กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 292

บทที่ 292.1 บนภูเขาล่างภูเขา
โดย
ProjectZyphon
เฉินผิงอันเอ่ยถาม “เกี่ยวกับมรสุมครั้งนี้ ก่อนหน้านั้นเจ้าเคยทำนายและรู้คำตอบมาก่อนล่วงหน้าแล้วหรือเปล่า?”

ลู่ไถยกมือขึ้น หยุดชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นก็ลูบไปที่เส้นผมข้างหู ดวงตามีประกายน้ำเปล่งวิบวับ ทำมือชดช้อย พูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าทำนายดวงอยู่ทุกวัน นี่คือการบ้านที่ลูกศิษย์สำนักหยินหยางต้องทำเป็นประจำ ไม่อย่างนั้นคราวนี้ก็คงบอกให้เจ้าเผ่นหนีไปก่อนแล้ว เพียงแต่ว่าเรื่องแบบนี้ไม่อาจบอกเจ้าได้ บอกแล้วจะไม่ศักดิ์สิทธิ์”

เฉินผิงอันใช้สายตามองประเมินลู่ไถ “คราวหน้าอย่าให้เกิดขึ้นอีก”

ลู่ไถเบ้ปาก กล่าวอย่างไม่เห็นด้วย “คล้อยไปตามสถานการณ์ มีอะไรที่ไม่ดี ผลประโยชน์มาอยู่ตรงหน้าไม่คว้าไว้ คงต้องถูกฟ้าผ่า”

กล่าวมาถึงตรงนี้ลู่ไถก็บิดข้อมือ แผ่นหยกสีเขียวชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ “วัตถุฟางชุ่นของหม่าว่านฝ่า สมบัติของเขาล้วนอยู่ในนี้แล้ว เมื่อเทียบกับโต้วจื่อจือที่ฝึกวรยุทธ์ หม่าว่านฝ่าถือว่ามีชีวิตอยู่ได้ไม่เลว เป็นแค่ผู้ฝึกลมปราณประตูมังกรคนหนึ่งกลับได้ครอบครองวัตถุฟางชุ่น แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งที่ร้ายกาจที่สุดของคนผู้นี้อยู่ตรงไหน?”

เฉินผิงอันส่ายหน้า

ลู่ไถหัวเราะหึหึ “หม่าว่านฝ่าคือคนเลี้ยงไหมที่หาได้ยาก เชี่ยวชาญการสาวเส้นไหม ดังนั้นถึงปรารถนาอยากได้ตัวพวกเราสองคนขนาดนี้ไงล่ะ การที่เขาหาพรรคพวกกลุ่มใหญ่มาล้อมโจมตีพวกเราก็เพราะหม่าว่านฝ่ามั่นใจว่าเมื่อพวกเราตายไปแล้วจะสามารถเอาวัตถุฟางชุ่นของพวกเราออกมาได้ คาดว่าหม่าว่านฝ่าคงคิดไม่ถึงว่าพวกเราสองคนจะเป็น ‘เซียนกระบี่’ กระบี่บินแห่งชะตาชีวิตสองเล่มของข้าไม่ต้องคิดให้มากความ แต่กระบี่สองเล่มของเจ้ากลับบอกได้ยาก หากถูกคนแย่งเอาน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ไปได้…”

เฉินผิงอันเงียบงันไม่ต่อคำ

สำหรับการหลอมวัตถุแห่งชะตาชีวิตและสมบัติอาคมอาวุธวิเศษให้เป็นภาพมายา เนื่องจากเคยหลอมชุดคลุมอาคมจินหลี่และเชือกพันธนาการปีศาจที่ภูเขาห้อยหัว เฉินผิงอันจึงพอจะเข้าใจคร่าวๆ วัตถุแห่งชะตาชีวิตก็เหมือนกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตของผู้ฝึกกระบี่ คนตายก็หายสาบสูญ แม้แต่เทพเซียนก็ยากจะรั้งไว้ได้อยู่

แต่วัตถุทั่วไปที่ถูกหล่อหลอม แม้ว่าจะถูกซ่อนไว้ในช่องโพรงลมปราณอย่างเป็นความลับ แต่เมื่อคนตายไปก็มีความเป็นไปได้ว่าจะไปล่องลอยอยู่ในจิตวิญญาณ ไม่สลายหายไปได้เร็วขนาดนั้น

หากเป็นวัตถุที่มีระดับขั้นสูงมาก ต่อให้จิตวิญญาณของร่างที่สิงสู่แตกสลายก็มีความเป็นไปได้ว่าจะ ‘กระโดดออกมา’ กลับสู่โลกมนุษย์ บนโลกมีพื้นที่ลับมากมายที่เกิดจากถ้ำสวรรค์และพื้นที่มงคลปริแตก หลังจากที่จวนตระกูลเซียนถูกคลายผนึกพันธนาการ เหตุใดบริเวณใกล้เคียงกับศพของเซียนที่ตายในสนามรบมักจะมีสมบัติอาคมชั้นเยี่ยมถูกทิ้งไว้ในโลกมนุษย์ ก็คือเหตุผลข้อนี้

สำหรับผู้ฝึกลมปราณแล้ว วัตถุชะตาแห่งชีวิตถูกกำหนดมาแล้วว่ามีน้อยมาก แต่วัตถุที่ถูกหล่อหลอมกลับมีจำนวนมากกว่า แต่ถึงกระนั้นก็ยังน้อยจนนับนิ้วได้

ยิ่งเป็นวัตถุวิเศษและสมบัติอาคมที่ระดับขั้นยิ่งสูงก็ยิ่งหล่อหลอมได้ยากมากเท่านั้น วัตถุดิบวิเศษ เวลาและกำลังที่ต้องเผาผลาญไป มากพอจะทำให้ผู้ฝึกลมปราณส่วนใหญ่ที่ระดับขั้นต่ำกว่าเซียนดินยอมแพ้

และอย่างกระบี่เซียนของจวนเทียนซือภูเขามังกรพยัคฆ์ ต่อให้คนที่ถือกระบี่คือเทียนซือใหญ่ที่มีมรรคกถาเลิศล้ำค้ำฟ้าก็ยังยากที่จะหลอมมันให้กลายมาเป็นวัตถุแห่งชะตาชีวิตได้

กระบี่เซียนของเต๋าเหล่าเอ้อร์ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน

เก้าทวีปมีเซียนกระบี่จำนวนมาก แน่นอนว่ากระบี่เซียนก็ต้องมากตามไปด้วย แต่กระบี่เซียนที่ตรงตามความหมายแท้จริง ต่อให้เอาหลายใต้หล้ามารวมกัน อันที่จริงก็ยังมีแค่สี่เล่มเท่านั้น

แค่สี่เล่มเท่านั้น

เป็นอย่างนี้มานานนับหมื่นปีแล้ว

ดังนั้นหร่วนฉงแห่งศาลลมหิมะถึงได้สาบานว่าจะต้องหลอมกระบี่เซียนเล่มใหม่เอี่ยมที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ และจะไม่มีปรากฏอีกในอนาคต

หากคนในปัจจุบันไม่มีอะไรสู้คนในสมัยก่อนได้เลยก็คงน่าเบื่อไร้รสชาติ

ส่วนเรื่องที่ผู้ฝึกตนใหญ่สำนักการทหารถูกขนานนามให้เป็นคลังยุทโธปกรณ์ที่เดินได้

ก็เพราะว่าพวกเขาสามารถหล่อหลอมสมบัติอาคมไว้ติดกายได้มากกว่า

ลองจินตนาการดู ผู้ฝึกตนสำนักการทหารมีเวทลับที่ทำให้คนเหมือนมีสามเศียรหกกรคอยช่วยเหลือ ในมือถืออาวุธเทพหลายชิ้น บนร่างห่มเสื้อเกราะเทพรับน้ำค้างชั้นเยี่ยมหนึ่งตัว บวกกับร่างกายที่ถูกหล่อหลอมมาให้แข็งแกร่ง ใครยังจะกล้าเป็นศัตรูกับพวกเขา?

ผู้ฝึกตนสำนักการทหารมีชื่อเสียงว่าฆ่าไม่ตาย แต่ยิ่งเลื่องลือด้านฆ่าคนอื่นให้ตายอย่างง่ายดายมากกว่า

ลู่ไถอารมณ์ดีอย่างถึงที่สุด ช่วยอธิบายให้เฉินผิงอันฟังว่าอะไรคือคนเลี้ยงไหม “วัตถุฟางชุ่นค่อนข้างพิเศษ เพราะไม่ค่อยเหมือนกับวัตถุแห่งชะตาชีวิตและวัตถุที่ถูกหล่อหลอม ไม่เหมือนกับอาวุธอาคมหรือกระบี่บิน พวกมันคล้ายคลึงกับถ้ำสวรรค์ขนาดเล็กที่ไม่สามารถทำลายได้ในทันทีทันใด อีกทั้งยังยากมากที่จะหลอมวัตถุฟางชุ่นให้เป็นวัตถุแห่งชะตาชีวิต ดังนั้นทำอย่างไรถึงจะดึงวัตถุฟางชุ่นออกมาจากร่างของผู้ฝึกลมปราณจึงกลายเป็นความรู้ใหญ่อย่างหนึ่ง เพราะหากทำได้สำเร็จก็ถือเป็นการค้าที่ได้กำไรมหาศาลอย่างที่เรียกว่าสามปีไม่เปิดกิจการ เปิดกิจการทีกินได้นานสามปี คนบนภูเขามีคนประเภทหนึ่งที่ถูกเรียกว่าคนเลี้ยงไหมโดยเฉพาะ พวกเขาจะมีวิธีลับที่ได้รับการสืบทอดมาจากตระกูลหรือไม่ก็สืบทอดจากอาจารย์ สามารถดึงเอาวัตถุฟางชุ่นออกมาจากวิญญาณของผู้ฝึกลมปราณได้”

ลู่ไถจุ๊ปากพูด “หากหม่าว่านฝ่าสังหารพวกเราได้สำเร็จก็คงรวยเป็นเศรษฐี น้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ของเจ้าบวกกับวัตถุฟางชุ่นของข้า ไม่แน่ว่าแค่เขาทุ่มเงินก็อาจกลายเป็นเทพเซียนพสุธาได้เลย”

จู่ๆ ลู่ไถก็หรี่ตาลง ยิ้มถามว่า “เจ้าจะไม่ถามหน่อยหรือว่าข้าสังหารผู้ฝึกลมปราณขอบเขตประตูมังกรอย่างไร?”

เฉินผิงอันถอยหลังไปหนึ่งก้าว ชูอีกับสืออู่พุ่งออกมาจากในน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ ลอยประกบซ้ายขวาคุ้มกันเฉินผิงอัน

ลู่ไถถามอย่างประหลาดใจ “เจ้ามองออกได้อย่างไร?”

เฉินผิงอันชี้ไปที่มือด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

ข้อมือของลู่ไถไม่มีเชือกห้าสีพันอยู่

อีกอย่างถึงแม้ลู่ไถที่อยู่ตรงหน้าจะจงใจทำท่ามีจริตจะก้านเหมือนสตรี แต่เฉินผิงอันกลับรู้สึกว่าดูไม่เป็นธรรมชาติเหมือนก่อนหน้านี้

บวกกับการที่ลู่ไถจงใจเปิดเผยตัวตนคนเลี้ยงไหมของหม่าว่านฝ่าซึ่งเหมือนต้องการบอกว่าที่แห่งนี้ไม่มีเงินสามร้อยตำลึง (เป็นคำเปรียบเปรยหมายถึงการกระทำที่อยากปกปิดความจริง แต่กลับเป็นการเปิดเผยเสียมากกว่า)

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!