กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 319

บทที่ 319.1 แค่ออกกระบี่เท่านั้น
ProjectZyphon
ติงอิงยกแขนขึ้น กวานดอกบัวสีเงินบนศีรษะผลิบานราวกับมีชีวิตจริง กลีบดอกบัวที่เดิมทีตูมเต่งคลี่ขยายออกมาภายนอก ส่ายสะบัดอย่างมีชีวิตชีวา ติงอิงเอากระบี่บินเล่มจิ๋วที่อยู่ตรงปลายนิ้ววางไว้ข้างในนั้น กลีบดอกสีเงินค่อยๆ หุบเข้าหากัน กวานเต๋าหวนคืนกลับสภาพเดิม

ติงอิงเอาสองมือไพล่หลัง ก้มหน้าลงมองปราณกระบี่ยาวเหยียดที่อยู่ใกล้ในระยะประชิด ต่อให้เป็นติงอิงก็ยังรู้สึกว่าภาพนี้ช่างงดงามอย่างที่ไม่เคยได้พานพบมาก่อนในชีวิต

ติงอิงก้มหน้าลงมองลำธารสีขาวหิมะที่หยุดค้างอยู่ในโลกมนุษย์พลางเปิดปากถามยิ้มๆ ว่า “เฉินผิงอัน นี่คือเวทบังคับกระบี่ของอาจารย์กระบี่กระมัง? เจ้าเคยใช้กับเฝิงชิงป๋ายมาก่อน เป็นข้าประมาทเอง คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะสามารถบังคับกระบี่มาได้ไกลขนาดนี้ แต่ก็ไม่เป็นไร สถานการณ์โดยรวมมั่นคงดีแล้ว อีกอย่างในฐานะที่เจ้าเป็นเจ้าของกระบี่เซียนเล่มนี้ กลับไม่กำด้ามกระบี่อย่างแท้จริง แค่ใช้เวทอำพรางตาทำท่าเหมือนกำอยู่เท่านั้น แบบนี้จะไม่น่าเสียดายไปหน่อยหรือ?”

ติงอิงดึงสายตากลับ หันตัวไปมองเฉินผิงอัน “หรือจะบอกว่าอันที่จริงเจ้าไม่สามารถควบคุมกระบี่เล่มนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ น่าเสียดายยิ่งนัก หรือว่าเจ้าพวกที่มองดูเหมือนหมอกแต่ไม่ใช่หมอก เหมือนน้ำแต่ไม่ใช่น้ำเหล่านี้ล้วนเป็นปราณกระบี่ทั้งหมด? ถ้าอย่างนั้นปราณกระบี่ก็ต้องเผาผลาญไปเร็วมากสิถึงจะถูก”

เฉินผิงอันคิดไม่ถึงว่าติงอิงจะสายตาเฉียบคมขนาดนี้ แปบเดียวก็มองออกแล้วว่าตนกับกระบี่เล่มนี้ ‘ภายนอกประสาน แท้จริงใจห่าง’

ปราณยาวเล่มนี้ ตอนที่อยู่นอกป้อมอินทรีบิน เฉินผิงอันเคยชักออกจากฝักหนึ่งครั้ง ตอนนั้นเลือดเนื้อตลอดทั้งแขนของเฉินผิงอันถูกปราณกระบี่สลายไปเสียสิ้น เหลือให้เห็นเพียงกระดูกขาว เป็นเพราะลู่ไถใช้ยาวิเศษของสำนักหยินหยางถึงได้มีเลือดเนื้องอกขึ้นมาใหม่ เวลานี้เขาสามารถบังคับพาปราณยาวมาไว้ข้างกาย แน่นอนว่าหาใช่เพราะบรรลุถึงจุดสูงสุดของอาจารย์กระบี่ถึงได้ควบคุมกระบี่ยาวมาได้ไกลขนาดนี้ แต่เป็นเพราะเมื่อเฉินผิงอันกับปราณยาวอยู่ด้วยกันนานวันเข้า ปราณกระบี่ได้แทรกซอนเข้ามาในร่างกายของเขา และจิตวิญญาณของเขาก็เป็นฝ่ายชักนำปราณกระบี่ ดังนั้นต่อให้ทั้งสองจะแยกจากกันก็ยังคงมีเส้นใยที่เชื่อมโยงพวกเขาไว้ด้วยกัน

ติงอิงชี้ไปที่กวานดอกบัวของตัวเอง “คราวนี้เจ้าเอากระบี่มาได้แล้ว ส่วนข้ากลับสูญเสียวิชาอภินิหารจากกวานเต๋าของเซียนชิ้นนี้ไปชั่วคราว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อันดับต่อไปก็สามารถประมือกันได้อย่างยุติธรรมแล้วใช่ไหม?”

นิ้วทั้งห้าของเฉินผิงอันที่กำด้ามกระบี่ไว้หลอกๆ เพิ่มน้ำหนักเล็กน้อย ลำธารปราณกระบี่ที่เริ่มต้นมาจากลานบ้านในตรอกเล็กและหยุดลงที่ฝ่ามือของเฉินผิงอันพลันรวบเข้ามาหากันในเสี้ยววินาที ปราณกระบี่กลับมารวมตัวกันบนตัวกระบี่อีกครั้ง กระบี่ปราณยาวที่อยู่ในมือไม่เหลือภาพเหตุการณ์ผิดปกติอะไรอีก

เฉินผิงอันลอง ‘ชั่ง’ น้ำหนักของกระบี่ปราณยาวดูรอบหนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่ากำลังดี เมื่อเทียบกับกระบี่ชือซินที่อยู่ในกระบี่บินสืออู่แล้วถือว่าหนักกว่ามาก นับตั้งแต่ที่เฉินผิงอันได้ ‘คัมภีร์เวทกระบี่ที่แท้จริง’ มาจากนครมังกรเฒ่า แล้วเริ่มฝึกวิชากระบี่มาตั้งแต่บนเกาะกุ้ยฮวา เขาก็รู้สึกมาตลอดว่าเบาเกินไป ตอนนี้ต่อให้เพียงแค่กุมปราณกระบี่ไว้ปลอมๆ กลับรู้สึกว่ามันเหมาะมือ

น้ำหนักเหมาะสมก็ดีแล้ว

จนกระทั่งบัดนี้ติงอิงถึงเพิ่งจะยกระดับเฉินผิงอันจากขั้นเดียวกับพวกลู่ฝ่าง จ้งชิวให้เท่าเทียมกับอวี๋เจินอี้ที่ฝึกวิชาเซียน

ความต่างของทั้งสองฝ่ายก็คือไม่ว่าวิชากระบี่ของเจ้าลู่ฝ่างจะมหัศจรรย์แค่ไหน วิชาหมัดของเจ้าจ้งชิวจะไร้ศัตรูทัดเทียมเท่าไหร่ แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าข้าติงอิงก็ยังเหมือนเด็กน้อยที่แกว่งกิ่งหลิว เหมือนคนแก่โบกหมัด ใต้หล้านี้มีเพียงอวี๋เจินอี้ที่ไม่ว่าจะโจมตีหรือต้านรับก็อยู่ในระดับสูงสุดเท่านั้นที่ถึงจะมีโอกาสทำร้ายเขาติงอิงได้

เฉินผิงอันพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ หนึ่งครั้ง

ข้อดีอย่างเดียวของสถานที่แห่งนี้ก็คือการต่อสู้ระหว่างผู้ฝึกยุทธ์จะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลัดเปลี่ยนลมปราณของเฉินผิงอัน

ราวกับว่าผู้ฝึกยุทธ์ของฟ้าดินแห่งนี้ขาดขั้นที่หนึ่งในการเป็นผู้ฝึกยุทธ์เต็มตัวของใต้หล้าไพศาลไป เมื่อเฉินผิงอันอยู่ที่นั่น หากผู้ฝึกยุทธ์และผู้ฝึกลมปราณคิดจะเดินไปบนเส้นทางที่ผิดต่อวิถีสวรรค์ จำเป็นต้องสลายปราณวิญญาณทั้งหมดในร่างกายออกไปเสียก่อน แล้วจึงสกัดดึงเอาลมปราณบริสุทธิ์ที่แท้จริงเฮือกหนึ่งขึ้นมา ลมปราณเป็นดั่งเจียวหลงที่ว่ายวนไปตามอวัยวะและช่องโพรงลมปราณในร่างกาย เหมือนกองทหารม้าชายแดนที่บุกเบิกที่ดิน เปิดเส้นทางเส้นแล้วเส้นเล่าที่เหมาะสมแก่การโคจรของลมปราณแท้จริง ถึงจะถือว่าได้เดินขึ้นไปบนวิถีวรยุทธ์อย่างแท้จริง

ทว่าเมื่ออยู่ในใต้หล้าแห่งนี้ บางทีอาจเป็นเพราะปราณวิญญาณที่เบาบาง ผู้ฝึกยุทธ์จึงไม่มีความพิถีพิถันในเรื่องนี้ ด้านการหล่อหลอมหายไป ดังนั้นรากฐานที่ถูกปูมาแต่แรกเริ่มจึงไม่ดีนัก ปรมาจารย์วิถีวรยุทธ์หลายคนในยุทธภพแสวงหาการกลับคืนสู่ธรรมชาติดั้งเดิม แท้จริงแล้วก็เพียงแค่เพราะว่าเมื่อเดินไปถึงจุดสูงในระดับหนึ่งบนเส้นทางแห่งวิถีวรยุทธ์แล้วกลับเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งในฉับพลัน ถึงได้เริ่มเดินย้อนกลับหลังไปเริ่มใหม่อีกครั้ง

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ตลอดร้อยปีในยุทธภพก็ยังมีผู้มีพรสวรรค์อันโดดเด่นอย่างพวกติงอิง อวี๋เจินอี้ จ้งชิวผุดขึ้นมา และในประวัติศาสตร์ก็ยิ่งมีบุคคลฝีมือเลิศล้ำอย่างเว่ยเซี่ยน หลูป๋ายเซี่ยงและสุยโย่วเปียน

ติงอิงยิ้มบางกล่าวว่า “นอกจากกวานดอกบัวบนศีรษะนี่แล้ว กระบี่ในมือของเจ้าเฉินผิงอันก็คือของอย่างที่สองที่ข้าติงอิงต้องการได้มาครอบครอง”

ใช้ท่าจับเสมือนจริงกุมปราณยาว

เฉินผิงอันขยับไปข้างหน้าด้วยการเดินนิ่งหกก้าวของวิชาหมัดเขย่าขุนเขา ซึ่งในท่าทางนี้ยังแฝงไว้ด้วยแก่นสูงสุดของกระบวนท่าหมัดใหญ่ของจ้งชิว

ความกว้างในแต่ละก้าวสั้นยาวไม่เท่ากัน ทว่าหลังจากฝึกหมัดครบล้านครั้งแล้ว ทุกอย่างล้วนผสานรวมกันอย่างเป็นธรรมชาติ ปณิธานหมัดได้ซึมลึกเข้าสู่แก่นกระดูกของเฉินผิงอันนานแล้ว บวกกับจุดสูงสุดแห่งวิชาหมัดที่ก่อนหน้านี้จ้งชิวแสร้งทำเป็นเข่นฆ่ากับเขา ทว่าแท้จริงแล้วกลับเป็นการถ่ายทอดวิชาให้เขาอย่างลับๆ สองอย่างผสานรวมกันเกิดเป็นท่วงทำนองดุจเมฆคล้อยน้ำไหล ประสานกันได้อย่างราบเรียบไร้ช่องโหว่

ด้วยสายตาของติงอิง เขากลับมองช่องโหว่ใดๆ จากการก้าวย่างหกก้าวนี้ของเฉินผิงอันไม่ออก นี่คือคนกับฟ้าผสานเป็นหนึ่ง สอดคล้องเข้ากับมหามรรคาอย่างแท้จริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!