานี้ไม่ใช่ลูกนกที่หัดโบยบินอยู่ในยุทธภพอีกแล้ว ตลอดทางเขาคอยมองไปยังภูเขาที่มีไอเมฆหมอกล้อมวนอยู่ตลอดเวลา รู้ดีว่าด้วยความร้ายกาจของสำนักฝูจี หากเอาไปวางไว้ในแจกันสมบัติทวีปคงเป็นรองแค่สำนักโองการเทพระดับเดียวเท่านั้น
สำนักฝูจีที่ตั้งอยู่ภาคกลางของใบถงทวีปแห่งนี้ ในเมื่อเป็นตระกูลเซียนที่มีคำว่าสำนักอยู่ในชื่อก็หมายความว่าอย่างน้อยต้องมีขอบเขตหยกดิบคนหนึ่ง และเมื่อเปรียบเทียบกับแจกันสมบัติทวีปที่มีอาณาเขตเล็กสุดแล้ว ตระกูลเซียนบนยอดเขาของใบถงทวีปยิ่งมีน้ำหนักมากกว่าและรากฐานแน่นหนากว่า บวกกับที่ทิศใต้และทิศเหนือต่างก็มีสำนักใบถงและสำนักกุยหยกคอยกุมพื้นที่ทางปลายทั้งสองด้านเอาไว้ ก็เหมือนได้ยึดครองโชคชะตาครึ่งหนึ่งของใบถงทวีปไป ดังนั้นสำนักใดก็ตามในใบถงทวีปที่ยังสามารถลุกผงาดได้อย่างโดดเด่น ส่วนมากก็มักจะเป็นกองกำลังอันแข็งแกร่งที่บุกสังหารจนเลือดนองไปตลอดทาง
เมื่ออยู่ว่างไม่มีอะไรทำ ลู่ไถจึงคุยให้ฟังถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของใบถงทวีปที่แตกต่างไปจากแจกันสมบัติทวีป แจกันสมบัติทวีปคือสถานที่เล็กๆ หากไม่เป็นเพราะฉีเจินของสำนักโองการเทพเลื่อนสู่ขอบเขตที่สิบสองเซียนเหริน ได้รับยศเทียนจวินที่ทางสำนักเบื้องบนในทวีปแผ่นดินกลางเป็นผู้มอบให้ มองภายนอกก็จะไม่มีขอบเขตเซียนเหรินแม้แต่คนเดียว ดังนั้นตอนที่เฉินผิงอันมองกำแพงของเรือนซือเตาจึงได้เห็นว่ามีคนมอบเงินรางวัลนำจับซ่งจ่างจิ้งอ๋องเจ้าแคว้นต้าหลี เหตุผลก็แค่เพราะแจกันสมบัติทวีปไม่คู่ควรที่จะมีผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตสิบ อันที่จริงนี่เป็นเหตุผลที่ทั้งน่าหัวเราะ แล้วก็ไม่น่าหัวเราะไปพร้อมๆ กัน
หันกลับมามองใบถงทวีป ลูกพี่ใหญ่อย่างสำนักใบถงและสำนักกุยหยกล้วนเป็นตะพาบเฒ่าที่เหล่าขอบเขตเซียนเหรินซ่อนแฝงตัวมาหลายร้อยปี
สำนักฝูฉีมีผู้ฝึกตนขอบเขตหยกดิบอยู่สองคน หนึ่งชายหนึ่งหญิง เป็นคู่รักร่วมบำเพ็ญตน สร้างความอิจฉาแก่ผู้คน
เล่าลือกันว่าการที่สำนักฝูจีสามารถมีถนนเรียกสวรรค์ที่ผู้คนพากันสัญจรขวักไขว่สายนั้นก็เพราะ ผู้ฝึกตนหญิงขอบเขตหยกดิบคนนั้นชอบเลี้ยงภูติ ต่อให้กลายเป็นเซียนพสุธาแล้วก็ยังไปปรากฏตัวข้างนอกบ่อยๆ นางชอบลงจากเขาเพื่อไปเก็บสะสมภูติหลากหลายชนิดโดยเฉพาะ เจ้าสำนักฝูจีจึงใจป้ำทุ่มทรัพย์สินส่วนตัวของตัวเองสร้างถนนเรียกสวรรค์ขึ้นมา เพียงเพื่อให้คนรักไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเดินทางไปไกล
พูดถึงเรื่องบุญคุณความรักของคนคู่นี้ ใบหน้าของลู่ไถเต็มไปด้วยความเคลิบเคลิ้มและวาดฝัน ทำเอาเฉินผิงอันที่อยู่ข้างๆ ขนลุกขนชัน ด้วยไม่รู้ว่าลู่ไถจินตนาการว่าตัวเองคือเจ้าสำนักฝูจี หรือผู้ฝึกตนหญิงที่เป็นคู่รักของเขากันแน่
ภายหลังคงเป็นเพราะถูกกระตุ้นความเศร้ารันทดที่อยู่ในใจ ต่อให้ตอนนี้ลู่ไถจะสวมอาภรณ์เป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์ แต่ก็ยังพูดกับเฉินผิงอันอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่ายถึงเรื่องเครื่องประทินโฉมหลากหลายชนิด สีที่ใช้ในการปัดแก้มมีกี่ชนิดและลำดับขั้นตอนการแต่งหน้า อาภรณ์ที่เทพธิดาในทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางกับเทพธิดาทวีปอื่นชื่นชอบ ข้อดีในการแต่งหน้าแบบเข้มกับแต่งหน้าแบบบาง…
เฉินผิงอันอดทนมานาน ในที่สุดก็ทนกับบทสนทนาของ ‘สตรีในห้องหอ’ ที่ลู่ไถพูดอย่างไม่จบไม่สิ้นไม่ไหว จึงหันไปพูดกับเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “ลู่ไถ ถือว่าข้าขอร้องเจ้าล่ะ เรื่องพวกนี้ที่เจ้าคุยให้ข้าฟัง ข้าไม่อยากฟัง แล้วนับประสาอะไรกับที่ฟังไปก็ไม่มีประโยชน์ด้วย”
คำพูดทำนองเดียวกันนี้ เฉินผิงอันเคยพูดกับหม่าขู่เสวียนแค่ครั้งเดียว นั่นคือครั้งที่หม่าขู่เสวียนพูดเป็นน้ำไหลไฟดับขณะที่กำลังต่อสู้กัน
เพียงแต่ว่าความรู้สึกที่มีต่อฝ่ายหลังคือรังเกียจ น้อยครั้งมากที่เฉินผิงอันจะเคียดแค้นใครสักคนหนึ่ง เด็กสาวจูลู่ที่ลอบฆ่าตนถือเป็นคนหนึ่งในนั้น ผีสาวสวมชุดแต่งงานที่ฆ่าคนบริสุทธิ์พร่ำเพื่อก็คือคนหนึ่ง เจียวหลงเฒ่าสวมชุดคลุมสีทองที่ร่องน้ำเจียวหลงตนนั้นก็ด้วยอีกคน มีน้อยจนนับนิ้วได้
แต่กับลู่ไถนั้น เขากลับรู้สึกอ่อนใจเสียมากกว่า
ลู่ไถเลิกคิ้ว จากนั้นก็พูดอย่างขุ่นเคืองว่า “ไม่มีประโยชน์? เจ้าไม่มีแม่นางที่ชอบบ้างหรือ? ถ้าหากมี จะไม่อยากให้นางสวยกว่าเดิมงั้นรึ? หากเก้าร้อยเก้าสิบเก้าส่วนคือไม่มีล่ะก็ จะดีจะชั่วเจ้าก็สามารถเอาเรื่องนี้ไปพูดคุยกับคนอื่นได้กระมัง เจ้านึกจริงๆ หรือว่าเทพธิดาไม่ผายลม แต่ละคนไม่รักสวยรักงาม? ถ้างั้นก็สมควรแล้วที่เจ้าโสด!”
เฉินผิงอันเหมือนถูกกรอกสติปัญญา รีบกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวทันที “มี! อยาก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!