กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 450

ในร้านมีลูกจ้างเด็กหนุ่มผิวดำเกรียมที่เป็นใบ้อยู่คนหนึ่ง รูปร่างของเขาผอมแห้ง รับผิดชอบทำหน้าที่รับรองลูกค้าและยกน้ำยกชามาส่ง มือเท้าไม่คล่องแคล่วเลยแม้แต่น้อย

ได้ยินมาว่าเป็นชาวบ้านลี้ภัยที่หนีมาจากชายแดน เถ้าแก่ผู้เฒ่ามีเมตตาจึงรับเด็กหนุ่มไว้เป็นลูกจ้างร้าน ผ่านไปเกินครึ่งปี เขาก็ยังคงไม่เป็นที่ชื่นชอบ ขนาดลูกค้าประจำของร้านก็ยังไม่ค่อยชอบพูดคุยกับเด็กหนุ่มเท่าใดนัก

ยามสนธยาของวันนี้ ลูกค้าเริ่มบางตา ทว่าในร้านยังคงมีกลิ่นหอมของตุ๋นเนื้อหมาลอยอบอวล

เฉินผิงอันสั่งเหล้าท้องถิ่นของเมืองมาหนึ่งกา นั่งอยู่ตรงตำแหน่งใกล้กับประตูใหญ่ เถ้าแก่ผู้เฒ่ากำลังดื่มเหล้ากับลูกค้าประจำคนหนึ่งอย่างเต็มคราบ ใบหน้าแดงก่ำ ปากก็เล่าเรื่องหลานชายที่รักให้ทุกคนฟัง พอได้พูดเรื่องหลานชายก็ทำให้ผู้เฒ่าที่เดิมทีดื่มเหล้าได้แค่หนึ่งจินดื่มได้มากถึงสองสามจินก็ยังไม่ล้ม ดื่มไปดื่มมาเขาก็ยังไม่ลืมบอกกับตัวเองในใจเงียบๆ ว่าจะดื่มมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะดื่มมากก็ได้เงินน้อย ตอนนี้โลกไม่สงบสุข ในเมืองก็ดี หมู่บ้านใกล้กับเมืองก็ชาง แค่จะออกจากบ้านไปหาซื้อหมามาก็ยากแล้ว ลูกค้าเองก็ไม่เหมือนในอดีต เงินในกระเป๋าลูกค้าก็ยิ่งอยู่ไกลเกินกว่าจะเทียบกับเมื่อก่อนติด ดังนั้นตอนนี้จึงต้องยิ่งคิดคำนวณทุกอย่างให้ละเอียดรอบคอบ การเล่าเรียนของหลานชายยังต้องใช้จ่ายเงินอีกมาก จะให้ขัดสนไปเสียทุกเรื่องไม่ได้ เพราะจะทำให้หลานชายถูกสหายร่วมเรียนดูถูกเสียเปล่าๆ

พวกบัณฑิตที่เล่าเรียนหนังสือล้วนต้องมีหน้ามีตากันทั้งนั้น

เด็กหนุ่มลูกจ้างที่ร่างกายผอมดำยังคงง่วนอยู่กับการเก็บกวาดเศษซากจานชามบนโต๊ะตัวหนึ่ง เขายืนหันหลังให้เฉินผิงอัน

เฉินผิงอันดื่มเหล้าข้าวหมักไปสองถ้วยและกินกับแกล้มไปแล้วก็สั่งกับแกล้มจานเล็กๆ มาอีกสองสามจาน เขาดื่มเหล้าไม่มาก แต่กลับจ้วงตะเกียบไม่หยุด อาหารในจานจึงใกล้จะหมดเกลี้ยงแล้ว

เฉินผิงอันพลันเรียกชื่อของเด็กหนุ่มคนนั้น แล้วเอ่ยถามว่า “อีกเดี๋ยวข้าจะต้องรับรองแขกคนหนึ่ง นอกจากไก่บ้านแล้ว ในอ่างน้ำหลังร้านมีปลาหลีที่เพิ่งจับมาใหม่บ้างไหม?”

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับเงียบๆ

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ไปบอกพ่อครัวว่าให้ทำกับข้าวได้แล้ว เมื่อทำกับข้าวเสร็จแล้ว เพื่อนของข้าคนนั้นก็จะได้มานั่งที่โต๊ะ ใช่แล้ว ให้เพิ่มหน่อไม้ผัดเนื้อหมูไปด้วยหนึ่งจาน”

เด็กหนุ่มยังคงพยักหน้ารับ จากนั้นก็ไปที่เรือนด้านหลัง ใช้ภาษามือบอกกล่าวแก่ชายฉกรรจ์ที่กำลังนั่งพักอยู่ในห้องครัว ชายฉกรรจ์ที่เพิ่งจะได้พักหายใจหายคอสบถด่ายิ้มๆ แล้วจึงส่ายหน้าลุกขึ้นยืน ฆ่าไก่ควักไส้ปลา ต้องยุ่งอีกแล้ว แต่คนค้าขาย มีใครบ้างที่รังเกียจเงิน? เด็กหนุ่มมองแผ่นหลังของชายฉกรรจ์ที่เดินไปยังอ่างน้ำด้วยสายตาซับซ้อน สุดท้ายก็ออกจากห้องครัวมาเงียบๆ ไปจับไก่ตัวที่ใหญ่ที่สุดมา ผลกลับถูกชายฉกรรจ์ด่าขันๆ ว่านี่คือไก่ที่เก็บไว้ให้ลูกชายเขากินบำรุงร่างกาย ให้ไปเปลี่ยนตัวใหม่ เด็กหนุ่มเลยไปเปลี่ยนไก่ตัวใหม่ที่เล้าไก่ คราวนี้เขาเลือกตัวที่เล็กที่สุด ชายฉกรรจ์ก็ยังคงไม่พอใจ บอกว่าราคาเท่ากัน ลูกค้ากินไม่รู้หรอกว่าน้ำหนักอาหารมีมากหรือน้อย แต่คนทำการค้า ถึงอย่างไรก็ต้องมีคุณธรรมสักหน่อย ชายฉกรรจ์จึงไปเลือกไก่ตัวที่ค่อนข้างใหญ่มาด้วยตัวเองแล้วมอบให้เด็กหนุ่ม เรื่องฆ่าไก่ เด็กหนุ่มนับว่าค่อนข้างคล่อง ส่วนชายฉกรรจ์ก็ไปงมเอาปลาแม่น้ำที่ยังดีดดิ้นมีชีวิตมาหนึ่งตัว

เด็กหนุ่มชำเลืองตามองกรงหมาที่อยู่ในมุม แต่ไม่นานก็ดึงสายตากลับคืน

ปลาหลีราดน้ำแดงจานหนึ่งถูกยกขึ้นโต๊ะ

เด็กหนุ่มพบว่าเพื่อนที่ลูกค้าคนนี้พูดถึงยังไม่มา

เฉินผิงอันบอกแค่ว่ารออีกหน่อย รอให้อาหารจานที่สองขึ้นโต๊ะเสียก่อน

รอจนกระทั่งหน่อไม้ผัดเนื้อหมูกับไก่ผัดขิงต่างก็ถูกยกขึ้นโต๊ะแล้ว เด็กหนุ่มก็ยังไม่เห็นว่าเพื่อนของลูกค้าจะมาสักที

เด็กหนุ่มจึงทำท่าจะจากไป

เห็นเพียงว่าบุรุษชุดผ้าฝ้ายที่ท่าทางเหมือนคนขี้โรคพลันเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “อาหารขึ้นครบแล้ว รอแค่เจ้านั่งลงเท่านั้น”

เด็กหนุ่มมีสีหน้ามึนงง

ในร้านเนื้อหมาเหลือแขกแค่โต๊ะเดียว เถ้าแก่ผู้เริ่มพูดจาอ้อแอ้ไม่เป็นคำแล้ว เขายังคงร้องบอกให้ลูกค้าดื่มเหล้ามากๆ แน่นอนว่าตัวเองก็ดื่มไปไม่น้อย ดูจากสถานการณ์ คาดว่าความคิดที่จะไม่ลดราคาให้ลูกค้าคงถูกโยนทิ้งไปนานแล้ว

เฉินผิงอันพูดกับเด็กหนุ่มว่า “คิดดูแล้วเจ้าคงจะรู้ว่าข้าเดาสถานะของเจ้าออกแล้ว อีกทั้งเจ้าเองก็เดาออกว่าข้าเป็นผู้ฝึกตนคนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคราวก่อนนอกจากที่เจ้าจะยกอาหารมาวางแล้วก็คงไม่พยายามเดินอ้อมข้า แล้วก็จงใจไม่มองสบตาข้า ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าเลี้ยงอาหารมื้อนี้เจ้า อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อาหารและสุราล้วนเป็นเจ้าที่ยกมา ข้าต่างหากที่ควรต้องเป็นกังวล เจ้าจะต้องกลัวอะไร”

เด็กหนุ่มลังเลตัดสินใจไม่ได้

เฉินผิงอันชำเลืองตามองโต๊ะที่อยู่ห่างไปไกล แล้วยิ้มบางๆ กล่าวว่า “วางใจเถอะ เถ้าแก่ผู้เฒ่าดื่มจนเมาแล้ว ลูกค้าโต๊ะนั้นก็เป็นแค่ชาวบ้านทั่วไป ไม่มีทางได้ยินคำพูดระหว่างเจ้ากับข้า”

เด็กหนุ่มนั่งลงตรงข้ามกับเฉินผิงอัน แต่กลับไม่ได้หยิบตะเกียบขึ้นมา

เฉินผิงอันคีบเนื้อปลาหลีชิ้นหนึ่งขึ้นมา โน้มตัวไปข้างหน้า วางใส่ไว้ในถ้วยข้าวตรงหน้าเด็กหนุ่ม ก่อนจะคีบเนื้อหมูผัดหน่อไม้และไก่ผัดขิงวางลงในถ้วยเด็กหนุ่มด้วย

เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่น จ้องมองลูกค้าต่างถิ่นที่แปลกประหลาดผู้นี้เขม็ง

เฉินผิงอันถึงได้คีบอาหารให้ตัวเองแล้วก้มหน้าพุ้ยข้าวหนึ่งคำ เคี้ยวอย่างละเอียด กลืนลงคอแล้วจึงถามว่า “เจ้าคิดจะฆ่ากี่คน ชายฉกรรจ์ที่เป็นพ่อครัวต้องตายแน่อยู่แล้ว เถ้าแก่ผู้เฒ่าที่มีฝีมือในการ ‘จับหมา’ ที่ชั่วชีวิตนี้ไม่รู้ว่าซื้อและขโมยหมาจากชานเมืองมาแล้วกี่ตัวก็ยิ่งต้องตาย ถ้าอย่างนั้นเด็กที่ยังเรียนชั้นประถมคนนั้นล่ะ เจ้าจะฆ่าด้วยหรือไม่? ลูกค้าที่คุ้นหน้าคุ้นตากันซึ่งชินกับการกินเนื้อหมาพวกนี้ เจ้าจำได้กี่มากน้อย แล้วจะฆ่าพวกเขาด้วยหรือไม่?”

สองมือที่วางไว้บนหัวเข่าของเด็กหนุ่มกำเป็นหมัดแน่น สีหน้าของเขาเย็นชา กดเสียงต่ำพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “เจ้าจะขัดขวางข้าหรือ?”

เฉินผิงอันย้อนถาม “ขัดขวางเจ้าแล้วอย่างไร ไม่ขัดขวางเจ้าแล้วอย่างไร?”

เด็กหนุ่มพูดเสียงหนัก “ถ้าเจ้ากล้าขวางข้า ข้าก็กล้าฆ่าเจ้า!”

เฉินผิงอันใช้มือหนึ่งคีบอาหาร ยิ้มพลางผายมือข้างที่ว่างออก บอกเป็นนัยให้เด็กหนุ่มกินอะไรเสียก่อน “ยังไม่ต้องพูดถึงว่าตบะน้อยนิดของเจ้าจะฆ่าข้าได้หรือไม่ ไม่สู้พวกเรามากินข้าวดื่มเหล้าให้เต็มอิ่มกันเสียก่อน แล้วค่อยมาลองดูว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ อาหารบนโต๊ะนี้ หากคิดตามราคาตลาดปัจจุบัน จะอย่างไรก็ควรจะมีเจ็ดแปดเฉียนกระมัง นี่ยังเป็นราคายุติธรรมของร้านขายเนื้อหมาแห่งนี้แล้วด้วย หากเปลี่ยนมาเป็นภัตตาคารในเมืองที่จอแจ คาดว่าก็คงกล้าตั้งราคาถึงหนึ่งตำลึงห้าเฉียน จะกินก็กิน ไม่มีเงินก็ไสหัวไป”

เด็กหนุ่มจ้องมองดวงตาของคนหนุ่มอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงก้มหน้ากินข้าว เขาไม่ได้คีบกับข้าว คิดว่าหากวันนี้ต้องถูกผู้ฝึกตนตรงหน้าผู้นี้กำจัดปีศาจปราบมารจริงๆ จะดีจะชั่วตนก็ควรกินให้อิ่มสักมื้อ!

เด็กหนุ่มเริ่มกินข้าว เฉินผิงอันกลับหยุดตะเกียบ เพียงแค่รินเหล้าส่วนสุดท้ายที่เหลืออยู่ในกามาจิบคำเล็กๆ จากนั้นก็ใช้สองนิ้วคีบถั่วลิสงที่เหลืออยู่ไม่มากในจานใบหนึ่งขึ้นมา

เฉินผิงอันดื่มเหล้าและกินกับแกล้มหมดแล้วก็สอดสองมือไว้ในชายแขนเสื้อ นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!