กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 341

บทที่ 341.1 ตวัดพู่กันมีเทพช่วย
ProjectZyphon
เฉินผิงอันนอนลงบนเตียง ฝันประหลาดนั้นคอยวนเวียนรบกวนจิตใจไม่จางหาย

คราวก่อนเขาอ่านหนังสือในความฝันตอนอยู่บนเรือข้ามฟากเกาะกุ้ยฮวา ไม่รู้ว่าคราวนี้จะมีความหมายที่ลึกซึ้งอะไรอีก หรือนี่จะเป็นแค่ความฝันเท่านั้น เป็นตนที่สงสัยขี้ระแวงมากไป?

เฉินผิงอันลุกขึ้นนั่ง ในเมื่อนอนไม่หลับแล้ว เขาเลยลุกขึ้นมานั่งข้างโต๊ะแล้วเริ่มนับทรัพย์สมบัติของตัวเอง

ตอนกลางวันจิ่วเหนียงเอาข่าวที่แน่ชัดมาบอกให้รู้ว่า พรุ่งนี้ยามเช้าตรู่ ขบวนเดินทางสู่เมืองหลวงของตระกูลเหยาจะผ่านเมืองหูเอ๋อร์ ถึงเวลานั้นทั้งสองฝ่ายเดินทางไปยังเมืองเซิ่นจิ่งด้วยกัน จากนั้นจะแยกทางกันที่ท่าเรือแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงของเมืองหลวง กลุ่มของเฉินผิงอันจะเดินทางขึ้นเหนือต่อ เพื่อเข้าไปยังแถบภูเขาเทียนแชว แม่ทัพผู้เฒ่าเหยาเจิ้นจัดหาสถานะไว้ให้พวกเขาสองแบบ การเดินทางล่างภูเขาในช่วงท้ายต่อจากนั้นก็จะราบรื่นไร้อุปสรรคเช่นกัน

เฉินผิงอันจุดตะเกียง วางน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่ไว้บนโต๊ะ กระบี่บินสืออู่พุ่งออกมา เฉินผิงอันหยิบชุดคลุมอาคมจินหลี่ออกมาด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ทั้งเสียดายที่วัตถุของเซียนนอกมหาสมุทรชิ้นนี้ถูกทำลาย ยิ่งเสียดายเงินเหรียญหนึ่งที่ใช้ซ่อมแซมจินหลี่ เงินฝนธัญพืชถูกใช้ไปหมดแล้ว แล้วก็ไม่ใช่เงินร้อนน้อย ยิ่งไม่ใช่เงินเกล็ดหิมะ แต่เป็นเงินเหรียญทองแดงแก่นทองเหรียญหนึ่งในถุงเล็กที่เจิ้งต้าเฟิงมอบให้เป็นค่าตอบแทนเฉินผิงอันตอนอยู่นครมังกรเฒ่า

เฉินผิงอันลูบคลำชุดคลุมอาคมที่พับอย่างเป็นระเบียบแล้วถอนหายใจ

มิน่าเล่าคนถึงได้พูดกันว่าการฝึกตนคืองานที่ต้องกินภูเขาเงินภูเขาทอง ใครก็อย่าหวังจะพูดได้ว่าตัวเองมีเงินมากมายจนใช้ไม่หมด

แต่อยู่ดีๆ เฉินผิงอันก็ไพล่นึกไปถึงหลิวโยวโจวแห่งจวนหยวนโหรวของภูเขาห้อยหัว คาดว่าคนวัยเดียวกันที่บิดาคือเทพเจ้าแห่งโชคลาภของธวัลทวีปผู้นี้ต่างหากที่มีคุณสมบัติพูดว่าตัวเองมีเงินมากจนเป็นทุกข์

จากนั้นเฉินผิงอันก็หยิบเงินเหรียญทองแดงแก่นทองถุงนั้นออกมาเทลงบนโต๊ะเบาๆ เงินเหรียญแล้วเหรียญเล่าทับซ้อนกันเป็นหอเรือนเล็กๆ สูงไม่ถึงหนึ่งฝ่ามือ เฉินผิงอันยิ้มอย่างเข้าใจ หอเรือนนี้เล็กไปหน่อย เตี้ยไปหน่อย ไม่อย่างนั้นเขาคงดีใจมากกว่านี้

เงินเหรียญทองแดงแก่นทองที่มีมูลค่าควรเมืองเหล่านี้ ไม่มีเงินก้งหย่างและเงินอิ๋งชุนแม้แต่เหรียญเดียว แต่เป็นเงินยาเซิ่งแบบเดียวกันทั้งหมด ด้านหน้าและด้านหลังแบ่งแยกกันสลักคำว่า ‘แคล้วคลาดปลอดภัย’ ‘ร่มเย็นเป็นสุข’ ตัวอักษรที่ใช้ไม่เหมือนกับเงินยาเซิ่งที่เฉินผิงอันเคยสัมผัสครั้งแรกตอนอยู่ในถ้ำสวรรค์หลีจู คิดดูแล้วการสร้างเหรียญเงินทุกๆ หกสิบปีคงมีการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่เฉินผิงอันอยู่ภูเขาห้อยหัว เขาเคยเรียนวิชาหล่อหลอมวัตถุที่มองดูเหมือนตื้นเขิน แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นวิธีดั้งเดิมที่ถูกต้องที่สุดมาจากบุรุษกอดกระบี่ ก่อนหน้านี้ตอนที่หลอมเหรียญทองแดงแก่นทองเหรียญนั้นใช้เวลาแค่หนึ่งถ้วยชา (ประมาณ 10 นาทีหรือ 14.4 นาที) เส้นใยแนวตั้งแนวนอนบนชุดคลุมอาคมจินหลี่ที่เต็มไปด้วยรอยฉีกขาดเสียหายก็เหมือนกิ่งหลิ่วแตกหน่ออย่างมีชีวิตชีวา มหัศจรรย์อย่างยิ่ง

เฉินผิงอันคาดการณ์ว่าอย่างมากที่สุดเสื้อคลุมตัวนี้ต้องใช้เวลาสิบวันถึงจะสามารถกลับคืนมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้ และยังมีเรื่องไม่คาดฝันที่น่ายินดีอย่างหนึ่งเกิดขึ้น นั่นคือเฉินผิงอันค้นพบว่าลักษณะของมังกรทองหลายตัวที่อยู่บนชุดคลุมอาคมแปลกไปจากเดิม ก่อนหน้านี้แสงสีทองของไข่มุกเม็ดที่มังกรขนดตัวนั้นคาบเอาไว้และดวงตาของมังกรทองตัวเล็กสองตัวล้วนไม่เด่นชัดเท่าไหร่ แต่พอ ‘กิน’ เหรียญทองแดงแก่นทองเข้าไปเป็นอาหารก็เหมือนการแต้มนัยน์ตามังกร โดยเฉพาะปราณวิญญาณในไข่มุกสีทองเม็ดนั้นที่คล้ายจะเข้มข้นดุจน้ำ

การค้นพบนี้ทำให้เฉินผิงอันที่ไม่เคยยึดติดกับสมบัติอาคมหรือของวิเศษบนโลกก็ยังอดหวั่นไหวไม่ได้ เพราะระดับขั้นของชุดคลุมอาคมจินหลี่ตัวนี้กำลังเพิ่มพูนเหมือนขอบเขตวิถีวรยุทธ์ของพวกเว่ยเซี่ยนและจูเหลี่ยน ควรรู้ไว้ว่าเหนือสมบัติอาคมคืออะไร? อาวุธเซียน! ตระกูลฝูของนครมังกรเฒ่าที่ร่ำรวยที่สุดในทวีปสั่งสมทรัพย์สมบัติมานานนับพันปีก็ยังไม่เคยได้ครอบครองอาวุธเซียนที่แท้จริงมาก่อนแม้แต่ชิ้นเดียว

แต่เฉินผิงอันไม่ได้คาดหวังว่าจินหลี่จะต้องกลายเป็นชุดคลุมอาคมที่ระดับขั้นเทียบเท่ากับอาวุธเซียน ถึงอย่างไรก็มีแค่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าจำเป็นต้องใช้เหรียญทองแดงแก่นทองกี่เหรียญ อีกอย่างตอนนี้ถ้ำสวรรค์หลีจูก็ไม่เหลืออยู่แล้ว จึงมีความเป็นไปได้มากว่าเหรียญทองแดงแก่นทองทั้งสามชนิดจะหายสาบสูญ ไม่มีปรากฏบนโลกอีกนับแต่นี้

ต่อให้โชคดีสร้างสะพานแห่งความเป็นอมตะได้สำเร็จก็ยังต้องหล่อหลอมสมบัติอาคมห้าธาตุอีกห้าชิ้น ใช้สี่คำว่ายากยิ่งกว่าเดินขึ้นสวรรค์มาบรรยายก็ไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่าสำหรับเฉินผิงอันแล้ว อันที่จริงก็ถือว่ายังดี ก็แค่ฝึกหมัดครบหนึ่งล้านหมัดแล้วค่อยฝึกอีกหนึ่งล้านหมัดเท่านั้น ขอแค่มองเห็นเส้นทางใต้ฝ่าเท้าที่เดินไป รู้ว่าก้าวต่อไปของตัวเองควรจะขยับไปทางไหนก็พอแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าต้องไปไกลแค่ไหน เดินไปได้ยากเท่าไหร่ เขาไม่คิดถึงมันให้วุ่นวาย

เฉินผิงอันหยิบสิ่งของบางส่วนที่เก็บไว้นานแล้วออกมา

หัวใจบุ๋นสีทองที่เทพอภิบาลเมืองเสิ่นเวินมอบให้ เศษชิ้นส่วนร่างทองที่เหลือทิ้งไว้ในโลกมนุษย์หลังจากร่างของสิ่งศักดิ์สิทธิ์มอดม้วย

แผ่นไม้ไผ่สีเขียวขจีที่มีต้นกำเนิดมาจากภูเขาชิงเสินหนึ่งกอง ซึ่งเกินครึ่งถูกเฉินผิงอันเอามาสลักบทกลอนและถ้อยคำไพเราะไว้จนเต็ม

หินดีงูก้อนที่นักพรตหญิงเฮ้อเสี่ยวเหลียงแห่งสำนักโองการเทพมอบให้เขา

สุดท้ายเฉินผิงอันหยิบตราประทับตัวอักษรคำว่าน้ำที่อาจารย์ฉีแกะสลักด้วยตัวเองออกมาวางลงตรงกลางโต๊ะเบาๆ เฉินผิงอันฟุบตัวนอนคว่ำ สุภาษิตบอกว่าน้ำและภูเขาไม่แยกจากกัน ตราประทับอักษรภูเขาถูกทำลายในร่องน้ำเจียวหลง ตราประทับอักษรน้ำจึงดูโดดเดี่ยวอย่างเห็นได้ชัด

เฉินผิงอันนั่งเหม่อ ความคิดหนึ่งพลันบังเกิดขึ้นมา นั่นคือระหว่างที่เดินทางจะหาโอกาสซื้อปิ่นหยกสีขาวสักอัน ต่อให้วัสดุจะธรรมดาก็ไม่เป็นไร หลังจากแกะสลักตัวอักษรแปดคำนั้นลงไปแล้วก็สามารถเอามาปักมวยผม ไม่ใช่เพื่อโอ้อวดอะไร แค่เพราะเขารู้สึกว่าการแต่งกายของตัวเองในทุกวันนี้ แม้ว่าจะไม่ได้สวมชุดคลุมอาคมจินหลี่ก็ต้องสวมชุดคลุมยาวสีเขียวปักปิ่นหยกอยู่ดี แม้ไม่ใช่บัณฑิต แต่ก็ลองแต่งกายให้คล้ายบัณฑิตดูได้ ถ้าอย่างนั้นเมื่อกลับไปถึงแจกันสมบัติทวีป ไปหาพวกหลี่เป่าผิงที่สำนักศึกษาซานหยาก็ไม่ต้องกังวลใจอีกแล้วว่าจะทำให้พวกเขาถูกเพื่อนร่วมชั้นดูแคลน

อ่านหนังสือมามากมาย ได้เห็นหลักการอริยะปราชญ์มาหลากหลาย แต่เฉินผิงอันก็ยังคงชอบอักษรแปดตัวนั้นมากที่สุดอยู่ดี

หวนคำนึงถึงวิญญูชน ผู้อ่อนโยนนุ่มนวลดุจหยก

เพียงแต่พอคิดถึงวิญญูชนแห่งสำนักศึกษาที่ปูผ้านอนบนพื้นในโรงเตี๊ยม เฉินผิงอันก็เริ่มสงสัยใคร่รู้ว่าสำนักศึกษาต้าฝูเป็นอย่างไร หากไม่ใช่เพราะไม่สะดวกให้เดินทางล่าช้าอยู่ในใบถงทวีป เฉินผิงอันก็อยากจะไปเยือนสำนักศึกษาต้าฝูสักครั้งจริงๆ

เฉินผิงอันเก็บของทั้งหมดกลับเข้าไปในวัตถุฟางชุ่นทีละชิ้น

ตอนนั้นเพื่อสะสางบัญชีเก่าใหม่ทั้งสองครั้งให้สะอาดเอี่ยม นอกจากเงินเหรียญทองแดงแก่นทองหนึ่งถุงแล้ว เจิ้งต้าเฟิงยังมอบวัตถุจื่อชื่อในตำนานชิ้นหนึ่งให้กับเฉินผิงอัน คือป้ายหยกแผ่นหนึ่ง ไม่มีตัวอักษรใดสลักไว้ เรียบง่ายแต่งดงามอย่างถึงที่สุด

เพียงแต่เฉินผิงอันเคยชินกับการสื่อสารกับกระบี่บินสืออู่ อีกทั้งเวลาใช้ก็คล่องมือ จึงไม่เคยแตะต้องวัตถุจื่อชื่อชิ้นนั้น ของล้ำค่าที่แม้แต่เซียนดินก่อกำเนิดก็อาจจะไม่มีในครอบครองกลับถูกเฉินผิงอันเก็บซ่อนไว้แบบนี้

‘ซีเยว่’ เสื้อเกราะน้ำค้างหวานนำไปมอบให้เว่ยเซี่ยนใช้ชั่วคราว ดาบแคบหยุดหิมะก็ห้อยอยู่ที่เอวของหลูป๋ายเซี่ยง กระบี่ชือซินถูกสุยโย่วเปียนสะพายไว้ข้างหลัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!