กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 368

สองวันมานี้หลี่หลิ่วเพิ่งกลับมาจากการเดินทางไกลครั้งหนึ่ง นางกำลังนวดไหล่ให้ท่านแม่อยู่ในร้าน ฟังสตรีแต่งงานแล้วเล่าเรื่องจุกจิกของแต่ละครอบครัว บ่นเรื่องการชิงดีชิงเด่นของเพื่อนบ้านที่หาแก่นสารไม่ได้

หลี่เอ้อร์นั่งอยู่บนประตูอาบแสงอาทิตย์ปลายฤดูหนาว สตรีแต่งงานแล้วยิ่งมองก็ยิ่งหงุดหงิดใจ คนไม่ได้เรื่อง!

บุรุษของบ้านอื่น ต่อให้หน้าเหมือนหนูผอมเหมือนไม้เสียบผีเมียก็ยังคอยบ่นคอยด่า ร้องไห้คร่ำครวญว่าบุรุษของตัวเองไปลักลอบมีความสัมพันธ์กับนางจิ้งจอกของบ้านใด หลี่เอ้อร์กลับดีนัก ทำตัวให้นางวางใจได้จริงๆ! แต่หากหลี่เอ้อร์มีแผนการในใจอันแยบยล คาดว่านางเองก็คงต้องหยิบมีดหั่นผักมาเฉือนขาที่สามของหลี่เอ้อร์ก่อน จากนั้นค่อยไปสู้ตายกับนางแพศยานั่น แต่สำหรับคนนอก สตรีแต่งงานแล้วไม่กล้าใช้มีดจริงๆ นางอยู่ที่นี่ไม่คุ้นเคยกับทั้งคนและสถานที่ ทำแบบนั้นต้องถูกคนอื่นรวมตัวกันมารังแกแน่นอน

ในเรื่องที่เก่งแต่ในผ้าห่มตัวเองนี่ หลี่ไหวเหมือนนาง

หลี่เอ้อร์เช็ดปาก ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตที่สงบสุขของที่นี่เป็นสิ่งที่เกินจะทานทน อันที่จริงเขาคุ้นเคยกับชีวิตแบบนี้มานานแล้ว และก็ชอบแค่ชีวิตแบบนี้เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรตอนนี้สามคนในครอบครัวต่างก็อยู่ที่อุตรกุรุทวีป มีเพียงหลี่ไหวคนเดียวที่อยู่ต่อในสำนักศึกษาต้าสุยของแจกันสมบัติทวีป ชายฉกรรจ์เป็นคนไม่ช่างพูด แล้วก็ชอบเก็บเรื่องทุกอย่างไว้ในใจ ทว่าใต้หล้านี้จะมีบิดาคนใดที่ไม่เป็นห่วงว่าบุตรของตัวเองจะหิวหรือไม่ จะหนาวหรือไม่บ้างเล่า

หลี่หลิ่วปรนนิบัติแม่ของตัวเองเสร็จก็ยกม้านั่งตัวเล็กสองตัวมาที่หน้าประตู พ่อลูกสองคนนั่งกันคนละตัว

เฉาซีเซียนกระบี่แห่งนาตยทวีปที่ทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องมรรคาของหลี่หลิ่วอยู่ที่ยอดเขาราชสีห์มานานมากแล้ว ทุกครั้งที่ลงจากเขาล้วนต้องคอยคุ้มกันหลี่หลิ่วเวลาที่นางไปเยือนสถานที่ลึกลับที่หายเข้ากลีบเมฆ หรือไม่ก็ซากปรักหักพังของจวนตระกูลเซียนที่ควันธูปขาดสะบั้น คอยมองดูนางเก็บเอาสมบัติมา

คือการเก็บจริงๆ

เฉาซีไม่ต้องลงมือทำอะไร แค่คอยมองหลี่หลิ่วที่เดินทางกลับพร้อมสมบัติเต็มมือครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่ด้านข้างเท่านั้น

ครั้งนี้หลังจากคุ้มกันหลี่หลิ่วกลับมาถึงยอดเขาราชสีห์แล้ว เฉาซีผู้ฝึกกระบี่ผู้ยิ่งใหญ่ ในที่สุดก็ไม่ต้องคอยติดตามนังหนูนิสัยประหลาดผู้นั้นเตร็ดเตร่ไปทั่วอย่างส่งเดชอีกแล้ว เขาจึงลงจากภูเขาไปเพียงลำพัง ตอนนี้ไม่รู้ว่าหายไปไหน

ตอนนี้ตรงเอวของหลี่หลิ่วห้อยตราประทับราชสีห์ทองคำหนึ่งแผ่น ยังมีกระบี่สั้นที่สะพายไว้เอียงๆ อีกหนึ่งเล่ม

เพียงแต่ว่าถูกเฉาซีร่ายคาถาอำพรางตาเอาไว้ ขอบเขตต่ำกว่าเซียนดินก่อกำเนิดลงไปล้วนมองไม่เห็น

หลี่หลิ่วพลันหันมามองหลี่เอ้อร์ สายตาคนทั้งสองสบกันเพียงเล็กน้อย หลี่เอ้อร์ก็ลุกขึ้นยืนบอกว่าจะออกไปเดินเล่นข้างนอก ส่วนหลี่หลิ่วกลับเข้าไปในห้อง พูดคุยเป็นเพื่อนท่านแม่

สตรีแต่งงานแล้วด่ายิ้มๆ “รู้จักย้ายรังบ้างแล้ว หากมีความสามารถไปเกี้ยวพาเอาผู้หญิงกลับมาบ้าน จะให้ข้ารับนางเป็นน้องสาวก็ยังได้”

หลี่เอ้อร์สาวเท้าเดินเร็วขึ้น

สตรีแต่งงานแล้วตวัดค้อนใส่ บ่นให้หลี่หลิ่วฟัง “ปีนั้นตาบอดจริงๆ ถึงได้แต่งงานกับท่านพ่อเจ้า ตอนนั้นที่เมืองเล็กมีหนุ่มน้อยหล่อเหลาตั้งมากมายเท่าไหร่ที่มาหลงใหลแม่ของเจ้า คงเป็นเพราะถูกผีบังตาล่อลวงจิตใจกระมัง ข้าถึงได้เลือกพ่อเจ้า”

หลี่หลิ่วยิ้มอย่างอ่อนโยน “หากไม่เป็นเช่นนี้ จะมีข้าและน้องชายได้อย่างไร”

สตรีแต่งงานแล้วใช้นิ้วจิ้มหน้าผากหลี่หลิ่วหนึ่งที แค่นเสียงเย็นกล่าวว่า “หลี่ไหวรู้ความตั้งแต่เด็กแล้ว เจ้าล่ะ ดูเจ้าที่เป็นพี่สาวนี่สิ ไม่รู้จักสงสารน้องชายบ้างเลย…ดื้อจะเรียนวิชาเซียนอะไรนั่นให้ได้ เด็กโง่อย่างเจ้าจะเรียนได้หรือ? เวลาบนภูเขาผ่านไปเร็ว แปบเดียวก็ผ่านไปสามปีห้าปีแล้ว ถึงเวลานั้นจากที่เจ้าเป็นสาวน้อยในห้องหอก็จะกลายเป็นหญิงแก่ ใครจะยังเต็มใจอยากแต่งงานกับเจ้าอีก? ไม่เพียงแต่สินสอดจะน้อย ยังต้องให้แม่ควักเอาเงินเก็บก้อนที่ไว้ให้น้องชายเจ้าแต่งเมียมาเพิ่มในสินเจ้าสาวของเจ้าอีก เจ้าทำแบบนี้จะไม่รู้สึกผิดต่อหลี่ไหวหรือ…”

บ่นยาวไม่หยุด

อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว เรียกได้ว่าลำเอียงจนเลอะเลือนแล้ว

หลี่หลิ่วกลับไม่รู้สึกโกรธ กลับกันดวงตาคลอประกายน้ำคู่นั้นยังหยีลงเป็นพระจันทร์เสี้ยว “ฝึกวิชาเซียนบนภูเขา ทุกเดือนจะได้รับเงินส่วนหนึ่ง ข้ายังเก็บสะสมไว้ให้หลี่ไหวด้วยนะ วันหน้าเมื่อเขาแต่งภรรยาจะได้ไม่ต้องถูกคนดูแคลน”

สตรีแต่งงานแล้วได้ยินก็ตกตะลึงระคนยินดี แต่แล้วก็ร้อนใจขึ้นมาครามครัน ยื่นมือออกมา “แล้วไม่รีบพูด?! รีบเอาออกมาเร็วเข้า หากวันใดเจ้าไปเจอกับคนเสเพลปากหวานช่างเอาใจ ถูกเขาเอาเงินไปผลาญจนหมด หลี่ไหวจะทำอย่างไร? ข้าต้องช่วยเก็บไว้แทนเจ้า!”

หลี่หลิ่วหยิบถุงเงินใบหนึ่งออกมา มีเงินอยู่ข้างในประมาณยี่สิบสามสิบตำลึง “อันที่จริงบนภูเขายังมีอีก”

สตรีแต่งงานแล้วรีบเก็บไว้ ในที่สุดมโนธรรมในใจก็เริ่มทำงาน “ส่วนที่เหลือเจ้าเก็บไว้เองเถอะ อยู่บนภูเขาต้องคบค้าสมาคมกับพวกลูกศิษย์เทพเซียน ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลักการเล็กน้อยแค่นี้แม่ยังรู้อยู่บ้าง เจ้าไปบอกพวกเขาว่า หากลงจากภูเขามาซื้อของที่ร้านพวกเรา ข้าจะลดราคาให้”

หลี่หลิ่วอืมรับอย่างว่าง่าย

คำว่า ‘ยังมีอีก’ ของนาง

แม้แต่เซียนกระบี่แห่งนาตยทวีปที่เคยเห็นเงินทองมากมายมาจนชินตาก็ยังอดหวั่นไหวไม่ได้

สตรีแต่งงานแล้วได้เงินก้อนใหญ่ที่เหมือนหล่นลงมาจากฟ้าก้อนนี้ อารมณ์ก็ดีขึ้นทันตา ลูบมือเล็กๆ อ่อนนุ่มของบุตรสาวตัวเอง “วันหน้าแต่งงานให้กับคนดีๆ แม่กับพ่อของเจ้าก็วางใจแล้ว จำไว้นะว่า ทางที่ดีที่สุดควรจะหาคนจากครอบครัวใหญ่ที่สามารถช่วยเหลือน้องชายเจ้าได้”

หลี่หลิ่วตอบรับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ทราบแล้ว”

ตอนที่หลี่เอ้อร์กลับมา สีหน้าของเขามืดทะมึนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

สตรีแต่งงานแล้วประหลาดใจเล็กน้อย แต่จากนั้นก็โมโหอย่างหนัก “ทำไม มองผู้หญิงบ้านไหนนานหน่อยเลยถูกนางด่าเข้าหรือ? คิดจะก่อกบฏหรือไร แค่มองไม่กี่ทีเนื้อหน้าอกของนางจะหายไปอย่างนั้นหรือ ข้าจะไปด่านางเอง!”

หลี่เอ้อร์ส่ายหน้า “พวกเราสามคนไปคุยกันที่เรือนหลังบ้าน”

ก่อนหน้านี้เบื้องหน้าหลี่เอ้อร์มีควันธูปกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นมา

จากนั้นเขาก็พุ่งขึ้นเขาไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่เงียบสงบแห่งหนึ่งของยอดเขาราชสีห์ พอได้ยินข่าวหนึ่งก็รีบกลับมาที่ร้านทันที

ข้างโต๊ะของเรือนหลัง สตรีแต่งงานแล้วเริ่มกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะน้อยครั้งนักที่หลี่เอ้อร์จะทำท่าทางเช่นนี้ ชั่วชีวิตที่ผ่านมาเคยมีแค่ครั้งเดียว ครั้งนั้นหลี่เอ้อร์คนขี้ขลาดที่ดีแต่จะรังแกนางบนเตียง แต่เวลาพูดกับคนนอกกลับไม่กล้าทำเสียงดังใส่เข้าไปตัดฟืนในภูเขามารอบหนึ่ง เนิ่นนานกว่าจะออกมาจากภูเขา แต่ยังดีที่ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง

หลี่หลิ่วนั่งลงข้างกายมารดา เห็นว่าบิดากำลังจะเปิดปากพูดก็รีบเอ่ยถามอย่างคนที่ ‘เข้าใจผู้อื่น’ ทันที “ทางบ้านเกิดส่งจดหมายมาที่เมืองเล็กแห่งนี้หรือ?”

หลี่เอ้อร์ไม่ใช่คนโง่ รีบพยักหน้าตอบรับทันที พูดอย่างอัดอั้นว่า “ท่านอาจารย์บอกเรื่องหนึ่งมา ข้าจึงอยากจะปรึกษากับพวกเจ้าสองแม่ลูก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!