กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 304

บทที่ 304.1 โลกมนุษย์เต็มไปด้วยความอยุติธรรม
ProjectZyphon
จากคำบันทึกใน ‘จารึกภูเขาและทะเล’ ซึ่งเป็นตำราเซียนกล่าวว่าใบถงทวีปมีภูตผีปีศาจบนภูเขาอยู่เป็นจำนวนมาก และในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนี้

ต่อให้เวลาส่วนใหญ่เฉินผิงอันจะจงใจเดินอ้อมผ่านสถานที่ที่มีปราณวิญญาณเปี่ยมล้นหรือไม่ก็สถานที่อันตรายเต็มไปด้วยไอสกปรกที่แค่มองก็ชวนให้รู้สึกหวาดกลัวแล้ว แต่ในบางครั้งก็ยังเลี่ยงไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นกลางดึกของคืนนี้ เฉินผิงอันมองไปยังเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งที่แสงไฟสว่างไสว ในมือของเฉินผิงอันไม่มีแผนที่ เพราะคิดอยากจะหาอาหารมาเพิ่มจึงเดินตามเส้นทางที่มีแสงไฟไป เพราะว่าแผนที่ชัยภูมิส่วนใหญ่มักจะเป็นสิ่งของต้องห้ามของราชวงศ์ในแคว้นนั้นๆ ถูกเก็บรักษาไว้เข้มงวดแน่นหนายิ่งกว่าอาวุธทางการทหารเสียอีก

ในเมืองเล็กแห่งนี้ไม่มีการห้ามเข้าออกเคหะสถานในยามวิกาล แต่หน้าประตูเมืองมีทหารคอยตรวจเอกสารผ่านทาง รอจนเฉินผิงอันเดินเข้าไปในเมืองได้อย่างราบรื่นและหาโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่ยังไม่ปิดกิจการเพื่อเข้าพัก ทว่าเถ้าแก่กลับโบกมือส่ายหน้า บอกว่าเงินของเฉินผิงอันไม่ถูกต้อง ที่โรงเตี๊ยมของพวกเขาไม่รับ แต่ละแคว้นต่างก็มีเหรียญทองแดงในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป นี่เป็นเรื่องที่ปกติอย่างมาก แต่หากกระทั่งทองจริงและเงินขาวก็ยังไม่รับก็ออกจากประหลาดไปสักหน่อย ยังดีที่เถ้าแก่ช่วยชี้ทาง บอกว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งที่สามารถนำเงินและทองมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินของเมืองพวกเขาได้ หลังจากเปลี่ยนเสร็จแล้วค่อยมาเข้าพักในโรงเตี๊ยม

เฉินผิงอันจึงไปที่ร้านแห่งนั้น โต๊ะคิดเงินของร้านนี้สูงมาก สูงแทบจะครึ่งตัวคน เฉินผิงอันเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม จึงเหยียบลงบนม้านั่งตัวเล็ก บอกว่าต้องการแลกเงิน มอบเงินก้อนสีเงินไปให้สองสามก้อน แลกมาด้วยเงินเหรียญทองแดงทงเป่าหนึ่งกองและตั๋วเงินอีกหนึ่งปึ กเงินเหรียญทองแดงหนักมาก คุณภาพก็ดีเยี่ยม ส่วนด้านบนของตั๋วเงิน เฉินผิงอันเห็นว่ามีตราประทับสีชาดของโรงฝากเงินกับของราชสำนักประทับอยู่อย่างเป็นทางการจึงไม่ได้คิดอะไรมาก พอกลับไปที่โรงเตี๊ยมก็จ่ายเงินแล้วแสดงเอกสารผ่านทาง เถ้าแก่จึงจดบันทึกเอาไว้อย่างรอบคอบ เตรียมไว้เผื่อขุนนางฝ่ายกระทรวงครัวเรือนของท้องที่มาขอตรวจดู

วันต่อมาเฉินผิงอันเตรียมจะออกไปข้างนอก เถ้าแก่ยังคงดีดลูกคิดอยู่ที่เดิม เขาเอ่ยเติมเฉินผิงอันยิ้มๆ ว่า ที่นี่มีขนบธรรมเนียมอย่างหนึ่ง นั่นคือเวลาที่พูดคุยกับคนอื่นห้ามพูดคำว่ากระดาษออกมาเด็ดขาด ยกตัวอย่างเช่นคำว่าวางแผนการรบบนกระดาษ หรือตัวอักษรเปล่าบนกระดาษ (หมายถึงสิ่งที่เขียนลงบนกระดาษโดยที่ไม่ได้พูดออกมา) ที่ห้ามพูดออกมาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นถ้าถูกคนจับโยนออกไปนอกเมืองก็อย่าหาว่าเขาไม่เตือน

เฉินผิงอันจดจำไว้ในใจ หลังจากกล่าวขอบคุณแล้วก็ออกไปซื้อของที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันอย่างฟืน ข้าว น้ำมัน เกลือและเสื้อผ้าอีกสองชุด ตอนที่กลับโรงเตี๊ยมมากินข้าว รู้สึกเพียงว่ารสชาติของอาหารจืดชืด หลังจากนั้นเขาก็ออกจากเมือง เดินไปได้หลายสิบลี้ยังพอจะมองเห็นเค้าโครงของเมืองได้อย่างเลือนราง แต่จู่ๆ กลับเจอกับฝนห่าใหญ่ เฉินผิงอันยืนหลบฝนอยู่ในศาลาผุพังแห่งหนึ่งบนภูเขา ด้วยอยู่ว่างไม่มีอะไรทำจึงฝึกเดินนิ่งและฝึกหมัดไปอย่างเชื่องช้า ผลกลับกลายเป็นว่าได้เห็นภาพที่น่าตกใจภาพหนึ่ง นั่นคือเมืองที่อยู่ห่างไปทางตีนเขากลับหลอมละลายอยู่ท่ามกลางฝนห่าใหญ่ กลายมาเป็นเพียงแค่ดินโคลนเละๆ กองหนึ่งเท่านั้น

เฉินผิงอันรีบควักเอาของที่ซื้อจากเมืองเล็กมาดู รวมไปถึงพวกเงินเหรียญทองแดงและตั๋วเงิน แล้วก็พลันชาไปทั้งหนังศีรษะ

สิ่งของทั้งหมดกลับกลายมาเป็นเพียงกระดาษขาวที่ถูกตัดให้เป็นรูปร่างต่างๆ เหมือนกระดาษที่คนเป็นในโลกเผาไปให้แก่คนตายในยมโลก

ราวกับขบขันท่าทางตกอกตกใจของเฉินผิงอัน เสียงหลุดหัวเราะพรืดจึงดังออกมาจากกำแพง ก้องสะท้อนอยู่ภายในศาลา

เฉินผิงอันแค่ตกใจในความน่าเหลือเชื่อของเมืองเล็กประหลาดก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้กลัวเรื่องลี้ลับเหล่านี้ ดังนั้นพอในศาลามีคนแกล้งทำเป็นผีหลอก เฉินผิงอันจึงคืนสติอย่างว่องไว เขาเพียงนั่งลงไปบนม้านั่งตัวยาวที่ทำมาจากต้นไม้เก่าแก่ในภูเขาลึกซึ่งตั้งอยู่ตรงมุมกำแพง หันหน้าเข้าหากำแพงสีขาวซีดฝั่งตรงข้าม ยกเหล้าขึ้นดื่มเงียบเงียบ

เว้นเสียจากว่าตนดวงซวยอย่างมากจึงมาเจอกับปีศาจใหญ่หรือไม่ก็มารตัวเอ้ที่เชี่ยวชาญในการปลอมตัว ไม่อย่างนั้นเกินครึ่งอีกฝ่ายก็น่าจะเป็นพวกที่ตบะตื้นเขิน เจ้านั่นหลอกให้คนธรรมดาตกใจกลัวได้ไม่ยาก ซึ่งก็พอดีกับที่เฉินผิงอันคิดจะตบมันให้ตายด้วยฝ่ามือเดียวก็ไม่ยากเช่นกัน

เจ้าคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองมาเจอตอแข็งเข้าให้แล้วแสร้งกดเสียงให้ต่ำลึกน่าสะพรึงกลัวมากกว่าเดิม “เจ้าไม่กลัวข้าหรือ?”

เฉินผิงอันผูกน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ไว้ตรงเอวเรียบร้อยแล้วก็ลุกขึ้นยืน เดินไปทางกำแพงแห่งนั้นช้าๆ ตบลงไปหนึ่งที ยันต์เจดีย์วิเศษสยบปีศาจแผ่นหนึ่งก็แปะอยู่ด้านบน เสียงร้องไห้และเสียงวิงวอนดังมาจากด้านในทันที น้ำเสียงนั้นฟังดูเหมือนเสียงของเด็ก เฉินผิงอันไม่ได้ปลดยันต์กระดาษสีเหลืองแผ่นนั้นลงมา เพียงถามยิ้มๆ ว่า “เจ้าคิดว่าข้ากลัวหรือไม่?”

เจ้านั่นรีบตะโกนตอบ “กลัวแล้วๆ กลัวจนแทบจะมีชีวิตฟื้นกลับคืนมาอยู่แล้ว!”

“ออกมาเถอะ เลิกทำหลบๆ ซ่อนๆ ได้แล้ว มาพูดกับข้าให้รู้เรื่องว่าเมืองเล็กแห่งนั้นเป็นมาอย่างไรกันแน่”

เฉินผิงอันปลดยันต์สยบปีศาจลงมา เก็บไว้ในชายแขนเสื้อ แล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิม

เด็กอายุน้อยคนหนึ่งที่ท่าทางยังหวาดผวาไม่คลายเดินออกมาจากกำแพง เสื้อผ้าทั้งด้านหน้าและด้านหลังต่างก็ปักลายของทางการ เพียงแต่ว่าไม่ได้มีสีสันสดใสเหมือนของราชวงศ์ต่างๆ ในโลกมนุษย์ มีแค่สองสีคือสีดำกับสีขาว เขายืนอยู่ตรงมุมกำแพงด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ มองมายังนายท่านผู้เฒ่าเทพเซียนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่เพียงแต่โค้งตัวคารวะ ยังพึมพำอะไรแปลกๆ หนึ่งคำ จากนั้นก็พูดแนะนำตัวเอง ที่แท้เขาก็คือเทพเจ้าที่คนหนึ่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากราชวงศ์ก่อน ภายหลังเมื่อเปลี่ยนฮ่องเต้และเปลี่ยนแซ่ของแคว้นใหม่ เขาจึงถูกคัดให้เป็นขุนนางของราชวงศ์เดิมโดยอัตโนมัติ เมื่อไม่มีตำแหน่งขุนนาง ตบะที่เดิมทีก็เบาบางอยู่แล้วจึงยิ่งลดน้อยถดถอยลงไปอีก

ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่คือบุตรชายคนเล็กที่เป็นลูกรักของทูตใหญ่ในแคว้นศักดินาแห่งหนึ่ง ภายหลังตายไปยังไม่ทันครบเจ็ดวันก็มีเทพเซียนขี่เมฆผ่านทางมา อีกฝ่ายเข้ามาในห้องโถงที่ตั้งป้ายวิญญาณของเขา ช่วยเหลือบิดาเขาดำเนินการอยู่พักหนึ่ง เขาจึงได้กลายเป็นเทพเจ้าที่องค์หนึ่งที่ระดับขั้นไม่สูง แต่ก็ได้รับควันธูปอย่างโชติช่วงสมบูรณ์ นี่ก็เพื่อหวังให้เขาคอยช่วยปกป้องฮวงจุ้ยของสุสานบรรพชน ภายหลังเกิดการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน ทุกอย่างจึงมลายหายไปดั่งควันที่ลอยผ่านหน้า

จากประสบการณ์ที่ผ่านๆ มา เหตุการณ์ที่ไม่ได้สลักสำคัญส่วนใหญ่มักจะน่าสนใจเสมอ เฉินผิงอันจึงถามเรื่องของที่มาของคนกระดาษในเมืองเล็กจากเทพเจ้าที่ที่ไม่มีตำแหน่งขุนนางแล้วตนนี้ ที่แท้ในอดีตชาวบ้านในเมืองเล็กนับหมื่นคนต้องมาตายด้วยหายนะยิ่งใหญ่จากน้ำมือมนุษย์ภายในค่ำคืนเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนแตกตื่นขวัญผวา ทางราชสำนักจึงออกคำสั่งให้เมืองรอบด้านปิดข่าวนี้ไว้เป็นความลับ อีกทั้งยังเชิญพระสงฆ์ที่มีวิชาอาคมสูงมาทำพิธีกรรมครั้งหนึ่ง นั่นถึงทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่ได้กลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวิญญาณชั่วร้าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!