กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 420

สรุปบท ทที่ 420.1 เซียนกระบี่บนทะเลสาบ ดอกไม้บานบนทางเล็กริมคันนา: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปตอน ทที่ 420.1 เซียนกระบี่บนทะเลสาบ ดอกไม้บานบนทางเล็กริมคันนา – จากเรื่อง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

ตอน ทที่ 420.1 เซียนกระบี่บนทะเลสาบ ดอกไม้บานบนทางเล็กริมคันนา ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เช้าตรู่ในอีกสามวันให้หลัง เฉินผิงอันกำลังจะไปจากสำนักศึกษาซานหยา

หลี่เป่าผิงสังเกตเห็นว่าช่วงนี้พวกหลี่ไหวเผยเฉียนมักจะแอบมารวมตัวกัน แม้แต่อาจารย์อาน้อยก็ยังหายตัวไปเป็นพักๆ นี่ทำให้หลี่เป่าผิงผิดหวังเล็กน้อย

วันนี้หลี่เป่าผิงมาที่เรือนชุยตงซานตั้งแต่เช้าตรู่ คิดจะมาส่งอาจารย์อาน้อย

เมื่อวานเผยเฉียนก็ไม่ได้มานอนกับนาง แต่ขอยืมดาบยันต์มงคลและน้ำเต้าลูกเล็กสีเงินไปจากนาง

หลี่เป่าผิงค้นพบว่าในเรือนเล็กว่างเปล่าไร้ผู้คน

หรือว่าอาจารย์อาน้อยแอบจากไปอีกแล้ว?

หลี่เป่าผิงหมุนตัวกลับ เตรียมจะวิ่งไปที่ตีนเขา

กลับพบว่าชุยตงซานเดินอ้าปากหาวมาบนทางเล็กแต่ไกล หลี่เป่าผิงย่ำเท้ารัวๆ อยู่ที่เดิม พร้อมจะบินออกไปเหมือนลูกธนูพุ่งออกจากแล่งได้ทุกเวลา นางรีบถามอย่างร้อนใจ “อาจารย์อาน้อยล่ะ จากไปนานเท่าไหร่แล้ว?”

ชุยตงซานทำหน้าเหรอหรา “ไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เมื่อครึ่งคืนหลังของเมื่อวานแล้ว เจ้าไม่รู้หรือ?”

หลี่เป่าผิงหยุดย่ำเท้า ยู่ใบหน้าเล็กๆ ที่มองโดยรวมยังคงกลมดิก มีเพียงช่วงคางที่เริ่มแหลมขึ้น

ชุยตงซานทอดถอนใจ เห็นว่าน้ำตาของแม่นางน้อยใกล้จะเป็นทำนบน้ำที่พังทลายก็รีบปลอบใจ “อย่าคิดมาก ต้องเป็นเพราะอาจารย์ของข้ากลัวว่าจะเห็นเจ้าเป็นอย่างตอนนี้ คราวก่อนเขาก็ทำแบบนี้ไม่ใช่หรือ ทั้งๆ ที่อาจารย์อาน้อยของเจ้าเปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าและรองเท้าใหม่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เข้ามาที่สำนักศึกษา ตอนนั้นมีเพียงข้าที่อยู่ข้างกายเขา เห็นอยู่ว่าอาจารย์เดินหนึ่งก้าวหันกลับมามองสามรอบ”

หลี่เป่าผิงสูดจมูก

ชุยตงซานถามหยั่งเชิง “ไม่อย่างนั้นให้ข้าไปเดินเล่นริมทะเลสาบเป็นเพื่อนเจ้า พูดคุยถึงเรื่องอาจารย์ของข้าดีไหม?”

หลี่เป่าผิงคิดแล้วก็พยักหน้ารับ

คนทั้งสองจึงมุ่งหน้าไปที่ทะเลสาบ

ฟ้าเพิ่งจะเริ่มสาง รอบกายไร้ผู้คน หากเป็นเวลาปกติจะต้องมีลูกศิษย์สำนักศึกษาออกมาท่องตำราและบทกวีของอริยะปราชญ์ให้เห็นบางตาแล้ว แต่วันนี้กลับเงียบสงัดมากเป็นพิเศษ

ชุยตงซานพาหลี่เป่าผิงเดินขึ้นไปบนหอสูงริมทะเลสาบ แล้วจู่ๆ เขาก็เอ่ยถามว่า “เป่าผิงน้อย ข้ารู้สึกว่าอาจารย์อาน้อยของเจ้าจากไปโดยไม่ลา ไม่ค่อยมีคุณธรรมเท่าไหร่นัก วางใจเถอะ ขอแค่เจ้าไม่ยอมรับเขาเป็นอาจารย์อาน้อยอีก ข้าจะไม่รับเขาเป็นอาจารย์เป็นเพื่อนเจ้าเอง เจ้าว่าข้ามีน้ำใจมากเลยใช่ไหม?”

หลี่เป่าผิงถลึงตาใส่ “เจ้าพูดอะไรน่ะ ใต้หล้านี้มีเพียงอาจารย์อาน้อยที่ไม่ต้องการหลี่เป่าผิง ไม่มีหลี่เป่าผิงที่ไม่ต้องการอาจารย์อาน้อย!”

ชุยตงซานแสร้งทำเป็นกระจ่างแจ้ง ร้องอ้อหนึ่งทีแล้วพูดลากเสียงยาวว่า “แบบนี้เองหรือ”

แล้วชุยตงซานก็ดีดนิ้วหนึ่งที

ทางสายเล็กรอบทะเลสาบพลันมีวงแสงสีทองอร่ามเจิดจ้าปรากฏวูบขึ้นมา

ครั้นจึงกลายเป็นบ่อสายฟ้าที่วาดด้วยจินสุ้ยกระบี่บินของเซียนเล่มนั้น เวลานี้ชุยตงซานได้สลายเวทอำพรางตาออกไปส่วนหนึ่งแล้ว

เห็นเพียงว่าหลี่ไหวพลันปรากฏกายอยู่บนทางเล็กริมทะเลสาบที่ห่างไปไกล

เจ้าหมอนั่นจูงกวางขาวไว้ในมือ สวมงอบใบหนึ่งเลียนแบบคนบางคน และยังพกดาบแคบยันต์มงคล ตรงเอวก็ห้อยน้ำเต้าลูกเล็กสีเงินเอาไว้ด้วย

หลี่เป่าผิงอึ้งตะลึง

หลังจากเดินมาได้ช่วงระยะทางหนึ่ง หลี่ไหวก็พูดด้วยเสียงดังกังวาน “ข้าหลี่ไหวปิดด่านสามปี ในที่สุดก็เรียนวิชายุทธอันยอดเยี่ยมได้สำเร็จผล ครั้งนี้ลงจากเขามาท่องยุทธภพ จะต้องขอความรู้จากเหล่าวีรบุรุษของสี่สมุทรห้าทะเลสาบสักหน่อย”

ชุยตงซานดีดนิ้วอีกที

เห็นเพียงว่าห่างจากหอสูงไปไม่ไกลมีเงาร่างสองร่างปรากฏขึ้น จูเหลี่ยนและสือโหรวที่น่าสงสารแสดงเป็นโจรที่ดักปล้นกลางทาง พวกเขากำลังรุมทุบตี ‘บัณฑิตอ่อนแอสองคน’ อย่างอวี๋ลู่และหลินโส่วอี

หลี่ไหวพูดขึ้นเสียงดังว่า “หยุดนะ!”

ริมฝั่งของทะเลสาบที่อยู่ตรงข้ามกับหอสูงที่หลี่เป่าผิงยืนอยู่ หลังจากชุยตงซานคลี่ยิ้มบางๆ ก็มีเงาร่างผอมแห้งดำเกรียมโผล่พรวดออกมาแล้ววิ่งเต็มเหยียด ใช้ไม้เท้าเดินป่ายันพื้นกระโดดลอยตัวขึ้นสูง กระโจนไปกลางทะเลสาบ เมื่อร่างลอยอยู่กลางอากาศก็ใช้สองมือชักดาบไม้ไผ่และกระบี่ไม้ไผ่ตรงเอวออกมา พลิกหมุนเรือนกายพลิ้วตัวลงพื้นอย่างเข้าท่าเข้าที เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเผด็จการ

ทุกครั้งที่เผยเฉียนพลิ้วกายลงบนพื้นผิวทะเลสาบ ใต้ฝ่าเท้าจะต้องมีดอกบัวสีทองดอกหนึ่งผุดขึ้นมา เป็นเหตุให้ไม่ต้องกังวลว่าจะตกน้ำ

เผยเฉียนใช้ดาบไม้ไผ่แสดงกระบวนท่าวานรขาวลากดาบไปหนึ่งคำรบรวดเดียวจบด้วยพลังอำนาจดุจพยัคฆ์ดุร้าย วิ่งตะบึงออกไปสิบกว่าจั้งลากยาวเป็นเส้นตรง ตวาดใส่หอสูงที่ชุยตงซานยืนอยู่ แล้วจึงเงื้อดาบฟันลงมาเต็มแรง

จากนั้นเขย่งปลายเท้าเหยียบลงบนดอกบัวสีทองที่ชุยตงซานช่วยบังคับให้ผุดออกมา ร่างของนางพลันบิดหมุน สอดดาบไม้ไผ่กลับเข้าฝัก พอพลิ้วกายลงพื้นก็ใช้กระบวนท่ากระบี่มารคลั่งที่นางคิดค้นขึ้นเองวิ่งห้อไปเบื้องหน้า

เพื่อที่ในอนาคตจะสามารถกำราบหมาที่ดุร้ายที่สุดได้ เผยเฉียนรู้สึกว่าตัวเองตั้งใจฝึกวรยุทธอย่างมาก

วิชาเลิศล้ำนี้ก็ยิ่งทำให้นางรู้สึกว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนางในใต้หล้านี้

เผยเฉียนฟาดฟันวิชากระบี่กระบวนท่านี้อย่างสาแก่ใจรวดเดียวจบ

พอยืนนิ่งแล้วก็สอดกระบี่ไม้ไผ่กลับเข้าฝัก

เผยเฉียนยืนอยู่บนผิวทะเลสาบที่ห่างจากหอสูงไปแค่เจ็ดแปดจั้ง นางหมุนข้อมือหนึ่งที น้ำเต้าจิ๋วลูกเล็กก็โผล่ขึ้นมา ชูมันขึ้นสูงพลางพูดเสียงดังว่า “ยุทธภพไม่มีอะไรดี มีเพียงสุราที่พอใช้ได้ เหล้าล่ะ มาๆๆ! ใครจะมาดื่มเหล้าแห่งยุทธภพนี้ร่วมกับข้า?”

ชุยตงซานหัวเราะเสียงดังก้อง ชายแขนเสื้อพลิ้วสะบัด พุ่งตัวไปหาเผยเฉียน ยื่นมือสองข้างออกมา ข้างหนึ่งดีดนิ้ว ด้านหนึ่งคว้าน้ำเต้าลูกเล็กสีเงินมาอยู่ในมือ อีกด้านหนึ่งสกัดดึงเอาแก่นน้ำในทะเลสาบสองขุมมาทำเป็นเหล้า น้ำขุมหนึ่งล้อมวนรอบน้ำเต้าเลี้ยงกระบี่สีเงิน อีกขุมหนึ่งลอยล่องอยู่รอบน้ำเต้าจิ๋วบนมือเผยเฉียน

คนทั้งสองยืนเคียงบ่ากัน หนึ่งเด็กหนึ่งผู้ใหญ่ต่างก็ทำท่าแหงนหน้าร่ำสุราเหมือนกัน

จากนั้นชุยตงซานกับเผยเฉียนที่คล้ายจะฝึกฝนกันมานับครั้งไม่ถ้วนก็เริ่มเมามาย ร่างโงนเงนเดินโซซัดโซเซเป็นแนวขวางเหมือนปู พวกเขากางสองแขนออกกว้าง ชายแขนเสื้อใหญ่พลิ้วไหวเป็นระลอกคลื่น สุดท้ายคนทั้งสองก็ยื่นย่ำเท้ากระโดดโลดเต้นอยู่กับที่เลียนแบบแม่นางน้อยชุดแดงคนนั้น

พอเห็นภาพนี้ หลี่เป่าผิงที่ยืนอยู่บนหอสูงเพียงลำพังก็หัวเราะจนหุบปากไม่ลง

—–

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!