กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 331

บทที่ 331.2 ข้ามน้ำข้ามภูเขา พบเหยาจึงหยุด
ProjectZyphon
เจ้ากรมผู้เฒ่าบอกความลับอีกเรื่องหนึ่งด้วยความปรารถนาดี “จ้วงหยวน (จอหงวน) เด็กหนุ่มสองคนซึ่งมีชาติกำเนิดเป็นเด็กอัจฉริยะของราชวงศ์ก่อน สามารถสอบเคอจวี่ได้อย่างราบรื่นดุจผ่าลำไม้ไผ่ ทว่ากลับมีชื่อเสียงในวงการขุนนางไม่ดีนัก คนหนึ่งในนั้นก็ยิ่งชีวิตล้มเหลวในช่วงบั้นปลาย เป็นเหตุให้ราชสำนักมีข้อห้ามอย่างมากในเรื่องนี้ คราวนี้เจ้าพลาดตำแหน่งซิ่วไฉ ไม่ใช่ฝีมือของพี่ใหญ่เจ้า เขาไม่ได้จิตใจอำมหิตขนาดนั้น แล้วก็ไม่กล้าด้วย ข้ายังไม่ตายสักหน่อย อันที่จริงเป็นความต้องการของข้าเอง เพื่อสยบข่มและเคี่ยวกรำสภาพจิตใจเจ้า วันหน้าเมื่ออยู่ในวงการขุนนางจะได้มีประสบการณ์ สืบสาวราวเรื่องกันถึงแก่นแล้ว วงการขุนนางไม่ใช่การเล่นหมากล้อม ชิงมือลงก่อนอย่างงดงามก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับราชวงศ์นี้”

หลังจากที่เด็กหนุ่มซึ่งอยู่ในอารมณ์ตื่นเต้นจากไปแล้ว ผู้เฒ่าก็หมุนตัวไปหยิบตำราอีกเล่มออกมา ในนั้นก็มีรอยกดทับอยู่เหมือนกัน แต่กลับไม่มีเหรียญอยู่ด้านใน ทว่าประโยคที่อยู่ตรงรอยกลบทับคือคำสอนของอริยะปราชญ์ที่บอกว่า ‘ผู้สูงส่งคือวิญญูชน เชี่ยวชาญการแลกเปลี่ยนความรู้ ขัดเกลานิสัยและคุณธรรมให้ยิ่งดีงาม’

เพราะว่ามีเหรียญเงินแค่เหรียญเดียว เด็กหนุ่มจึงได้ยึดครองโชควาสนาทั้งหมดไปโดยไม่รู้ตัว

คล้ายกับว่านี่เป็นเจตนารมณ์สวรรค์ซึ่งคนไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

นี่ทำให้เจ้ากรมผู้เฒ่าที่ปรารถนาอยากฝึกวิชาเซียนมาโดยตลอดถึงขั้นไม่กล้าแย่งชิง

ผู้เฒ่าที่อยู่ในวงการขุนนางซึ่งผู้คนคอยแต่จะแก่งแย่งความดีความชอบกันมาเกินครึ่งชีวิตพูดสะท้อนใจแฝงไว้ด้วยความเลื่อมใสและนับถือจากใจจริง “ยอดฝีมือนอกโลกช่างมีฝีมือของเทพเซียนจริงๆ”

……

ระหว่างที่เดินทางอยู่บนเส้นทางภูเขา เฉินผิงอันทำหีบไม้ไผ่ใบใหญ่ให้ตัวเองหนึ่งใบ ตามหลักแล้ว นอกจากใส่ห่อผ้าฝ้ายห่อนั้น ยังสามารถใส่สิ่งของได้อีกไม่น้อย ทว่าเฉินผิงอันยังคงให้เผยเฉียนสะพายห่อผ้า รวมไปถึงถือคันเบ็ดไม้ไผ่ นอกจากนี้เขายังทำไม้เท้าอันเล็กเหมาะมือให้กับนางอีกอันหนึ่ง

หลังจากนั้นเส้นทางภูเขาและแม่น้ำยาวไกล ดูเหมือนว่าจากแต่เดิมที่เฉินผิงอันรีบเร่งเดินทาง ร้อนใจอยากออกไปจากใบถงทวีป กลับบ้านเกิดที่แจกันสมบัติทวีปโดยเร็วที่สุด ตอนนี้กลับเปลี่ยนมาเป็นสงบจิตสงบใจได้แล้ว เพียงแต่น่าสงสารเด็กหญิงเผยเฉียนที่ต้องเหน็ดเหนื่อยไปด้วย นางบ่นด้วยความคับแค้นใจตลอดเวลา เพียงแต่ว่าเมื่อเทียบกับคำพูดคำจาโผงผางทำร้ายจิตใจคนอย่างตอนที่เพิ่งรู้จักกันแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะได้เริ่มเรียนหนังสือมาบ้าง หรือเป็นเพราะกลัวว่าเฉินผิงอันจะโมโหแล้วทิ้งนางไปไม่สนใจใยดี ต่อให้จะบ่น เผยเฉียนก็หัดรู้จักพูดอ้อมค้อมบ้างแล้ว

สำหรับคำบ่นของนาง เฉินผิงอันฟังเป็นลมที่พัดผ่านข้างหู นั่นยิ่งทำให้เผยเฉียนไม่พอใจเข้าไปใหญ่

การเดินทางในภายหลังคนทั้งสองได้พบเห็นทัศนียภาพมากมาย ทำให้เผยเฉียนได้เปิดโลกทัศน์ ยกตัวอย่างเช่นมีครั้งหนึ่งได้เห็นหิ่งห้อยจำนวนนับไม่ถ้วนยามกลางดึกของฤดูใบไม้ร่วง คล้ายโคมไฟดวงเล็กๆ ที่แขวนไว้เต็มม่านฟ้า ฉวยโอกาสตอนที่เฉินผิงอันไม่สนใจ นางใช้ไม้เท้าตบพวกมันดังเพี๊ยะๆๆ ศพกลาดเกลื่อนไปทั่ว เฉินผิงอันหันหน้ามามอง นางก็รีบหยุดมือทันที แสร้งทำเป็นก้มหน้าก้มตาเดินทาง

พวกเขายังเคยเดินผ่านผืนป่ารกครึ้มที่แปลกประหลาดอย่างถึงที่สุดแห่งหนึ่ง ผืนป่าแห่งนี้มีดินที่อุดมสมบูรณ์ ทว่ากิ่งก้านต้นไม้ที่แผ่ออกมาด้านนอกกลับเต็มไปด้วยซากแห้งของพวกนกและสัตว์ป่า

เผยเฉียนตกใจรีบดึงชายแขนเสื้อของเฉินผิงอันเอาไว้ ถึงได้กล้าเดินต่อ ก่อนจะเข้าไปในป่า เฉินผิงอันหยิบยันต์ปราณหยางส่องไฟออกมาหนึ่งแผ่น โยนเข้าไปในผืนป่า พบว่ายันต์ที่เขียนบนกระดาษธรรมดาแผ่นนั้นพลันติดไฟ เพียงแต่ว่าเผาไหม้อย่างเชื่องช้า เฉินผิงอันจึงเดินตรงเข้าไปด้านใน เผยเฉียนขอร้องเฉินผิงอันว่าให้มอบยันต์หนึ่งแผ่นให้นางไว้คุ้มกันกาย เฉินผิงอันทำเป็นไม่ได้ยิน บอกนางว่าหากกลัวตัวประหลาดพวกนั้นก็ให้ท่องหนังสือเสียงดังๆ เพราะหลักการของอริยะปราชญ์สามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้

เผยเฉียนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ยังคงกำชายแขนเสื้อของเฉินผิงอันไว้แน่น ขณะเดียวกันก็พยายามท่องเนื้อหาในตำราไปด้วย

อันที่จริงตำราลัทธิขงจื๊อเล่มนั้นบางมาก นางรู้จักตัวอักษรทั้งหมดที่อยู่บนนั้นแล้ว แล้วก็อ่านจบแล้ว ก่อนหน้านี้เผยเฉียนก็เคยขอเปลี่ยนเล่มใหม่ บอกเฉินผิงอันว่าให้นางเลิกอ่านหนังสือเล่มเดียวซ้ำไปซ้ำมาได้แล้ว น่าเบื่อยิ่งนัก แต่เฉินผิงอันกลับไม่ยอมอนุญาต เขาบอกให้นางอ่านซ้ำหลายๆ รอบ อีกทั้งยังไม่ใช่แค่อ่านเท่านั้น ยังต้องอ่านออกเสียงด้วย ยามเช้าตรู่เมื่อเขาฝึกท่ายืนนิ่งเจี้ยนหลู นางก็จะต้องเริ่มอ่าน ยามสนธยา เขายังคงฝึกยืนนิ่ง นางก็ยังต้องอ่าน ถึงท้ายที่สุดนางจึงท่องทุกบทความที่อยู่ในนั้นจนขึ้นใจได้จริงๆ

รอจนคนทั้งสองเดินออกจากป่าลึกก็ยังไม่มีความเคลื่อนใดๆ

เผยเฉียนเหงื่อแตกเต็มศีรษะ เป็นเพราะท่องหนังสือจนเหนื่อย คอนางแหบแห้งไปหมดแล้ว

จนกระทั่งคนทั้งสองเดินออกไปได้สิบกว่าลี้ ต้นไม้ใหญ่หลายต้นถึงได้เริ่มส่ายสะบัดอย่างบ้าคลั่งคล้ายกำลังระบายความโกรธแค้น

จากนั้นคนทั้งสองยังผ่านหุบเขาแห่งหนึ่ง ข้างแอ่งน้ำใต้น้ำตกมีผีเสื้อหลากสีบินระบำจนคนมองตาพร่าลาย

เผยเฉียนฉวยโอกาสตอนที่เฉินผิงอันกำลังหุงข้าวฆ่าผีเสื้อไปหลายสิบตัวด้วยความเร็วดุจฟ้าร้องฉับพลันจนคนไม่ทันได้ยกมือป้องหู อีกทั้งนางยังเลือกเฉพาะตัวที่สวยที่สุด ตบเพี๊ยะหนึ่งที ผีเสื้อถูกหนีบอยู่ในหน้าหนังสือ ผลคือถูกเฉินผิงอันเขกมะเหงกใส่เน้นๆ หนึ่งที ทำเอานางเจ็บจนทรุดนั่งกุมหัวร้องโหยหวน หน้าผากบวมเป่ง ตอนกินข้าวก็ยังหน้าตาบูดบึ้ง

คนทั้งสองยังเจอคนตัดไม้ที่ตัดฟืนเสร็จแล้วลงมาจากภูเขา ยังกินข้าวของเขาไปหนึ่งมื้อ เฉินผิงอันคิดอยากจะจ่ายเงิน แต่ครอบครัวที่มีนิสัยซื่อๆ ครอบครัวนั้นกลับไม่ยอมรับไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมตอบรับ เฉินผิงอันจึงได้แต่ถอดใจ ก่อนจะเดินออกมาจากลานบ้านที่ถูกล้อมไว้ด้วยไม้ไผ่แห่งนั้น เขาก็หันมาบอกให้เผยเฉียนเอ่ยขอบคุณครอบครัวนั้น เผยเฉียนที่กินข้าวของคนอื่นไปไม่น้อยกลับไม่ใคร่จะเต็มใจนัก แต่พอเหลือบไปเห็นสายตาของเฉินผิงอันโดยบังเอิญจึงรีบโค้งตัวเอ่ยขอบคุณอย่างว่าง่ายทันที

คนทั้งสองเดินออกมาจากภูเขาใหญ่ที่ทอดตัวยาว แล้วก็เจอเข้ากับแม่น้ำสายใหญ่อีก นี่เป็นครั้งแรกที่เผยเฉียนได้เห็นคนลากจูงเรือที่ลากเรือลำใหญ่ขนาดนี้ ภายใต้แสงแดดแผดเผา บุรุษเหล่านั้นตะโกนร้องส่งสัญญาณอย่างพร้อมเพรียงกัน ทำเอานางที่มองดูอยู่ปากอ้าตาค้าง แล้วก็ให้ชอบใจนัก ดูเหมือนว่าคนที่น่าเวทนาใต้หล้านี้จะมีไม่น้อยเลยจริงๆ เพียงแต่ไม่นานนางก็หุบยิ้ม หากเจ้าหมอนั่นเห็นเข้า นางต้องถูกเล่นงานอีกแน่ คราวก่อนก็แค่ตนเก็บฝืนมาได้น้อยเท่านั้น เขายังอนุญาตให้ตนที่ท้องร้องด้วยความหิวโหยกินข้าวถ้วยเล็กๆ แค่ถ้วยเดียว เฮ้อ เฉินผิงอันผู้นี้ปรนนิบัติยากซะจริง นายท่านใหญ่ที่มีเงินต้องกวนโอ้ยน่าเตะแบบนี้ด้วยหรือไง รอให้นางใช้ไม้เท้าในมือแอบฝึกวิชากระบี่ล้ำโลกได้ก่อนเถอะ นางจะต้องตีให้เขาร้องหาพ่อหาแม่เลยทีเดียว ถึงเวลานั้นคอยดูสิว่าเขาจะยังกล้าถลึงตามองตนอีกไหม

อยู่กับภูเขากินจากภูเขา อยู่กับน้ำกินจากน้ำ

เดินทางอยู่ริมแม่น้ำ จู่ๆ นางก็นึกอยากตกปลา จึงบอกให้เฉินผิงอันช่วยทำคันเบ็ดตกปลาให้นางคันหนึ่ง ทว่าเขาไม่สนใจนาง เผยเฉียนจึงได้แต่หยิบมีดผ่าฟืนไปฟันต้นไผ่ที่ลำต้นหนาใหญ่ด้วยตัวเอง พอฟันต้นไผ่โค่นลงถึงตระหนักได้ว่านี่ใช่คันเบ็ดเสียที่ไหน เอามาทำไม้พายยังพอว่า จากนั้นนางที่หน้าหงอยจึงไปเลือกหาไม้ไผ่ต้นบางๆ ยังดีที่คนขี้งกทาสเฝ้าทรัพย์อย่างเฉินผิงอันผู้นี้ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุนัก เขายอมมอบตะขอและเส้นเอ็นตกปลาให้นาง เพียงแต่ว่าคนทั้งสองตกปลาเหมือนกัน นั่งอยู่ห่างกันไม่ไกล แต่เฉินผิงอันกลับตกปลาได้เป็นระยะ แถมยังตกได้ปลาหลีตัวใหญ่ที่ยาวเท่าแขนของนางตัวหนึ่ง ทว่านางกลับไม่มีแม้แต่กุ้งมากินเหยื่อ หรือว่าเจ้าพวกที่อยู่ในน้ำก็เลือกคนที่จะยอมเป็นอาหารให้ ใช้ตาสุนัขมองคนต่ำด้วย? นางอยากจะกระโดดลงไปในน้ำแล้วใช้คันเบ็ดฟาดให้ปลากุ้งทั้งหมดที่อยู่ในแม่น้ำตายไปซะให้หมด

ทว่าแกงปลาหม้อใหญ่คืนนั้นทำให้เผยเฉียนยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง ขอข้าวถ้วยที่สามจากเฉินผิงอันอย่างกล้าๆ กลัวๆ บอกว่าวันนี้ตกปลาใช้พละกำลังของนางไปสิ้นแล้ว จำต้องชดเชยด้วยข้าวถ้วยใหญ่ ส่วนแกงปลานางจะกินให้น้อยหน่อย จะไม่แย่งเขากินแล้วกัน เดิมทีนางนึกว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอม คิดไม่ถึงว่าเจ้าหมอนั่นกลับยอมตักข้าวเพิ่มให้ มื้อนี้มีน้ำแกงปลาราดบนข้าวสวย บนโลกไม่มีอาหารใดที่หอมหวนเอร็ดอร่อยเท่านี้อีกแล้ว นางกินซะพุงกาง

ภายหลังนางก็ตกปลากับเฉินผิงอันอีกครั้งหนึ่ง ยังคงขว้างคันเบ็ดและดึงขึ้นอย่างมั่วซั่วอยู่เหมือนเดิม สรุปก็คือบนคันเบ็ดของนางยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ

กลับเป็นเจ้าหมอนั่นที่ตกได้ปลาดำตัวใหญ่มากตัวหนึ่ง ลำพังแค่แข่งงัดข้อกับปลาตัวนั้นก็ใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเค่อ มองดูเฉินผิงอันวิ่งไปวิ่งมาอยู่บนชายฝั่ง นางก็กลอกตามองสูงทันที เจ้าเป็นทั้งวิชากระบี่และวิชาตระกูลเซียน กลับปล่อยให้ตัวเองถูกปลาโง่ๆ ตัวหนึ่งปั่นหัวแบบนี้ ไม่ลดสถานะตัวเองไปหน่อยหรือไง?

มองคันเบ็ดตกปลาของตนที่ ‘มั่นคงดุจภูผา’ บ่นเจ้าพวกที่หลบอยู่ใต้น้ำซึ่งไม่ยอมเห็นแก่หน้านางแม้แต่น้อย แล้ว เผยเฉียนก็ถอนหายใจหนักๆ รู้สึกเสียดายความสามารถที่มีอยู่เต็มตัว จนใจที่สวรรค์ไม่ทำให้คนสมใจปรารถนา นางเลยไม่มีพื้นที่ให้ใช้ความสามารถนั้นเลย

ดังนั้นนางวางแผนว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่ตกปลาอีกแล้ว ต้องใช้ความอดทนและเรี่ยวแรงมากมายขนาดนั้น แต่กลับไม่ได้ผลเก็บเกี่ยวมา ยังจะทำมันไปทำไม?

อาหารกลางวันของวันนั้น เฉินผิงอันบอกเคล็ดลับการตกปลาบางข้อแก่นางอย่างที่หาได้ยาก

หลักการนั้นนางฟังเข้าใจ แต่เผยเฉียนก็ยังไม่เต็มใจจะเรียนตกปลากับเฉินผิงอัน ทว่าพอเขาบอกว่าตกปลาคราวหน้า เขาจะสอนนางด้วยตัวเอง นางถึงยังไม่โยนคันเบ็ดตกปลานั่นทิ้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!