เช้าตรู่ในอีกสามวันให้หลัง เฉินผิงอันกำลังจะไปจากสำนักศึกษาซานหยา
หลี่เป่าผิงสังเกตเห็นว่าช่วงนี้พวกหลี่ไหวเผยเฉียนมักจะแอบมารวมตัวกัน แม้แต่อาจารย์อาน้อยก็ยังหายตัวไปเป็นพักๆ นี่ทำให้หลี่เป่าผิงผิดหวังเล็กน้อย
วันนี้หลี่เป่าผิงมาที่เรือนชุยตงซานตั้งแต่เช้าตรู่ คิดจะมาส่งอาจารย์อาน้อย
เมื่อวานเผยเฉียนก็ไม่ได้มานอนกับนาง แต่ขอยืมดาบยันต์มงคลและน้ำเต้าลูกเล็กสีเงินไปจากนาง
หลี่เป่าผิงค้นพบว่าในเรือนเล็กว่างเปล่าไร้ผู้คน
หรือว่าอาจารย์อาน้อยแอบจากไปอีกแล้ว?
หลี่เป่าผิงหมุนตัวกลับ เตรียมจะวิ่งไปที่ตีนเขา
กลับพบว่าชุยตงซานเดินอ้าปากหาวมาบนทางเล็กแต่ไกล หลี่เป่าผิงย่ำเท้ารัวๆ อยู่ที่เดิม พร้อมจะบินออกไปเหมือนลูกธนูพุ่งออกจากแล่งได้ทุกเวลา นางรีบถามอย่างร้อนใจ “อาจารย์อาน้อยล่ะ จากไปนานเท่าไหร่แล้ว?”
ชุยตงซานทำหน้าเหรอหรา “ไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เมื่อครึ่งคืนหลังของเมื่อวานแล้ว เจ้าไม่รู้หรือ?”
หลี่เป่าผิงหยุดย่ำเท้า ยู่ใบหน้าเล็กๆ ที่มองโดยรวมยังคงกลมดิก มีเพียงช่วงคางที่เริ่มแหลมขึ้น
ชุยตงซานทอดถอนใจ เห็นว่าน้ำตาของแม่นางน้อยใกล้จะเป็นทำนบน้ำที่พังทลายก็รีบปลอบใจ “อย่าคิดมาก ต้องเป็นเพราะอาจารย์ของข้ากลัวว่าจะเห็นเจ้าเป็นอย่างตอนนี้ คราวก่อนเขาก็ทำแบบนี้ไม่ใช่หรือ ทั้งๆ ที่อาจารย์อาน้อยของเจ้าเปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าและรองเท้าใหม่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เข้ามาที่สำนักศึกษา ตอนนั้นมีเพียงข้าที่อยู่ข้างกายเขา เห็นอยู่ว่าอาจารย์เดินหนึ่งก้าวหันกลับมามองสามรอบ”
หลี่เป่าผิงสูดจมูก
ชุยตงซานถามหยั่งเชิง “ไม่อย่างนั้นให้ข้าไปเดินเล่นริมทะเลสาบเป็นเพื่อนเจ้า พูดคุยถึงเรื่องอาจารย์ของข้าดีไหม?”
หลี่เป่าผิงคิดแล้วก็พยักหน้ารับ
คนทั้งสองจึงมุ่งหน้าไปที่ทะเลสาบ
ฟ้าเพิ่งจะเริ่มสาง รอบกายไร้ผู้คน หากเป็นเวลาปกติจะต้องมีลูกศิษย์สำนักศึกษาออกมาท่องตำราและบทกวีของอริยะปราชญ์ให้เห็นบางตาแล้ว แต่วันนี้กลับเงียบสงัดมากเป็นพิเศษ
ชุยตงซานพาหลี่เป่าผิงเดินขึ้นไปบนหอสูงริมทะเลสาบ แล้วจู่ๆ เขาก็เอ่ยถามว่า “เป่าผิงน้อย ข้ารู้สึกว่าอาจารย์อาน้อยของเจ้าจากไปโดยไม่ลา ไม่ค่อยมีคุณธรรมเท่าไหร่นัก วางใจเถอะ ขอแค่เจ้าไม่ยอมรับเขาเป็นอาจารย์อาน้อยอีก ข้าจะไม่รับเขาเป็นอาจารย์เป็นเพื่อนเจ้าเอง เจ้าว่าข้ามีน้ำใจมากเลยใช่ไหม?”
หลี่เป่าผิงถลึงตาใส่ “เจ้าพูดอะไรน่ะ ใต้หล้านี้มีเพียงอาจารย์อาน้อยที่ไม่ต้องการหลี่เป่าผิง ไม่มีหลี่เป่าผิงที่ไม่ต้องการอาจารย์อาน้อย!”
ชุยตงซานแสร้งทำเป็นกระจ่างแจ้ง ร้องอ้อหนึ่งทีแล้วพูดลากเสียงยาวว่า “แบบนี้เองหรือ”
แล้วชุยตงซานก็ดีดนิ้วหนึ่งที
ทางสายเล็กรอบทะเลสาบพลันมีวงแสงสีทองอร่ามเจิดจ้าปรากฏวูบขึ้นมา
ครั้นจึงกลายเป็นบ่อสายฟ้าที่วาดด้วยจินสุ้ยกระบี่บินของเซียนเล่มนั้น เวลานี้ชุยตงซานได้สลายเวทอำพรางตาออกไปส่วนหนึ่งแล้ว
เห็นเพียงว่าหลี่ไหวพลันปรากฏกายอยู่บนทางเล็กริมทะเลสาบที่ห่างไปไกล
เจ้าหมอนั่นจูงกวางขาวไว้ในมือ สวมงอบใบหนึ่งเลียนแบบคนบางคน และยังพกดาบแคบยันต์มงคล ตรงเอวก็ห้อยน้ำเต้าลูกเล็กสีเงินเอาไว้ด้วย
หลี่เป่าผิงอึ้งตะลึง
หลังจากเดินมาได้ช่วงระยะทางหนึ่ง หลี่ไหวก็พูดด้วยเสียงดังกังวาน “ข้าหลี่ไหวปิดด่านสามปี ในที่สุดก็เรียนวิชายุทธอันยอดเยี่ยมได้สำเร็จผล ครั้งนี้ลงจากเขามาท่องยุทธภพ จะต้องขอความรู้จากเหล่าวีรบุรุษของสี่สมุทรห้าทะเลสาบสักหน่อย”
ชุยตงซานดีดนิ้วอีกที
เห็นเพียงว่าห่างจากหอสูงไปไม่ไกลมีเงาร่างสองร่างปรากฏขึ้น จูเหลี่ยนและสือโหรวที่น่าสงสารแสดงเป็นโจรที่ดักปล้นกลางทาง พวกเขากำลังรุมทุบตี ‘บัณฑิตอ่อนแอสองคน’ อย่างอวี๋ลู่และหลินโส่วอี
หลี่ไหวพูดขึ้นเสียงดังว่า “หยุดนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!