กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 445

ชุยตงซานทรุดตัวลงนั่งยอง จุ๊ปากส่ายหน้า “คนฉลาดขนาดนี้กลับต้องมีชีวิตอยู่เป็นสุนัขตัวหนึ่ง ช่างน่าสมเพชจริงๆ”

ชุยตงซานตบใบหน้าด้านข้างของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แรงที่ตบไม่ถือว่าเบานัก “รู้สึกหรือไม่ว่าตัวเองโชคร้ายเกินไปถึงต้องมาเจอคนบนทางเดียวกันที่หมัดใหญ่กว่าเจ้าพอดีอย่างข้า?”

ฟ่านเหยี่ยนส่ายหน้าอย่างแรง

ชุยตงซานยืดตัวกลับ ดึงมือคืนมา มองใบหน้าที่แปะสี่คำใหญ่ๆ ว่าหวาดผวาพรั่นพรึงนั้น “ตอนนจู่ๆ ข้าก็รู้สึกว่าสุนัขตัวหนึ่ง ต่อให้วันหน้าจะเชื่อฟังมากแค่ไหนก็ยังขวางหูขวางตาอยู่ดี จะทำอย่างไรดีเล่า?”

ฟ่านเหยี่ยนเลื่อนลอยไปเล็กน้อย

ชุยตงซานกลับประกบสองนิ้วแล้วจิ้มมาที่หว่างคิ้วของฟ่านเหยี่ยน

หากนิ้วนี้จิ้มลงมา กายและจิตของฟ่านเหยี่ยนต้องดับสลายอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่าเวลาชั่วประกายไฟแลบกลับมีคนมาปรากฏตัวด้านหลังชุยตงซาน โน้มตัวมาดึงชายแขนเสื้อด้านหลังของเขาเอาไว้ จากนั้นก็ถอยกรูดไปด้านหลัง ชุยตงซานจึงถูกลากให้ถอยหลังตามไปด้วย ช่วยเหลือฟ่านเหยี่ยนที่หว่างคิ้วเกิดหลุมที่ไม่ลึกไว้ได้พอดี

ชุยตงซานที่ถูกคนผู้นั้นหิ้วคอเสื้อไว้ในมือยังคงจ้องฟ่านเหยี่ยนเขม็ง “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่า ใต้หล้าแห่งนี้ ใต้หล้าที่มีคนอย่างซิ่วไฉเฒ่าและเฉินผิงอันอยู่มากมายขนาดนั้น คนที่พวกเจ้าติดค้าง! วันหน้าใครจะเป็นคนชดใช้? เผ่าปีศาจที่ตีกำแพงเมืองปราณกระบี่แตกอย่างนั้นหรือ?! มาๆๆ รีบบุกเข้ามาฆ่า มาสั่งสอนไอ้พวกคนโง่ในใต้หล้าไพศาลดูสักหน่อยเถอะ! สอนให้พวกเจ้ารู้ว่าไม่มีข้อได้เปรียบใดที่พวกเจ้าจะยึดเอาไปครองทั้งหมดอย่างสมเหตุสมผล ไอ้พวกตะพาบ พวกเจ้าต้องใช้คืน! ต้องใช้คืน รู้หรือไม่?!”

แขกไม่ได้รับเชิญที่ขัดขวางไม่ให้ชุยตงซานฆ่าคนก็คือชุยฉานที่ย้อนกลับมายังทะเลสาบซูเจี่ยนอีกครั้ง

ชายชราลัทธิขงจื๊อสวมชุดสีเขียวผู้นี้กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “วันนี้สังหารฟ่านเหยี่ยน เจ้าคิดจะเลื่อนสู่ห้าขอบเขตบนอีกก็ยากแล้ว อีกอย่าง อย่าพูดจาเหมือนเด็กหน่อยเลย เจ้าอายุไม่น้อยแล้ว เวลาปกติแกล้งทำงอแงให้ข้ารำคาญใจ ข้าไม่ว่า แต่หากเจ้าทำเรื่องโง่ ข้าไม่มีทางยอเด็ดขาด เพราะหลังจากนี้ยังมีเรื่องอีกมากรอให้เจ้าไปทำ”

ชุยตงซานดิ้นสะบัด ชุยฉานจึงปล่อยมือ ชุยตงซานนั่งแปะลงไปบนพื้น

ชุยฉานโบกมือให้ฟ่านเหยี่ยน “ไสหัวไป วันหน้าควรพูดควรทำอะไร จงพิจารณาเอาเอง ไม่อย่างนั้นเขาฆ่าเจ้าไม่ได้ ข้านี่แหละจะเป็นคนฆ่าเจ้าเอง”

ชุยตงซานฟุบตัวเหม่ออยู่บนราวระเบียง

ชุยฉานยื่นฝ่ามือข้างหนึ่งออกมาวางลงบนศีรษะของชุยตงซานเบาๆ “เมื่อไม่มีความหวังต่อโลกใบนี้ เจ้าก็จะไม่ผิดหวัง เจ้าจะไม่มีทางเกลียดแค้นคนเลว ไม่มีทางชื่นชอบคนดี เจ้าเองก็เป็นบัณฑิต แต่เจ้ากลับไม่ยอมรับ ขณะเดียวกันเจ้าก็เข้าใจได้ถึงความซับซ้อนของโลกใบนี้ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ควรต้องคิดถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเลวร้ายที่สุด รวมไปถึงผลที่ตามมาซึ่งเจ้าต้องแบกรับ แล้วเจ้าก็ลงมือทำซะ อย่าปล่อยให้เฉินผิงอันกลายเป็นข้อยกเว้นของเจ้า หากมันปนกันมั่วซั่วขึ้นมา มองดูเหมือนจริงใจ แต่แท้จริงแล้วมีแต่จะทำร้ายคนอื่นและทำร้ายตัวเอง”

ชุยตงซานพูดเสียงขุ่น “เอาเท้าสุนัขของเจ้าออกไป”

ชุยฉานหัวเราะ เอาสองมือไพล่หลัง สายตาทอดมองทะเลสาบซูเจี่ยน “จำกัดความความดีเลวของคนไม่ใช่เรื่องง่าย ขนาดซิ่วไฉเฒ่ายังไม่กล้าเอาเรื่องนี้มาพูดอย่างส่งเดช สำหรับด้านนี้ ลัทธิพุทธอธิบายไว้ได้ดีกว่าสักหน่อย แม้แต่ซิ่วไฉเฒ่าเองก็ยังยอมรับ ไม่ใช่ในทางส่วนตัว แต่เป็นในงานโต้วาทีสามลัทธิครั้งนั้น ยังจำได้หรือไม่ ตอนนั้นสีหน้าของอริยะปราชญ์ลัทธิขงจื๊อหลายคนดำทะมึนเลยทีเดียว ไม่ได้ทำให้ฝั่งตรงข้ามอย่างลัทธิพุทธและลัทธิเต๋าตกใจตาย แต่เกือบทำให้คนกันเองตกใจตายเสียก่อน เรื่องเหล่านี้พวกเราต่างก็เคยได้ยินกันมากับหู เห็นกันมากับตา ดังนั้นซิ่วไฉเฒ่าถึงได้เป็นซิ่วไฉเฒ่า หลักการเหตุผลดีๆ ของเจ้า ข้ายอมรับ แต่หลักการเหตุผลดีๆ ของข้า พวกเจ้าไม่ยอมรับ ก็ต้องยอมรับ!”

“การโต้วาทีของสามลัทธิในครั้งสุดท้าย ซิ่วไฉเฒ่าที่คว้าชัยชนะมาได้เป็นอย่างไร? ทำอะไรไปบ้าง? อาจารย์ผู้ยากจน นั่งตัวตรงอย่างสำรวม ยื่นสองมือออกมา พูดว่าอะไร? ‘ขอเชิญมรรคาจารย์เต๋า ศาสดาพุทธนั่งลง’”

“แล้วจากนั้นล่ะ? คนสองคนที่ไม่เคยเจอหน้ากันมานานจนนับปีไม่ถ้วนก็มาจริงๆ หลี่เซิ่งก็มา แต่ซิ่วไฉเฒ่ากลับแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น”

“ทำอย่างไร?”

“ดังนั้นตาเฒ่าที่ซิ่วไฉเฒ่าเรียกก็มาด้วยเช่นกัน พอมาถึงก็ตัดขาดการรับสัมผัสของฟ้าดินทันที สุดท้ายเป็นอย่างไร ผ่านไปได้ไม่นานเท่าไหร่ ซิ่วไฉเฒ่าที่แอบมาปรากฎตัวต่อหน้าพวกเราเหมือนจะแสยะปากแยกเขี้ยว เอียงศีรษะ นวดหูของตัวเอง?”

ชุยฉานกล่าวมาถึงตรงนี้ก็ไม่พูดอะไรมากอีก “ไปเถอะ ไม่จำเป็นต้องรอดูจุดจบของทะเลสาบซูเจี่ยนแล้ว มีเรื่องหนึ่งที่ข้าจะบอกเจ้าช้าหน่อย ถึงเวลานั้นค่อยเล่าให้เจ้าฟังถึงกระดานหมากที่ใหญ่ยิ่งกว่าทะเลสาบซูเจี่ยน”

ชุยตงซานกระโดดลงมาจากราวระเบียงอีกครั้ง ยื่นมือสองข้างออกมาทำท่าเหมือนกับซิ่วไฉเฒ่าในเวลานั้น เพียงแต่ชุยตงซานไม่ได้เอ่ยประโยคว่า ‘ขอเชิญมรรคาจารย์เต๋า ศาสดาพุทธนั่งลง’

เขาพูดเสียงดังว่า “ฟ้าสูงแผ่นดินกว้างหลักการเหตุผลใหญ่”

“มนุษย์เล็กจ้อยดุจเมล็ดงา เรื่องราวมากมายดุจขนวัว!”

ชุยฉานยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “เรื่องเดียวไม่ทำซ้ำสาม คำพูดเหมือนเด็กๆ ข้าไม่อยากฟังเป็นครั้งที่สามแล้ว”

ชุยตงซานขยี้ปลายเท้า ชายแขนเสื้อกว้างสีขาวหิมะทั้งสองข้างพลิกหมุน เขาเอามือสองข้างไว้ด้านหลัง จากนั้นก็กำหมัดแน่น ค้อมเอวยื่นมือส่งให้ไปชุยฉาน “ลองเดาดูสิว่าอันไหนคือเหตุผล อันไหนคือ…”

เสียงปังดังสนั่นหวั่นไหว

ชุยตงซานถูกอัดให้ร่วงลงไปในทะเลสาบซูเจี่ยน คลื่นลูกยักษ์ถาโถมตัว

หลังจากที่ชุยตงซานใช้ท่าหมาขุดดินว่ายน้ำขึ้นมาบนฝั่ง ก็มาเดินอยู่บนทางเส้นเล็กริมทะเลสาบ ชายแขนเสื้อสองข้างโบกสะบัด ยิ่งเดินไปก็ยิ่งไกล แล้วเขาก็ไปจากทะเลสาบซูเจี่ยนทั้งอย่างนี้

ทว่าชุยฉานกลับไม่ได้รีบไปจากตรงราวระเบียง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!